ฝ่ายบริหารของไบเดน บิดเบือนแบบที่ไม่อาจให้อภัยได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสังคมประชาธิปไตยที่ปฏิเสธที่จะบอกความจริงแก่ชาวอเมริกันและสังคมโลก ตรงกันข้ามกับการเล่าเรื่อง “ชัยชนะของยูเครน” ที่เป็นที่นิยมของสื่อตะวันตก ซึ่งปิดกั้นข้อมูลใด ๆ ที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ต้องการจะโฆษณาชวนเชื่อ ยูเครนไม่ชนะและจะไม่ชนะในสงครามครั้งนี้ ผู้ที่ออกมายืนยันเรื่องนี้คืออดีตนายทหาร และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในสมัยการบริหารของทรัมป์
วันที่ ๑ ม.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า พันเอก ดักลาส แมคเกรเกอร์ (Douglas Macgregor) นายทหารสหรัฐฯ ที่เกษียณแล้ว ฟันธงว่า ยูเครนจะพ่ายแพ้ในอีกสามเดือนข้างหน้าอย่างแน่นอน
เขากล่าวว่า “อาจเป็นไปได้ในอีก ๙๐ วันข้างหน้า เราจะไม่สามารถซ่อนโศกนาฏกรรมในยูเครนได้อีกต่อไป ซึ่งกองกำลังรัสเซียจะเอาชนะและทำลายกองกำลังติดอาวุธเกือบทั้งหมดของยูเครน ความพยายามของทำเนียบขาวและผู้นำยุโรปในการรักษาตำแหน่งของ เซเลนสกีถึงวาระที่จะล้มเหลวอย่างปิดบังไม่ได้อีกต่อไป”
เขากล่าวว่า “อย่างที่คาดการณ์ไว้ สมาชิกของนาโต้ในยุโรปซึ่งแบกรับผลกระทบของสงครามต่อสังคมและเศรษฐกิจของพวกเขา กำลังไม่พอใจมากขึ้นกับสงครามตัวแทนยูเครนของวอชิงตัน
ประชากรยุโรปกำลังตั้งคำถามอย่างเปิดเผยถึงความจริงของสงครามขัดแย้งในสื่อเกี่ยวกับรัฐรัสเซียและเป้าหมายของอเมริกาในยุโรป
การหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยหลายล้านคนจากยูเครน ควบคู่ไปกับความขัดแย้งทางการค้า การแสวงหาผลกำไรจากการขายอาวุธของสหรัฐฯ และราคาพลังงานที่สูงทำให้ความคิดเห็นของประชาชนในยุโรปเปลี่ยนไปต่อต้านทั้งสงครามของวอชิงตันและนาโต้ แทนการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างที่ตะวันตกคาดไม่ถึง
หลังจากได้ข้อสรุปว่าสมมติฐานที่สนับสนุนเกี่ยวกับความพร้อมของวอชิงตันในการเจรจาและการประนีประนอมนั้นไม่มีพื้นฐานความจริงใจ ปูตินจึงสั่งให้กองทัพฯ พัฒนาแผนปฏิบัติการใหม่โดยมีเป้าหมายใหม่
– ประการแรก เพื่อบดขยี้ศัตรูที่แท้จริงของยูเครน นั่นหมายถึงกลุ่มอำนาจที่ครอบงำและต้องการผลประโยชน์จากยูเครน
– ประการที่สอง เพื่อขจัดข้อสงสัยในวอชิงตันและเมืองหลวงของยุโรปว่ารัสเซียจะสถาปนาชัยชนะตามเงื่อนไขของตนเอง
– และประการที่สาม เพื่อสร้างสถานะเดิมของดินแดนใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย
แมคเกรเกอร์อธิบวายว่า ตอนนี้เป็นไปได้ที่จะคาดการณ์ว่ากองกำลังติดอาวุธใหม่ของรัสเซียที่จะพัฒนาจากเบ้าหลอมของสงครามในยูเครน จะถูกออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการที่เด็ดขาดทางยุทธศาสตร์
การจัดตั้งกองทัพใหม่จะประกอบด้วยกองกำลังขนาดใหญ่กว่ามาก ที่สามารถปฏิบัติการชี้ขาดในเวลาอันสั้น โดยมีการเสริมกำลังและเตรียมการเพียงเล็กน้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อความขัดแย้งสิ้นสุดลง ดูเหมือนว่าวอชิงตันจะกระตุ้นให้รัฐรัสเซียสร้างแสนยานุภาพทางทหารของตนอย่างเกรียงไกร ซึ่งตรงกันข้ามกับการอ่อนกำลังลงอย่างร้ายแรงที่วอชิงตันตั้งใจไว้เมื่อเริ่มดำเนินการเผชิญหน้าทางทหารกับมอสโกว์ในสงครามตัวแทน
การดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ แบบ “ไม่เอานักโทษ”หรือทำลายล้างแบบสิ้นซากตามวิถีของนิโอฯ ของไบเดน หมายความว่าผลลัพธ์ในระยะต่อไปของสงครามยูเครนจะไม่เพียงทำลายรัฐยูเครนเท่านั้น นอกจากนี้ยังจะทำลายร่องรอยสุดท้ายของระเบียบเสรีนิยมหลังสงครามและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอำนาจและอิทธิพลทั่วยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเบอร์ลิน จะเหินห่างจากวอชิงตันไปอิงฝ่ายมอสโคว์ และในขอบเขตที่จำกัดหันไปยังปักกิ่งด้วย
การวิเคราะห์ของอดีตผู้บัญชาการของสหรัฐฯสอดคล้องกับ รมว.กลาโหมรัสเซียที่ว่าชัยชนะของกองทัพรัสเซียเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในข้อความปีใหม่ของเขาถึงทหารรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ ๓๑ ธ.ค.๒๕๖๕ รัฐมนตรีกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกู ได้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมของมอสโกซืที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิในการพูดภาษารัสเซีย และประชาชาติรัสเซียอย่างถึงที่สุด
ชอยกู ขอบคุณพวกเขาสำหรับความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ทางทหารระหว่างปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในยูเครน และขอให้พวกเขาได้เห็นท้องฟ้าแจ่มใสของชัยชนะที่จะต้องฟันฝ่ามาให้ได้
รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียย้ำว่า “ปีที่กำลังจะมาถึงจะจารึกไว้ตลอดกาลในพงศาวดารทางทหารของมาตุภูมิ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยการกระทำที่เป็นอมตะของคุณ ความกล้าหาญที่ไม่เห็นแก่ตัวและความกล้าหาญในการต่อสู้กับลัทธินีโอฯและการก่อการร้าย ฉันขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการรับใช้และความภักดีต่อคำสาบานที่เราต่างประกาศร่วมกัน”
ขณะนี้กองกำลังภายนอกกำลังพยายามทำลายประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของรัสเซีย พวกเขาทำลายอนุสาวรีย์ของผู้ชนะเหนือลัทธิฟาสซิสต์และวางอาชญากรสงครามไว้บนแท่นเคารพ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรัสเซียถูกยกเลิกและทำให้เป็นมลทิน ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวชอยกูเน้นย้ำว่า ปีใหม่ไม่ได้เป็นเพียงประเพณีที่ดีเท่านั้น แต่ยังได้รับความหมายที่ลึกซึ้ง และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับอนาคตที่สงบสุข
เขาอวยพรนักรบว่า “ในปีที่จะถึงนี้ ผมอยากอวยพรให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง แข็งแกร่ง สหายที่ไว้ใจได้และอุทิศตน และแน่นอน ท้องฟ้าแจ่มใส!และ ชัยชนะของเรา เช่นเดียวกับปีใหม่ต่างคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!”
ภาพทหารรัสเซียทุกหน่วยได้รับของขวัญปีใหม่และการ์ดอวยพรจากญาติที่ส่งมาให้ถึงสนามรบ เพิ่มขวัญและกำลังใจของกองทัพรัสเซียที่ชัดเจนว่าตนเองรบเพื่ออะไรและเพื่อใคร!!!!