ความหวังของยูเครนต้องพังทลาย แม้ต้องการอาวุธเทพป้องกันขีปนาวุธรัสเซียกลับพบว่า อาวุธชั้นนำของสหรัฐและพันมิตรนาโต้ยังเป็นรองรัสเซีย ไม่อาจทุบทำลายอาวุธร้ายของกองทัพรัสเซียได้อย่างแท้จริง ล่าสุด กองทัพรัสเซียส่งโดรนกามิกาเซ่ ถล่มระบบป้องกันอากาศยาน นาซามส์เละ จากนั้นยูเครนได้เอาชิ้นส่วนที่ถูกทำลายไปโบ้ยว่า เป็นเศษซากของขีปนาวุธอิหร่านที่รัสเซียยิงมาตก แต่ซ่อนตัวอักษรกำกับในซากนั้นไม่ได้โชว์ชัดว่ามันเป็นของใคร แล้วทำรายงานว่าเคียฟทำลายขีปนาวุธของรัสเซียได้มหาศาล ยังดีที่มีช่องโซเชียลมิเดียให้เปรียบเทียบจึงรู้ว่าบิดเบือน
มาฟังคำกล่าวของโฆษกยูเครนว่ารายงานแบบหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไร ยูริ อิกแนต(Yuriy Ignat) โฆษกกองทัพอากาศยูเครนพูดอย่างดีใจว่าสามารถ”ข่มขวัญ” รัสเซียโดยอ้างจากรายงานกองทัพอากาศในการสกัดการโจมตีจากรัสเซียได้ ด้วยระบบป้องกันภัยทางอากาศ “NASAMS” ว่าทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
ก่อนหน้านี้อิกแนตเคยกล่าวไว้ว่า กลยุทธของรัสเซียเปลี่ยนไป โดยจะใช้โดรนของอิหร่านในเวลากลางคืน และจะใช้ขีปนาวุธความแม่นยำสูงในเวลากลางวัน ซึ่งความจริงเหมือนมันจะไม่เป็นไปตามนั้น เพราะยามดึกบางครั้งยูเครนจะได้พบกับขีปนาวุธอิสกานเดอร์ หรือคาลิบเบอร์อยู่หลายครั้ง
การที่เคียฟใช้ระบบป้องกันอากาศยาน “NASAMS” มาใช้ในการยิงสกัด “Geran-2” ดูจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า คำถามที่สำคัญที่สหรัฐจะต้องหาคำตอบคือ สหรัฐจะสามารถโอนจรวดที่ใช้กับระบบของตัวเองไปให้ยูเครนได้อีกนานแค่ไหน หากยูเครนใช้สิ้นเปลืองขนาดนี้ ระบอบเคียฟไม่เคยสนใจว่าภาระหนี้สินที่ก่อขึ้นจะตกอยู่บนบ่าของประชาชนหนักหนาสาหัสเช่นไร
ยูเครนบอกใช้นาซาม(ส์)ทำลายเกราน แต่ความจริงคือรัสเซียส่งโดรนมาถล่มระบบของตัวเอง และชิ้นส่วนของขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศของ NASAMS ซึ่งถูกโดรน Geran-2 ของรัสเซียทำลายยับ ยูเครนกลับเอาไปป้ายสีว่าเป็นชิ้นส่วนของขีปนาวุธอิหร่าน ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนให้ตะวันตกโจมตีอิหร่านได้อย่างชอบธรรมว่าสนับสนุนทางทหารกับรัสเซีย เป็นตรรกะวิปลาศที่สหรัฐและนาโต้สนับสนุนออกหน้าทั้งเงินและอาวุธให้ยูเครนไม่ผิด
เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดสนใจของช่องโซเชียลต่างๆ ของยูเครนทันที ซึ่งรีบส่งต่อซากดังกล่าวเป็นขีปนาวุธที่ผลิตโดยอิหร่าน ในขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าสังเกตคือข้อเท็จจริงที่ว่ากองทัพของยูเครนได้ปกปิดข้อความ “LIFT HERE” บนจรวด ซึ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า AIM-120 แอมแรม (AMRAAM) เป็นการพัฒนาของตะวันตก ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารให้ความสนใจจับโกหกกับเรื่องนี้
