ปฏิบัติการเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต​ นายกฯออกหน้า​ โดนด่าแทนคลัง? หลังจัดระเบียบเยียวยาใหม่​

0

ปฏิบัติการเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต​ นายกฯออกหน้า​ โดนด่าแทนคลัง? หลังจัดระเบียบเยียวยาใหม่​

 

การออกประกาศ​ ที่​ 112/2563​ เพื่อแต่งตั้งคณะก.ก.กำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบฯ​ ของ​ ศบค.ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด​ และรวดเร็วของพล.อ.ประยุทธ์ ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม​ และสุ่มเสี่ยง​เป็นอย่างยิ่ง​ เป็นหมากที่​ “ลุงตู่” ต้องเดิน​ ก่อนที่​ มาตรการเยียวยาของกระทรวงการคลังที่เละตุ้มเป๊ะ​กำลังจากลากพาทั้ง​ ศบค.​ ทั้งรัฐบาล​ ไปตกเหวตายหมู่กันทั้งยวง

เพราะเปรียบไปคำสั่งนี้ก็คือ​การ​ “ยึดอำนาจ” ของการดำเนินมาตรการเยียวยา​ออกมาจากมือของผู้ที่เกี่ยวข้องแต่เดิม​ พร้อมจัดระเบียบการเยียวยาเสียใหม่​  โดยที่​นายกฯออกมาส่งสัญญาณเอง​ว่า​จะให้​ 5,000​ แค่หนึ่งเดือนก่อน​ โดยเอาเรื่องการจัดการงบประมาณมาเป็นเหตุผล​  ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นเหตุผลที่ใครที่ตามข่าวแบบละเอียดหน่อยก็พอจะรู้อยู่แล้ว

ถามว่าทำไมต้อง​ ยึดอำนาจ? จากกระทรวงฯมาไว้ที่ศูนย์ฯ? คำตอบที่มีคงประจักษ์แจ้งอยู่แล้ว​ คือ​

  • 1)มาตรการที่เตรียมการแบบมักง่าย​ คิดไม่รอบครอบ​ ต้องทำไปแก้ไขไปตลอด​
  • 2)การประเมินสถานการณ์และจำนวนผู้รับผลกระทบผิดอย่างมหาศาล​
  • 3)ระบบ​ AI.ที่แม้ชาวบ้านตาสีตาสาก็ออกมาบอกว่าไม่ได้เรื่อง​
  • 4)เจ้าหน้าที่กระทรวงที่เสือกอวดเก่งไปติดป้ายเรียกแขกเชิญม็อบให้มาประท้วงถึงที่​
  • 5)คำอธิบายที่แก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆของคนที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายข้าราชการและฝ่ายการเมือง​ แต่ไม่เคยพูดสักคำว่าระบบของตนผิดพลาด​ ห่วยแตก​
  • 6) คน​ 17​-18​ ล้านคนที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้นรัฐบาล​ ไม่ใช่เรื่องสนุก​
  • 7)ฝ่ายตรงข้ามทั้งสื่อ​ ทั้งนักการเมืองที่หยิบเอามาเป็นหอกดาบทิ่มแทงกลับ​

ถ้าทำเป็นพระอินทร์ไม่ร้อนอาสน์​ ปล่อยไว้​ไม่ทำอะไร​ ต่อให้ชนะศึกกับเชื้อโรค​ แต่ทางสังคมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็จะแพ้ราบคาบ​ ซึ่งต้องส่งผลสะเทือนถึงเจ้าภาพ(เดิม)​นั้นคือ​ ท่าน​ รมว.อุตตม​ ที่มีเงารองนายกฯสมคิด​ทาบทมึนอยู่เบื้องหลัง​มาตลอด เป็นการตัดสินใจที่ไม่ง่าย​ ข้างหนึ่งก็สายสัมพันธ์​ อีกข้างก็ความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน

หลังจากมีคำสั่ง​ 112/2563​ ออกมาแล้ว​ และนายกฯพูดว่า​ “จะจ่าย​ 5,000​ แค่หนึ่งเดือนก่อน” เฟสบุ๊คของ​ รมต.อุตตมก็ได้โพสข้อความว่า​ “รัฐบาลพร้อมเยียวยาโควิดต่อเนื่อง”

“….กรณีมีคำถามว่า รัฐบาลจะชดเชยเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เดือนละ 5,000 บาท เพียงเดือนเดียวหรือไม่นั้น ผมขอชี้แจงว่า รัฐบาลยังคงดำเนินมาตรการเยียวยาตามแผนเดิม พร้อมทั้งจะชดเชย ให้ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออีกด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้งบประมาณปี 2563 ในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนตามมาตรการดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะช่วยเหลือต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เม็ดเงินจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่ง พ.ร.ก. ดังกล่าว เพิ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรีไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งรัฐบาลได้เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ส่งเงินเยียวยาประชาชนไปแล้ว รวมกับอยู่ระหว่างการจ่ายจนถึงวันที่ 17 เม.ย.นี้ รวมทั้งสิ้น 3.2 ล้านคน คิดเป็นเม็ดเงินราว 16,000 ล้านบาท

ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่ารัฐบาล จะไม่มีการเยียวยาต่อเนื่อง ตามแผนมาตรการที่วางไว้ก่อนหน้านี้

ขอบคุณครับ…”

ซึ่งต้องตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า​ ตอนนั้นคนออกมาด่านายกฯกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว​ แต่คลังยังไม่เคยปริปากพูดถึงข้อบกพร่องผิดพลาดของตัวเองสักคำ ชัดเจน​ ในเหตุผลที่ว่า​เรื่องนี้ทำไม นายกฯต้องออกโรงมาเล่นหน้าม่านเอง​ จะให้​ ​”พระเอก” อย่างหมอทวีศิลป์ออกมาชี้แจงอธิบายก็ไม่ได้​เพราะ​ เรื่องนี้ถ้าไม่ใช่ระดับนายกฯออกมาเองคงไม่มีใครกล้า

และวันนี้​ (16​ เม.ย.)​นายกฯก็ออกมาพูดเองอีกครั้ง​  “… เมื่อวานนี้… ต้องขอโทษด้วยไม่ได้มีเจตนา ที่จะพูดให้เข้าใจอย่างนั้น  แต่ผมต้องการให้เข้าใจว่ามันใช้เงินกันอย่างไรแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่แน่นอน และจะไม่ให้เงินอีกแล้ว ตอนนี้ก็กำลังดูทั้งแรงงาน ประกันสังคม ทั้งในระบบและนอกระบบ กลุ่มอิสระ รวมถึงกำลังดูเรื่องเกษตรกร วันนี้ลงรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งเกษตรกรมีหลายประเภท บางอันมีผลกระทบมากและมีผลกระทบน้อย ซึ่งต้องเข้าใจว่ารัฐบาลมีมาตรการตรงนี้ในการคัดกรอง จึงขอให้ทุกคนร่วมมือก็แล้วกัน… ”

“…ขอบคุณและขอโทษที่ทำให้ ไม่มั่นใจ วันนี้ขอให้มั่นใจ มั่นใจผมมาตลอด เวลาที่ผ่านมาแล้ว ขอให้มั่นใจกระทรวงการคลัง มั่นใจบุคลากรของผม ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ บางครั้งมันก็ยากบ้างง่ายบ้าง ทันใจบ้างและไม่ทันใจบ้างก็ขอโทษด้วยแล้วกัน แต่มันเป็นมาตรการที่ต้องระมัดระวังที่สุด เพราะเป็นการใช้เงินของภาครัฐ ต้องมีการตรวจสอบภายหลังทุกอย่าง ผมก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นในระยะหลัง ผมทราบดีว่าทุกคนเดือดร้อนและเดือดร้อนในเวลาเดียวกันด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทยอยดำเนินการยืนยัน 3 เดือน โอเคไหม…”

ส่วนจะตีความว่านายกฯจะขอโทษ​รวมๆหรือเจาะจงส่งสารไปที่ใครก็ขอให้ตีความกันเอาเอง ครั้งนี้​ถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์​ ในฐานะผู้นำประเทศฝ่าวิกฤติ​ แม้จะปรากฏรอยร้าวในความสัมพันธ์​ อาจจะเรียกได้ว่าต้องจำเป็น​ ก็ต้อง​ ​”ยอมเสียอวัยวะ​ เพื่อรักษาชีวิต​” ไว้ได้หรือไม่?

ลุงตู่​ ออกมายอมโดนด่า​เสียเอง แต่ถ้าเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางให้กระบวนการเยียวยาเดิมหน้าอย่างมีประสิทธิภาพจริง​ๆ​ที่ตัดสินใจทำไปเพื่อประโยชน์ของคนทั้งชาติ​ ก็ขออนุโมทนาสาธุ