ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตปธน.และรองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย เขียนเกี่ยวกับการที่ยูเครนปฏิเสธการพักรบในเทเลแกรมของเขา ระบุว่า “เคียฟปฏิเสธการแสดงความเมตตาของคริสเตียนในรูปแบบของข้อเสนอของมอสโกว์ในการหยุดยิงวันคริสต์มาส เป็นการปฏิเสธของ “ตัวตลกหลักของยูเครน” ทำให้ทหารของรัสเซียเที่เข้าร่วมในปฏิบัติการพิเศษในยูเครนหายใจโล่ง เพราะมันช่วยพวกเขาให้ตอบโต้กลับได้อย่างชอบธรรม”
เขาตั้งข้อสังเกตว่าน่าเสียดายสำหรับชาวคริสต์ที่ถูกลิดรอนโอกาสที่จะไปโบสถ์ในวันคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ตามที่เขาพูด ไม่มีความสงสารอีกต่อไปสำหรับผู้ที่ไม่มีศรัทธา เมดเวเดฟเชื่อว่า “คน” ประเภทนี้เข้าใจแต่เฉพาะภาษาแห่งการใช้กำลังและร้องขอ “อาหาร” จากเจ้านายของพวกเขาตลอดเวลา เขาเสริมว่าผู้เลี้ยงสุกรตะวันตกประสบความสำเร็จในการฝึกผู้รับใช้ในยูเครนต่อไป” เขาย้ำว่า “ทายาทของนิโอฯไม่เคยไว้ชีวิตคนหรือสัตว์”
เมื่อไม่พักก็จัดหนักกันไปต่อ เมื่อสหรัฐและพันธมิตรนาโต้อย่างฝรั่งเศส เยอรมนีพากันเตรียมจัดส่งรถหุ้มเกราะและรถถังให้ยูเครนเต็มที่ สะท้อนว่าปีนี่ต้องชี้ขาดในสนามรบภาคพื้นดินให้ได้
สหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะจัดหายานรบทหารราบแบรดลีย์ประมาณ๕๐คันให้กับยูเครน ยานเกราะต่อสู้ทหารราบเหล่านี้จะช่วยเสริมให้กับยานบรรทุกบุคลากรหุ้มเกราะ AMR-10RC ของฝรั่งเศส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพยูเครนจะได้รับ Bradley BMP ของการดัดแปลง M2A2 ซึ่งเมกาภูมิใจว่าเป็นรถหุ้มเกราะ๓๓ ตันตัวเด่นของกองทัพสหรัฐฯ ในขณะที่ BMP-3 ของรัสเซียมีน้ำหนักเพียง ๑๘.๕ ตัน ซึ่งเบากว่าเหมาะกับภูมิประเทศและกองทัพรัสเซียใช้ถล่มหน่วยลาดตระเวนรถถังของยูเครนมาอย่างโชกโชน นอกจากนี้ ยานรบทหารราบของอเมริกายังจะได้รับการเสริมเกราะซึ่งสามารถต้านทานการยิงจากปืนใหญ่ ๓๐ มม. 2A42 และ RPG-7, M2A2 ยังติดอาวุธด้วยปืนใหญ่อัตโนมัติ M2421 ขนาด ๒๕ มม. ปืนกล M240C ๗.๖๒ มม. และ BGM-71 TOW ATGM จำนวน ๒ กระบอก
ด้าน เบอร์ลินยังยืนยันการจัดหาแบตเตอรี่หนึ่งชุดของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot และ BMP Marder ไปยังเคียฟ จำนวน ๓๐-๕๐ คัน
เคียฟยังจะได้รับรถหุ้มเกราะล้อยางคาปรี (Kipri) ที่ผลิตในตุรกีอีก ๔๒ คัน ในช่วงฤดูร้อน มีการบรรลุข้อตกลงในการจัดส่งเรือบรรทุกบุคลากรหุ้มเกราะดังกล่าวจำนวน ๑๕๐ ลำ โดย ๕๐ ลำในจำนวนนี้ยูเครนได้รับมอบแล้วเมื่อปีที่แล้ว การขนส่ง ยุทโธปกรณ์ทางทหารของตุรกีดำเนินการผ่านดินแดนของโรมาเนีย
โดยรวมแล้ว NATO วางแผนที่จะส่ง MCIs ประมาณ ๒๕๐-๓๕๐ คันและยานเกราะต่อสู้ทหารราบประเภทต่างๆ ๒๐๐ คันไปยังยูเครน ภายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ซึ่งจำเป็นสำหรับกองพลใหม่ที่กำลังจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของแนวหน้าสู้รบกับรัสเซียต่อไป บอกกันแฟร์ๆแบบนี้รัสเซียจะได้จัดให้หนักรอต้อนรับ