นี่ไม่ใช่กรณีแรกของชิ้นส่วนขีปนาวุธนำวิถี AIM-120 แอมแรม(AMRAAM) ของอเมริกาที่ตกลงมา ในช่วงกลางเดือนที่แล้วระหว่างการโจมตีที่เมืองเคียฟ ชิ้นส่วนของจรวดที่ผลิตในอเมริกาซึ่งยิงโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของ NASAMS ได้ตกลงบนอาคารหลังหนึ่ง ทำให้อาคารอพาร์ตเมนต์ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ด้วย โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในเมืองหลวงของยูเครนในตอนนั้น ตามคำให้การของพยาน ในระหว่างการโจมตีที่เคียฟ พวกเขาได้ยินเสียงระเบิดอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ สำนักข่าวทาซซ์ได้รายงานว่า กองทัพรัสเซียโจมตีฐานผลิตโดรนต่อสู้ของยูเครนเมื่อวันที่ ๓๑ ธ.ค.ที่ผ่านมา
พลโท อิกอร์ โคนาเชนคอฟ (Igor Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า “กองทัพรัสเซียใช้อาวุธปล่อยอากาศระยะไกลที่มีความแม่นยำสูงเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังโรงงานในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของยูเครน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตยานพาหนะต่อสู้อากาศยานไร้คนขับ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวขัดขวางแผนการของรัฐบาลเคียฟในการโจมตีแบบก่อการร้ายต่อรัสเซียในอนาคตอันใกล้”
โฆษกกล่าวว่า “ในหนึ่งวัน ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับของยูเครน ๑๕ ลำถูกทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย ในพื้นที่ของ แมคซิมอฟก้า, นิโคลาเยฟก้า, นิคอลสกอย, เมตัลลิสต์, เซลโยนีไก และสลาฟนอย (Maksimovka, Nikolayevka, Nikolskoye, Metallist, Zelyony Gai , Slavnoye) ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์, เมืองปลอชเชนก้า(Ploshchanka) ในสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์, เมืองซาพอฟก้า(Tsapovka) ใน ภูมิภาคเบลโกรอด, เมืองโอเชอเรวาตอย(Ocherevatoye) ในภูมิภาคซาโปริชเชีย, เมืองโอลารอฟ(Ochakov) ในภูมิภาคนิโคลาเยฟ, เมืองลิมัน วีโตรอย(Liman Vtoroy) ในภูมิภาคคาร์คอฟและเมือง ดซานรอย (Dzhankoy) ในสาธารณรัฐไครเมีย”
ทหารยูเครนกว่า ๑๐๐ นายถูกสังหารตามแนวหน้าของโดเนตสค์เมื่อวันก่อนปีใหม่ขณะที่ยานต่อสู้ของทหารราบ ๒ คัน ยานรบหุ้มเกราะ ๕ คัน และรถยนต์ ๗ คันถูกทำลาย
โดยรวมแล้ว ณ.วันที่ ๑ ม.ค.๒๕๖๖ นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร กองทัพยูเครนได้สูญเสียเครื่องบิน ๓๕๕ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๑๙๙ ลำ ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ๒,๗๗๙ ลำ ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน ๓๙๙ คัน รถถังและยานเกราะต่อสู้อื่นๆ ๗,๓๕๐ คัน ยานรบระบบจรวดหลายลำกล้อง ๙๕๗ คัน ชิ้นส่วนปืนใหญ่สนามและปืนครก ๓,๗๕๖ ชิ้นถูกทำลาย เช่นเดียวกับยานพาหนะทางทหารพิเศษ ๗,๘๕๙ คัน