จากกรณี ดร.ปฐมพงษ์ เผยแพร่ข้อความเผยแพร่ผ่าน Blockdit ระบุถึงรัสเซียส่งอาวุธเข้าไปเสริมที่เบลารุสบริเวณชายแดนที่ติดกับยูเครนเพิ่มเติม พร้อมคาดว่ายูเครนจะโดนบุกจากทางภาคเหนือขึ้นกับ timing ว่าจะเป็นเมื่อไหร่นั้น
ทั้งนี้ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้เปิดเผยระหว่างที่กองทัพยูเครนที่บัคมุตใกล้จะแตก
กองทัพยูเครนกำลังโดนล้อมรอบด้าน ไม่มีทั้งเสบียง ไม่มีทั้งกองทัพอื่นๆ พร้อมอาวุธจะมาช่วยเหลือนายทหารยูเครนจำนวนมากเห็นว่ารบไปก็แพ้ และเสียชีวิตกันเปล่าๆ ในที่สุดก็พากันออกแถลงการขอไม่สู้รบให้กองทัพยูเครนอีกต่อไป เข้าใจว่า จากนี้ไปก็คงจะหันมาสวามิภักดิ์ต่อกองทัพรัสเซีย”
ล่าสุดดร.ปฐมพงษ์ ยังได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่บัคมุตเพิ่มเติมอีกว่า “ท้องฟ้าที่บัคมุตเมื่อคืนวานนี้…สถานการณ์ของกองทัพยูเครนในขณะนี้คือ ๑.หลายแห่งไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ข้ามาเสริม ๒.หลายแห่งไม่มีเสบียง
กองทัพรัสเซียค่อยๆบด ให้กองทัพยูเครนกรอบเสียก่อนก็จะมีชัยได้ไม่ยาก ขณะนี้ กองทัพยูเครนตกเป็นเป้าโจมตีของรัสเซียพร้อมๆกันในหลายๆจุดทุกๆวัน ถ้ารักษาพื้นที่ไม่ได้ก็เสียชีวิตไป ถ้าหลบหนีไปทันก็รอดตาย ที่กำลังรอการโจมตีของรัสเซียก็รอด้วยใจระทึก
“ทหารยุเครนโคตรประมาท อยู่ในสมรภูมิแท้ๆ แต่ทะลึ่งยืนพูดคุยโทรศัพท์ เหมือนยืนคุยกันในห้าง ในที่สุด โดนสไนเปอร์รัสเซียเก็บจนได้”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงถึงการลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือของบรรดานายทหารว่าเป็นต้นตอของเหตุยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตี ที่สังหารกำลังพลของมอสโกไป 89 ราย ถือเป็นการปรับเพิ่มตัวเลขนายทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจากเดิมอีกหลายสิบนาย
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังเผยอีกว่า ขีปนาวุธยูเครน 4 ลูก พุ่งตรงใส่ค่ายทหารชั่วคราวแห่งหนึ่งของรัสเซีย ในวิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในเมืองมากีอีฟกา เมืองแฝดของเมืองเอกแห่งแคว้นโดเนตสก์ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมอสโก ทางภาคตะวันออกของยูเครน
แม้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างเป็นทางการ แต่ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า เหตุผลหลักของเหตุโจมตีครั้งนี้ ชัดเจนว่าเป็นการลอบใช้โทรศัพท์มือถือกันเป็นจำนวนมากของบรรดากำลังพล “ปัจจัยนี้เปิดทางให้ศัตรูแกะรอยและระบุตำแหน่งที่ตั้งของเหล่าทหารสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธ” ถ้อยแถลงระบุ