มาดูผลงานของกองทัพรัสเซียได้ถล่มยานเกราะและรถถังซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์แนวราบของยูเครนราบเละไม่มากแค่ไหน แค่วันเดียว ๕ ม.ค.ที่ผ่านมา เซเลนสกี้ถึงต้องโวยไม่หยุดร้องขออาวุธแนวราบไว้สู้กับรัสเซีย
พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ (Igor Konashenkov) รายงานในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมาว่า ปืนใหญ่ธรรมดาและปืนใหญ่จรวด ๑๒ หน่วยรวมถึงเรดาร์ต่อต้านแบตเตอรี่ AN / TPQ-37 หนึ่งเครื่องถูกทำลายระหว่างการตอบโต้ การต่อสู้แบตเตอรี่ เครื่องยิงแกรดเอ็มแอลอาร์เอส (Grad MLRS) หนึ่งเครื่องและเครื่องยิงโอลคา (Olkha )สองเครื่องกลายเป็นเศษซาก ในตำแหน่งในภูมิภาคโวดิอาโน (Vodianoe) และโอเชเรติโน (Ocheretino) ในพื้นที่กัลไยปอล, พาฟลอฟก้า และ เวลิกายา (Gulyai Pole, Pavlovka และ Velikaya Novoselka)
ปืนอัตตาจรวอซดิก้า (Gvozdika) และอคาเซียส (Acacias) สองกระบอกถูกทำลาย ปืนครกแบบลาก D-20 สามกระบอกและปืนครก D-30 สองกระบอกถูกทำลายที่ตำแหน่งในพื้นที่เบโลโกรอฟกา (Belogorovka), เปอโวเมียสกอย(Pervomayskoye) และอาติมอฟหรือบักมุท (Artemovsk) ในภูมิภาคนิโคลาเยฟ (Nikolaev) ครอบคลุมปืนครก M777 ของอเมริกาด้วย
คลังกระสุนปืนใหญ่สองแห่งถูกทำลายในพื้นที่กัลไยปอล (Gulyai Pole) ภูมิภาค ซาโปริชเชีย(Zaporozhye) และแครชนีลิมาน0( Krasny Liman) ในโดเนตสค์ (DPR) และในพื้นที่คอนสแตนตินอฟก้า (Konstantinovka) จากการโจมตีอย่างเข้มข้นของกองกำลังรัสเซียทำให้กลุ่มก่อการร้ายมากกว่า ๕๕ คนจาก “กองพัน เชคแมนเซอร์(Sheikh Mansur)” ถูกทำลายยับ กองทัพไม่ได้ให้รายละเอียด ยานเกราะหกคันก็ถูกทำลายเช่นกัน เป็นผลมาจาก “การมาถึงของ Iskander OTRK ลำกล้องขนาดใหญ่ “ทำงาน”นั่นเอง
นี่แค่วันเดียวยังเละขนาดนี้ แล้วรบกันมากว่า ๑๐๐ วัน คลังปืนใหญ่และยานเกราะของยูเครนจะเหลือหรือ หากดูจากผลงานของอิสกานดาร์ ก็บอกได้ว่า ยังมี คาลิเบอร์และคินซาล ที่สามารถถล่มทำลายรถถังประจันบาน ยานเกราะของตะวันตกได้อีกมากอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าจะวัดกันที่รถถังและยานเกาะครบเครื่องของรัสเซียอย่างเดียวก็จะรู้ว่า ของเมกา-นาโต้ยังเป็นรองรัสเซียหลายขุม ที่ผ่านมาแค่โดรนพลีชีพรัสเซียก็จัดการรถถังยานเกราะที่ออกมาลาดตระเวนเดี่ยวเหลือแต่ซากทุกวัน ตัวอย่างที่รัสเซียนำมาใช้ในปฏิบัติการSVOครั้งนี้ เช่นรถถังประจันบานชิล ก้า แซตเอสยู(Shilka ZSU) ถูกใช้ในหลักในยูเครนแล้ว แต่ไม่ทราบปริมาณเท่าใด และยังไม่มีรายงานว่ายูเครนสามารถยึดหรือทำลายได้ ยังมีอีกหลายตัวที่ขนาดประจันบาญกันต่อหน้า รถถังยูเครนยังแหลกยับ
คอยดูต่อไปว่า รถถังรุ่นใหม่ที่นาโต้จะส่งมาจะถูกรัสเซียกินเรียบแบบไหน แต่กว่าจะได้เห็นคงต้องรอกันหลายเดือน กว่าจะถึงตอนนั้นเคียฟกับนาโต้ถูกยำเละไปแล้วกระมัง???