จีนจะเป็นประเทศที่แสดงปาฏิหารย์ผ่านการทำงานหนักในขณะที่เดินหน้าต่อไป ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวขณะกล่าวสุนทรพจน์ปีใหม่ ๒๐๒๓ ในคืนวันเสาร์ ซึ่งเป็นสุนทรพจน์ครั้งที่ ๑๐ ที่เขากล่าวตั้งแต่ปี ๒๐๑๔ นอกจากนี้ เขายังยกย่องความพยายามที่มุ่งมั่นของชาวจีนทุกคน ได้เอาชนะความยากลำบากและความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเรียกร้องให้มีความสามัคคีมากขึ้นในขณะที่แสงแห่งความหวังอยู่ตรงหน้าเรา
ท่าทีล่าสุดของจีนต่อประเทศมหาอำนาจสองฝ่ายคือสหรัฐฯและรัสเซียช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว รัฐบาลจีนวิพากษ์วิจารณ์อย่างโกรธเกรี้ยวเรื่องที่สหรัฐฯ เพิ่มรายชื่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์จีน ๓๖ แห่งเข้าไปในบัญชีดำหรือ เอ็นไททีลิสต์ “entity list” ของอเมริกา “ซึ่งจะจำกัดบริษัทเหล่านี้ในการซื้อหาสินค้าและบริการต่างๆ ของอเมริกัน” เรียกว่าขัดแข้งขัดขากันแบบสุดฤทธิ์
ตามคำแถลงของสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security หรือ BIS) แห่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ บริษัทจีนที่ถูกแซงก์ชันรอบล่าสุดนี้ รวมถึงบริษัทแยงซี เมโมรี เทคโนโลจีส์ คอมพานี (Yangtze Memory Technologies Co หรือ YMTC) ที่เป็นผู้ผลิตชิปความจำแบบ NAND flash รายใหญ่เป็นอันดับ ๖ ของโลก และบริษัท แคมบริคอน เทคโนโลจีส์ (Cambricon Technologies) บริษัทสตาร์ทอัปซึ่งดำเนินกิจการด้านชิปปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence chip)
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงตอบโต้ว่า จีนจะป้องกันสิทธิและผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัทจีนและสถาบันของจีนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่หลายรายพูดว่า จีนกับสหภาพยุโรปควรที่จะจับมือกันคัดค้านความเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งมุ่งส่งเสริมให้มีการหย่าร้างแยกขาดห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนพฤติการณ์แบบลัทธิกีดกันการค้า ที่อ้างว่าเป็นการพิทักษ์ป้องกันความมั่นคงแห่งชาติ
ฟู่ ชง (Fu Cong) เอกอัครราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป กล่าวในการประชุมแบบเสมือนจริงของรายการสนทนากับซีอีโอและอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโส จีน-อียู (China-EU CEOs and Former Senior Officials Dialogue) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมว่า จีนกับยุโรปควรทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปมาระหว่างจีนกับอียูอย่างราบรื่น ฟู่ เตือนว่า การค้าตามปกติไม่ควรถูกขัดขวางแทรกแซงด้วยประเด็นปัญหาทางการเมืองหรือทางอุดมการณ์
ท่ามกลางอุปสรรคขนาดใหญ่ที่สหรัฐเร่งเครื่องบีบคั้นจีนในทางเศรษฐกิจ หนักยิ่งกว่าสงครามการค้าในสมัยทรัมป์ คำปราศรัยปีใหม่ของประธานาธิบดีสีกลายเป็นหัวข้อยอดนิยมอย่างรวดเร็วบนสื่อสังคมออนไลน์ของจีน Sina Weibo ในคืนวันเสาร์ โดยมีชาวเน็ตมากกว่า ๒๕๐ ล้านคนดูโพสต์ที่เกี่ยวข้องและเข้าร่วมการสนทนา ชาวเน็ตจำนวนมากรีโพสต์ไฮไลท์จากคำปราศรัยของสีเพื่อรำลึกถึงปี ๒๕๖๕/๒๐๒๒ พร้อมแสดงความปรารถนาดีต่อประเทศและเรียกร้องให้ผู้คนต้อนรับปี ๒๕๖๖/๒๐๒๓ ที่สดใสกว่าเดิม
“ปี ๒๐๒๓ จากปักกิ่ง ผมขออวยพรปีใหม่ให้กับพวกคุณทุกคน” ประธานาธิบดีสีกล่าวในตอนต้นของคำปราศรัย จากนั้น เขาตั้งข้อสังเกตว่าการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ ๒๐ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ส่งเสียงเตือนอย่างชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจีนจะมุ่งหน้าสู่การเดินทางครั้งใหม่
สีกล่าวย้ำว่า “ประเทศเราเป็นประเทศใหญ่ เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนต่างมีความกังวลหรือมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องเดียวกัน สิ่งสำคัญคือเราสร้างฉันทามติผ่านการสื่อสารและการปรึกษาหารือ เมื่อชาวจีน ๑,๔๐๐ ล้านคนทำงานด้วยใจเป็นหนึ่งเดียว จิตใจ และยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยเจตจำนงอันแรงกล้า ไม่มีงานใดที่เป็นไปไม่ได้ และไม่มีความยากใดที่จะเอาชนะไม่ได้”
ในวันเดียวกันนั้นสี จิ้นผิงได้พูดคุยผ่านวิดีโอลิงค์กับปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวให้คำมั่นในการเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ที่สำคัญและพร้อมร่วมมือกันผลักดันวาระสำคัญของโลกอย่างเต็มที่
ปธน.ปูตินอวยพรให้สี จิ้นผิง และเพื่อนชาวจีนที่เป็นมิตรทุกคนประสบความสำเร็จ ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ความสำคัญของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัสเซียและจีนได้สร้างเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ปูตินระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและจีนนั้นดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และผ่านการทดสอบมาแล้วทั้งหมด

เขากล่าวว่า “เมดเวเดฟ” ได้รายงานให้เขาฟังเกี่ยวกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของจีน และแน่นอนการแลกเปลี่ยนทวิภาคีจะดำเนินการเพิ่มขึ้นต่อไปในปีหน้า ซึ่งปธน.ปูตินได้เชิญสี จิ้นผิงมาเยือนมอสโคว์ในช่วงเวลาใบไม้ผลิ
เขาย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและจีน สามารถต้านทานการทดสอบทั้งหมดได้อย่างเพียงพอ เป็นแบบอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจในศตวรรษที่ ๒๑
นอกจากนี้รัสเซียและจีนสามารถรับประกันการเติบโตของการค้ามากเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าสภาวะตลาดจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม ปัจจุบันรัสเซียเป็นลำดับสองในการส่งก๊าซไปจีน ส่วน LNG ของรัสเซียมากเป็นลำดับดับที่สี่ มูลค่าการค้าระหว่างรัสเซียและจีนจะเติบโตประมาณ 25% ภายในสิ้นปี 2565 และประเทศนี้น่าจะบรรลุเป้าหมาย 200,000 ล้านดอลลาร์ก่อนกำหนด
ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในโลก ความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและจีนแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและรูปแบบความร่วมมือที่แน่นแฟ้น เรื่องนี้หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและอดีตรมว.ต่างประเทศได้กล่าวไว้อย่างหนักแน่นว่า “ความสัมพันธ์ของจีนและรัสเซียนั้นหนักแน่นดุจหินผา ที่ไม่อาจสั่นคลอน”