เรียกร้องไม่หยุดหย่อน สำหรับยูเครน ล่าสุดอ้อนยูเอ็นจัดประชุมสุดยอดสันติภาพโลก ทาหาเจรจาสงบศึกกับมอสโก พร้อมดันให้รัสเซียขึ้นศาลโลก
ดีมีโทร อีวาโนวิช คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ในการให้สัมภาษณ์กับ AP ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เสนอให้จัด”การประชุมสุดยอดสันติภาพ”ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อฉลองครบรอบปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อยูเครน และยอมรับว่าแม้ว่ายูเครนจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซียในปี 2566 แต่การทูตจะมีบทบาทสำคัญ “ทุกสงครามจบลงด้วยวิธีทางการทูต”คูเลบากล่าว พร้อมเสริมว่า“ทุกสงครามจบลงด้วยผลจากการกระทำในสนามรบและบนโต๊ะเจรจา”
รัฐมนตรีกล่าวเสริมว่า UN เป็น”สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับจัดการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือประเทศใดประเทศหนึ่ง”และเสนอแนะเลขาธิการ UN Antonio Guterres ให้เป็นสื่อกลางในการประชุม
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเชิญรัสเซียเข้าร่วม”การประชุมสุดยอดเพื่อสันติภาพ ” คูเลบายืนยันว่ามอสโกต้องเผชิญกับ”ศาลระหว่างประเทศ” ก่อน และถูกดำเนินคดีในข้อหาอาชญากรสงคราม นอกจากนี้ เขายังเพิกเฉยต่อการเรียกร้องให้มีการเจรจาเมื่อเร็วๆ นี้ของปูติน โดยระบุว่าทุกสิ่งที่รัสเซียทำในสนามรบ”พิสูจน์”ว่ามอสโกไม่ต้องการพูดคุย
และนอกจากประเด็นเรื่องการให้จัดประชุมสุดยอดสันติภาพแล้ว ทางยูเครนยังเสนอให้ถอดถอนรัสเซียออกจากยูเอ็น คูเลบา กล่าวว่า ยูเครนเรียกร้องรัฐสมาชิกของสหประชาชาติ เพิกถอนสหพันธรัฐรัสเซียในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และขับไล่รัสเซียออกจากสหประชาชาติทั้งมวล รัสเซียยึดครองเก้าอี้ของสหภาพโซเวียตในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโดยมิชอบ นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 จากมุมมองทั้งทางกฎหมายและการเมือง มันสามารถสรุปได้เพียงอย่างเดียว รัสเซียแย่งชิงเก้าอี้ของสหภาพโซเวียตในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
การขับรัสเซียออกจากยูเอ็นนั้น ทางอเมริกาเคยพยายามจะทำอยู่หลายครั้งด้วยกัน และยอมรับโดยตรงว่า เป็นสิ่งที่ต้องการจะทำเป็นอย่างมาก ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยลง Blockdit ถึงข้อมูลที่ทั่วโลกต่างจับตาและติดตามเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏออกมาเกี่ยวกับสหรัฐและรัสเซีย
ทั้งนี้เนื้อหาที่ ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยไว้ระบุว่า “รัฐบาลอเมริกาประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แล้ว:รัฐบาลกุ๊ยโลกมาแนวใหม่ครับ ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าจักรวรรดินิยมอเมริกาเดินต่อไม่ได้ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลรัสเซียอยู่ในสภาความมั่นคงสหประชาชาติ เพราะรัสเซียขวางได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสายลับสู้กัน ขีปนาวุธสู้กัน เครื่องบินรบสู้กัน การทูตสู้กัน การทหารสู้กัน ฯลฯ รัสเซียตามประกบอเมริกาและเป็นต่ออเมริกาตลอด
รัฐบาลกุ๊ยโลกและประชาธิปไตยปลอมจึงคิดหาทางเขี่ยรัสเซียออกไปจากสภาความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ยังทำไม่ได้ เพราะจะทำได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียต้องเห็นพ้องกับมติของอเมริกาคือยอมออกมาด้วย ที่ผ่านมาแพ้รัสเซียในหลายๆ สมรภูมิ รัสเซียมีมิตรประเทศมากขึ้นแต่อเมริกามีแต่ประเทศที่อยากถอยหนี อเมริกาเพิ่งประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อันเดียวที่เหนือรัสเซียอย่างเห็นได้ชัดคือออกกฎหมายให้ตุ๊ด แต๋วหรือคนมีเพศสภาพเป็นทูอินวันแต่งงานกับคนมีเพศเดียวกันได้อย่างเสรี โจ ไบเดนตอนนี้เป็นขวัญใจกลุ่มคนรักเพศเดียวกันไปแล้ว”
ก่อนหน้านี้มีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 มีการลงมติต่อกรณีรัสเซียพยายามผนวก 4 ดินแดนยูเครนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งผลการลงมติปรากฎว่า ชาติสมาชิก 143 ประเทศลงมติเห็นด้วยกับการประณามรัสเซียที่พยายามผนวกดินแดนในยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องทุกประเทศให้ไม่รับรองความเคลื่อนไหวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มี 5 ชาติที่ลงมติไม่เห็นด้วย ได้แก่ รัสเซีย นิการากัว ซีเรีย เกาหลีเหนือและเบลารุส และมี 35 ชาติงดออกเสียง เช่น จีน อินเดีย รวมถึงไทยก็ลงมติงดออกเสียงต่อกรณีนี้
โดยในชาติอาเซียนด้วยกัน ไทยลงมติงดออกเสียงเหมือนกับเวียดนามและลาว ขณะที่ชาติอาเซียนอื่นๆ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และบรูไน ลงมติเห็นด้วยต่อการประณามรัสเซีย โดยกรณีเมียนมา ผู้ลงมติเป็นผู้แทนที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลก่อนการรัฐประหาร ขณะที่ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติให้เหตุผลว่า วันนี้รัสเซียบุกยูเครน แต่ในวันพรุ่งนี้ อาจเป็นประเทศอื่นที่พรมแดนถูกละเมิดก็ได้ ขณะที่ผู้แทนรัสเซียระบุว่า การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติกลายเป็นการเมืองที่ปฏิเสธข้อเท็จจริงทั้งปวง ส่วนผู้แทนจีนประจำยูเอ็นที่ลงมติงดออกเสียงมองว่า ความเคลื่อนไหวในการลงมติครั้งนี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดการเจรจาหรือแก้ปัญหาใดๆ