โลกฮือฮา! ซาอุฯ เจอพายุเล่นงาน เกิดหิมะตก ท่ามกลางทะเลทราย แม้ไม่มีต้นไม้ นทท.แห่เที่ยวอื้อ
จากกรณีที่ขณะนี้ สภาพอากาศในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแถบยุโรปที่กำลังเจอกับสภาพอากาศที่หนาวจัด ในขณะที่ค่าพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะที่ล่าสุดในประเศซาอุดีอาระเบีย มีรายงานว่า เกิดหิมะตก แม้ว่าจะเป็นประเทศที่เป็นทะเลทราย
ต่อมาทาง World Update ได้ดพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยบอกว่า ซาอุดีอาระเบีย เป็นดินแดนตะวันออกกลาง ติดอ่าวเปอร์เซีย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายเวิ้งว้าง ไม่ค่อยมีฝนตกชุกเท่าใดนัก เมื่อก่อนช่วงฤดูฝนของไทยจึงมักมีชาวซาอุฯ นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย เพื่อสัมผัสสายฝนที่โปรยปราย บรรยากาศเปียกชื้น
เมื่อช่วงปลาย พ.ย.ที่ผ่านมา ซาอุฯ เผชิญสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนักเมืองเจดดาห์ เมืองท่าติดทะเลแดง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือน รถยนต์ ถูกน้ำซัดเสียหาย มีผู้เสียชีวิตกว่า 2 ราย
เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เกิดพายุฟ้าคะนองฝนตกหนักมากติดต่อกันเป็นเวลานานในเมืองเมกกะ ของซาอุฯ เกิดน้ำท่วมฉับพลันพัดพารถยนต์จำนวนมากไปตามกระแสน้ำบนท้องถนนที่กลายเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่
ล่าสุด สำนักข่าว Saudi Press Agency (SPA) รายงานว่า ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 27 ธ.ค.2022 ที่ผ่านมา บนภูเขาในพื้นที่ Al-Lawz เขต Tabuk หิมะตกหนักลงมา พื้นดินปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชาว Tabuk และนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคต่างๆ เพลิดเพลินไปกับหิมะและความงดงาม
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติในภาคเหนือสาขา Alenizi ระบุว่าหิมะจะตกในภาคเหนือของซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะเทือกเขา Al-Lawz และพื้นที่ใกล้เคียง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักสองประการ
ปัจจัยแรกคือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงของขั้วโลก ความพร้อมของความชื้นที่เหมาะสมในพื้นที่ภูเขา ซึ่งอาจยาวลงไปทางใต้ถึงภูเขา Hasmi แต่แทบไม่เคยมาถึงทางตอนใต้ของตะบูก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเทือกเขา Harrah
ปัจจัยที่สองคือขอบเขตการเคลื่อนตัวของแนวเยือกแข็งแผ่จากขั้วโลก ที่เรียกว่า สโนว์ไลน์ และระดับของชั้นบรรยากาศ สภาพอากาศความรุนแรงของพายุดีเปรสชัน เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศา พร้อมกับฝนที่เกิดขึ้น
ซาอุดิอาระเบีย แม้อยู่กลางทะเลทรายร้อนระอุ แทบไม่มีต้นไม้ ก็ยังเจอการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศรุนแรง ฝนตก น้ำท่วม หิมะตก ได้เช่นกัน โลกอนาคตคงไม่อาจคาดได้แน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454