หลังจากจีนแต่งตั้งรมว.ต่างประเทศคนใหม่ ก็โดนสหรัฐและพวกเสยคางให้อย่างแรงตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ ด้วยการโหมกระแสคนจีนติดเชื้อโควิดอย่างหนัก และสั่งเข้มงวดนักเดินทางของจีนอย่างแข็งกร้าว สภาวะแบบนี้ส่งสัญญาณบอกอะไรชาวโลก แม้ว่าสื่อหลักทั้งฝั่งตะวันตกและเอเชียต่างวาดภาพทูตคนใหม่ของจีนจะมาปรับประสานสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐให้ดีขึ้น แต่ความจริงสวนทาง ดูเหมือนว่าอาการจะน่าเป็นห่วงกว่าเดิม เพราะพฤติกรรมยั่วยุให้ประชาชาติทั่วโลกแตกแยกแบ่งข้าง ได้แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าด้วยฝีมือการปั่นของเมกา ตั้งแต่เริ่มระบาดก็ใส่ร้ายจีนเป็นฝ่ายแพร่เชื้อโรค เขาปิดบ้านรักษาชีวิตพลเมืองก็ด่าว่าโควิดเป็นศูนย์เห็นแก่ตัว พอจีนเปิดบ้านก็ใส่ร้ายว่าคนจีนติดเชื้อหนัก ต้องห้ามไม่ให้เข้าประเทศ ลืมส่องกระจกดูตัวเองว่า สหรัฐหัวโจก และตะวันตกปิดบังและบิดเบือนข้อเท็จจริงการระบาดมากแค่ไหน หลอกขายวัคซีนรวยกันกระเป๋าตุง
วันนี้จีนเปิดประเทศไม่กลัวโควิดอีกแล้ว เพราะจีนนอกจากมีวัคซีนของตัวเองหลายชนิด ยังมีแพทย์แผนจีนที่ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า รับมือเชื้อโรคอยู่ แต่สหรัฐและตะวันตกไม่มีและไม่รู้จักแพทย์แผนตะวันออกที่เต็มไปด้วยสมุนไพรและวิธีการรักษาที่สืบเนื่องมานับพันปี
วันที่ ๕ ม.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวซินหัวและโกลบัลไทมส์รายงานว่า สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศไม่เห็นด้วยกรณีสหรัฐและอียู ที่นำมาตรการเข้มงวดตรวจ COVID-19 กลับมาใช้กับผู้เดินทางจากจีนเท่านั้น เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ด้านจีนออกมาประณาม ท่าทีสองมาตรฐานของตะวันตกและประกาศจะตอบโต้กลับแบบตาต่อต่อต่อประเทศที่ไม่เป็นมิตร
รายงานได้อ้างบทสัมภาษณ์นายวิลลี่ วอลช์ (Willie Walsh) ผู้อำนวยการสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาต้า (International Air Transport Association: IATA) ว่า ไออาต้าไม่เห็นด้วยกับกรณีที่หลายประเทศเริ่มนำมาตรการควบคุม COVID-19 เช่น การกำหนดให้ตรวจหาเชื้อ COVID-19 ก่อนเดินทางกลับมาใช้กับเที่ยวบินที่เดินทางจากประเทศจีน โดยให้เหตุผลว่าวิธีการดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถควบคุมการระบาดได้จริง และ COVID-19 ยังระบาดอยู่ทั่วไปไม่จำกัดแต่เฉพาะในจีน
นอกจากนี้ ไออาต้าเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ เชื่อตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกซึ่งไม่แนะนำให้จำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศ รวมทั้งตัดสินใจบนหลักความจริงทางวิทยาศาสตร์ (Science facts) มากกว่า นำไปหาประโยชน์ทางการเมือง
ด้านจีนประณามสหรัฐและสหภาพยุโรปกรณีบังคับใช้มาตรการควบคุมCOVID-19 ที่เจาะจงเฉพาะนักเดินทางจากจีน
นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงประณามมาตรการป้องกันและควบคุม COVID-19 ที่เจาะจงเฉพาะนักเดินทางจากจีนของบางประเทศ เนื่องจากขาดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และไม่เป็นที่ยอมรับตามหลักสากล พร้อมเตือนว่าจีนอาจพิจารณาใช้มาตรการที่คล้ายคลึงกันเพื่อตอบโต้ประเทศที่ใช้มาตรการดังกล่าว ก่อนหน้านี้หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ประกาศบังคับใช้มาตรการให้นักเดินทางจากจีนต้องแสดงผลการตรวจ COVID-19 เป็นลบก่อนออกเดินทาง เนื่องจากห่วงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีน
หลี่ ไห่ตง ศาสตราจารย์ที่ สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยการต่างประเทศจีน กล่าวว่า “สหรัฐฯ มักจะใช้การแพร่ระบาดเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองโดยออกแคมเปญป้ายสีที่มุ่งเป้าไปที่จีน และใส่ร้ายความพยายามทั้งในประเทศและทั่วโลกของจีนในการต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งสะท้อนถึงยุทธศาสตร์ของจีนที่โดดเด่น โดยสหรัฐมองว่าเป็นการแข่งขันและชิงดีชิงเด่น
เมื่อพูดถึงมาตรการตอบโต้การเลือกปฏิบัติที่ไม่จำเป็นของสหรัฐฯ ต่อนักเดินทางจากจีน หลี่กล่าวว่าจีนสามารถใช้มาตรการตอบโต้ เช่น กำหนดให้มีการทดสอบ PCR แบบบังคับกับผู้ที่เดินทางจากสหรัฐฯและตะวันตกที่บังคับแบบเดียวกัน ที่จะเดินทางไปยังจีน ก็เป็นเรื่องที่สมน้ำสมเนื้อ
ปัจจุบันจีนได้ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็น “คุ้มครองสุขภาพ สกัดอาการรุนแรง” โดยยุทธศาสตร์ส่วนหนึ่งอาศัยจุดแข็งอันมีลักษณะเฉพาะของการแพทย์แผนจีน (TCM)
กลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน ได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารการแพทย์แผนจีนแห่งชาติจีน และทีมผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนจีน ร่วมตอบประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง
หมี่เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่าจีนส่งเสริมการบูรณาการแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนตะวันตกในการรับมือโรคโควิด-19 เพื่อเพิ่มอัตราการรักษา ลดอัตราการป่วยหนักและการเสียชีวิต รวมถึงกระตุ้นการหายดีโดยเร็วของผู้ติดเชื้อ
จางจงเต๋อ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน เผยว่ายาแพทย์แผนจีนสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เด่นชัด เช่น มีไข้สูง ท้องอืด และท้องผูก ในผู้ติดเชื้ออาการหนัก
หลิวชิงเฉวียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนปักกิ่ง สังกัดมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นครหลวง ระบุว่าปกติผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาด้วยยาแพทย์แผนจีนตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีไข้ลดลงจนอุณหภูมิร่างกายกลับสู่ระดับปกติภายในระยะเวลา 2-3 วัน
