สามนิ้วดิ้นพล่านเมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญฯ! ผู้ร่วมคอนเสิร์ต BLACKPINK เผยทั้งสนามศุภฯลุกเคารพพร้อมเพรียง ยันแค่ส่วนน้อยที่โห่ เสียงไม่ดัง

0

เมื่อวานนี้มีวงดังระดับโลกอย่างวง BLACKPINK มาจัดคอนเสิร์ตที่ไทย บัตรขายหมดภายในไม่กี่นาที และที่สำคัญคนแย่งกันซื้อกันจ้าละหวั่น แต่พอเมื่อเริ่มแสดงก็มีดราม่าเกิดขึ้นเบาๆ เมื่อมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี ก็มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งทำการโห่ร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ

ในเรื่องนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊คท่านหนึ่งออกมาแสดงควาคิดเห็นอย่างน่าสนใจว่า เพลงสรรเสริญ เปรียบเสมือนน้ำมนต์💦

เมื่อพรมโดนคน คนก็จะร่มเย็น มีความสุข แต่เมื่อพรมโดนที่ไม่ใช่คน ก็จะโหยหวน เหมือนโดนข้าวสารเสก เอากลาง ๆ คือ ไม่เปิดเพลงสรรเสริญก็ได้นะ เชื้อพระวงศ์ท่านก็ไม่อะไรมากหรอก มาเพื่อเอนจอยกันทั้งนั้น แต่บ้านเราธรรมเนียมปฏิบัติกันมาแบบนี้ ในเมื่อเปิดเพลงแล้วหากไม่อินไม่เห็นด้วยแค่อยู่เฉย ๆ ก็ยังดูมีมารยาท ดูมีอารยะกว่า อันนี้โห่ ? น่าขายหน้ามาก กลายเป็นด้อม(Fandom)คุณภาพต่ำไปเลย ทั้งๆที่ด้อมหลายคนก็ยังเทิดทูนสถาบัน แต่โดนเหมารวมไปด้วย

เงียบไป ไม่เคารพ ยืนยุกยิกยังดูดีซะกว่าส่งเสียงโห่แบบนี้ ศิลปินเป็นถึงระดับโลก แต่ไม่เคยลืมความเป็นไทย แล้วดูสภาพติ่งบางคน ที่โห่ใส่เพลงสรรเสริญพระบารมี คือคิดว่าใครจะชื่นชมเหรอ คนไทยไม่ได้มีแค่ในสนามศุภฯ นะ แสดงออกแบบนั้นมันต่ำมากกว่าเท่

พวกที่บอกว่าเสียเงินมาดู BP ไม่ได้เสียเงินมาฟังเพลงสรรเสริญนี่ ใช้หัวเข่าคิดเหรอ คนที่อยู่ในนั้นไม่ได้เห็นด้วยกับพวกคุณหมดหรอก ก็แค่พวกมีปมอยู่ในกะลา แสงส่องไม่ถึง ความถ่อยที่สะสมไว้มันเลยทะลักออกมา คงอยากโผล่หัวออกมาชูคออยู่ในสังคมของคนมีอารยะ 🙄 แต่โทษทีพฤติกรรมไม่ผ่าน อย่าให้ใครๆ เค้าเรียก “เด็กสมัยนี้” เลย พฤติกรรมมันชัด ถ้าผู้บริหารบ้านเมืองไม่เอาจริงกับเรื่องนี้ ก็เตรียมตัวพังพินาศกันได้

ด้าน ดร.ศุภณัฐ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า เพลงสรรเสริญพระบารมี คือ เสียงจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตย การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 นอกจากจะมีริ้วขบวนธงชาติ ขบวนเสมาธรรมจักร ขบวนเดโชชัย (อันเชิญพระบรมฉายาลักษณ์) แสดงให้เห็นว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยไทย ที่ได้ยึดเหนี่ยวประชาชนไว้ด้วยกัน และยังมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกด้วย

ทั้งนี้ ศ.ดร.รอส พริสเซีย ได้เคยตีพิมพ์หนังสือ Thailand in Transition ผ่านสำนักพิมพ์ University of Hawaii Press ในปี ค.ศ. 1985 มีข้อความหลายช่วงหลายตอน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นการต่อสู้เพื่อขับไล่เผด็จการทหาร โดยไม่ได้มีความขัดแย้งกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด อีกทั้งผู้ประท้วงได้มีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อแสดงเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างแจ่มชัด

ดังนั้น เมื่อได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมี ผมจึงไม่ลังเลที่จะยืนตรงด้วยความภาคภูมิใจเสมอ และจะปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไป เพราะการยืนตรงให้เพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงความจงรักภักดีเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการยืนตรงเพื่อแสดงความเคารพและให้เกียรติต่อจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 14 ตุลา ที่เคยหลอมรวมและยึดโยงปวงชนชาวไทยไว้ด้วยกันภายใต้ความรักและความสามัคคี

ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกท่าน ที่ไปรอรับลูกส่าวหลังจากกลับจากคอนเสริตนี้ โดยได้มีการสนทนาเล็กๆน้อยๆ ได้ใจความว่า ไม่มีการโห่มากอย่างที่ข่าวลง มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำ