เมกา-อิสราเอลหนาว!? อิหร่านคืนดีซาอุฯ ซ้อมรบร่วมรัสเซีย-จีน แหกมอซสาดประกาศล่าคนเด็ดชีพนายพลโซไลมานี

0

รองประธานาธิบดีอิหร่านให้รายละเอียดเกี่ยวกับการพูดคุยของเขากับรัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียในบราซิล โดยกล่าวว่าราชอาณาจักรได้แสดงความพร้อมที่จะเริ่มการเจรจาใหม่เกี่ยวกับการสร้างสายสัมพันธ์กับอิหร่าน

โมฮัมหมัด ฮอสเซนี รองประธานฝ่ายกิจการรัฐสภาของอิหร่าน(Iran’s Vice President for Parliamentary Affairs Mohammad Hosseini) กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมคณะรัฐมนตรีในกรุงเตหะรานเมื่อวันพุธว่า เขาได้จัดการพูดคุยอย่างกว้างขวางกับรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย ขณะที่พวกเขาเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล

ฮอสเซนีกล่าวว่า “นักการทูตชั้นนำของซาอุดิอาระเบียรับฟังคำพูดของเขาอย่างอดทนและแสดงความคิดเห็นของเขาเองเช่นกัน”

เขาตั้งข้อสังเกตว่าหัวข้อหลักของการเจรจาคือชะตากรรมของการเจรจาระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบียซึ่งเริ่มต้นจากการไกล่เกลี่ยของอิรัก ฮอสเซนีกล่าวว่า“ทางการซาอุดีอาระเบียแสดงความพร้อมสำหรับการเริ่มการเจรจาใหม่ กับอิหร่าน”

ประเด็นนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบียยินดีกับแนวคิดที่จะจัดการประชุมหลายครั้งเพื่อจัดการกับข้อแตกต่างและข้อกังวลเพื่อให้ได้ข้อสรุป เขากล่าวเสริมว่า“กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กำลังติดตามความคืบหน้าและใช้มาตรการหลายอย่างให้บรรลุเป้าหมาย  ทั้งอิหร่านและซาอุดีอาระเบียต่างเป็นสองประเทศใหญ่และมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้ที่ได้ร่วมมือกันในด้านต่างๆมาแล้ว เช่น การแสวงบุญและการท่องเที่ยว” 

ฮอสเซนี ชี้ให้เห็นถึงจำนวนชาวอิหร่านจำนวนมากที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในแต่ละปี และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างเตหะรานและริยาด ฮอสเซนีกล่าวว่าทั้งสองประเทศเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ให้เป็นรูปธรรม

ตัวแทนของอิหร่านและซาอุดีอาระเบียได้จัดการเจรจาหลายรอบในกรุงแบกแดดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถูกขัดจังหวะจากสหรัฐฯที่เป็นอดีตพันธมิตรที่ใกล้ชิดของซาอุดีอาระเบีย ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกรุงเตหะรานและกรุงริยาดเริ่มสั่นคลอนหลังการประหารชีวิตเชค นิมร์ อัล-นิมร์ ชีค นิมร์ อัล-นิมร์ นักบวชนิกายชีอะห์ในเดือนมกราคม ๒๕๕๙ ซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ของซาอุดีอาระเบียอย่างเปิดเผยในซาอุดีอาระเบีย เหตุการณ์ประท้วงตอบโต้กันไปมาจนเกิดการเสียชีวิตทำให้ริยาดตัดความสัมพันธ์กับเตหะรานหลังจากนั้น 

ความพยายามครั้งใหม่นี้สร้างความวิตกกังวลแก่สหรัฐและอิสราเอลอย่างมาก แต่ประเด็นเรื่องปาเลสไตน์อาจทำให้สองรัฐอิสลามที่แม้จะนับถือนิกายต่างกัน อาจหันกลับมาร่วมมือแบบแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างได้อีกครั้งเพราะต่างก็สนิทแน่นแฟ้นกับรัสเซียและจีน

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาอิหร่านได้ตอกย้ำปฏิบัติการทวงแค้นศัตรู กระทรวงต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์เพื่อระลึกถึงวันครบรอบ ๓ ปีของการพลีชีพของพลโทคาสเซ็ม โซไลมานี (Qassem Soleimani)

อิหร่านพบว่า สหรัฐฯร่วมกับมอซสาดของอิสราเอล ลอบสังหารนายพล Soleimani อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุ๊ดส์ (Quds Force) ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) พร้อมด้วยอบู มะห์ดี อัลมูฮันดิส (Abu Mahdi Al Muhandis) รองผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย (Popular Mobilization Units) ของอิรัก และพรรคพวก ในการโจมตีด้วยโดรนภายใต้คำสั่งของทรัมป์ ใกล้สนามบินนานาชาติแบกแดด เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๐๒๐

ประธานาธิบดีอิหร่าน อิบราฮิมไรซี กล่าวว่า “เรายังไม่ลืมและจะไม่ลืมการล้างแค้นเลือดของผู้บัญชาการระดับสูง” เขากล่าวกับฝูงชนและตอกย้ำว่า โซไลมานี เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับการกดขี่และความเย่อหยิ่งทั่วโลก

ไรซีให้คำมั่นว่า“เราจะไม่ปล่อยให้ฆาตกรและผู้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมนอนหลับอย่างสบาย” ขณะที่ได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการสังหารโหดครั้งนั้นรวมทั้งสิ้น ๙๔ คน ในนั้นมีชาวอเมริกัน ๕๑ คน 

ในมิติแห่งการทหาร ปลายปีที่แล้วอิหร่านได้เข้าร่วมซ้อมรบกับรัสเซียและจีนบริเวณมหาสมุทรอินเดีย แต่สื่อตะวันตกไม่ได้เผยแพร่มากเท่าโฆษณาการซ้อมรบของสหรัฐกับพวกในเอเชีย-แปซิฟิก และมีรายงานว่าจะจัดซ้อมรบกันอีกครั้งเร็วๆนี้ นอกจากนี้ผู้บัญชาการกองกำลังอวกาศของอิหร่านแย้มว่าจะมีการเปิดตัวขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกของอิหร่านอีกด้วย

พลเอก ฮัจญีซอเดะห์ ผู้บัญชาการกองกำลังอวกาศ IRGC กล่าวว่า “กองทัพฯจะเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนี้ในเร็ว ๆ นี้ สิ่งนี้มีความหมายมากต่อสหรัฐฯ เรามั่นใจว่าร้านขายอาวุธของพวกเขาจะถูกปิดลง และระบบป้องกันของพวกเขาซึ่งขายให้กับประเทศต่างๆ ก็จะไร้ค้าไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เพราะมันทำอะไรอาวุธของเราไม่ได้นั่นเอง”

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการให้เกียรติสูงสุดแก่นายพลวีรบุรษ หัวหน้าองค์การอวกาศอิหร่านเสนอชื่อโครงการอวกาศที่สำคัญที่สุดโครงการหนึ่งของประเทศซึ่งรวมอยู่ในแผน ๑๐ ปี และกล่าวเสริมว่าเรากำลังเตรียมการสำหรับการดำเนินการ ปล่อยดาวเทียมจำนวนมากขึ้นสู่วงโคจรและสร้างระบบอวกาศที่สามารถให้บริการ Internet of Things (IOT) หนึ่งในนั้นจะมีชื่อว่า “นายพลโซไลมานี”