เพื่อนร่วมรบพรึ่บ!! ปูตินปลื้มพันธมิตร CISปึ้ก ๙ ปท.ทุบโต๊ะ พร้อมผนึกรัสเซียลุยเมกา-นาโต้คุกคาม

0

ในสถานการณ์สู้รบที่ไม่อาจประมาทได้ว่าจะต้องยืดเยื้อ ทางการของรัสเซียได้จัดทำโพลล์สำรวจความคิดเห็น ผลสำรวจเปิดเผยถึงความเชื่อถือปูตินของชาวรัสเซียในไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๖๕ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อชาวรัสเซียโดยรวมได้ตระหนักถึงภัยคุกคามที่แท้จริงของตะวันตกที่ต้องการทำลายล้างรัสเซียอย่างถึงที่สุด

วาเลรี ฟีโอโดรอฟ (Valery Fyodorov) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะแห่งรัสเซีย (Director General of the All-Russian Public Opinion Research Center)กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “ปีที่แล้ว ๓๑% ของผู้ตอบแบบสำรวจไม่ไว้วางใจปูติน ในขณะที่เดือนพฤศจิกายนนี้มีเพียง ๑๗% เท่านั้น” เขาระบุโดยอ้างข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจทางโทรศัพท์รายวันในหมู่ผู้ใหญ่ ๑,๖๐๐ คน เป็นชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ใน ๘๐ ภูมิภาคของสหพันธรัฐรัสเซีย 

ล่าสุดปธน.ปูตินได้จัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับพันธมิตรอดีตสหภาพโซเวียตเขาพูดถึง ‘ภัยคุกคามด้านความมั่นคง’ ต่ออดีตสหภาพโซเวียตจากตะวันตก และยินดีที่สมาชิก CIS ต่างแสดงจุดยืนพร้อมที่จะร่วมมือแม้จะมีความท้าทายและอันตรายเพิ่มขึ้น 

พันธมิตร CIS ก่อตั้งขึ้นหลังจากการสลายตัวของสหภาพโซเวียตและรวมสาธารณรัฐเดิมบางส่วนเข้าไว้ด้วยกัน  CIS ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทหาร นอกจากปูตินแล้ว ยังมีผู้นำอาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถานเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ด้วย

วันที่ ๒๗ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์ รายงานว่า ปธน.ปูตินได้กล่าวในการประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการแบบดั้งเดิมของผู้นำเครือรัฐเอกราช หรือ พันธมิตร CIS ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา 

ประธานาธิบดีรัสเซียย้ำว่าแม้บางครั้งผู้มีบทบาทในภูมิภาคจะมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่พวกเราก็พร้อมที่จะร่วมมือเพื่อแก้ไขข้อพิพาทใดๆ

ปธน.ปูตินตั้งข้อสังเกตว่า  “กลุ่มที่เป็นมิตร”เป็นข้อพิสูจน์ถึงความพร้อมของสมาชิก CIS ที่จะร่วมมือกันด้วยจิตวิญญาณของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่แท้จริง ภายใต้ผลประโยชน์ร่วมกัน และความเคารพต่อผลประโยชน์ของทุกประเทศ”

ปูตินเน้นถึงบทบาทของ CIS ในการสนับสนุนความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค “ความท้าทายและภัยคุกคามในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่มาจากภายนอกกำลังเพิ่มขึ้นทุกปี” เขาเสริมว่าหน่วยข่าวกรอง CIS และสถาบันความมั่นคงอื่นๆ มีส่วนร่วมในการติดต่อใกล้ชิดมายิ่งขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ยากจะคาดเดา 

เขากล่าวเสริมว่า “บางครั้งสมาชิก CIS พบว่าตัวเองเป็นคนโง่เขลา แต่สิ่งสำคัญคือเราพร้อมและยินดีให้ความร่วมมือ แม้ว่าจะมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น เราก็พยายามแก้ไขด้วยตัวเราเอง ร่วมกัน พร้อมให้ความช่วยเหลือและไกล่เกลี่ยอย่างเป็นมิตรซึ่งกันและกัน”

ผู้นำรัสเซียกล่าวว่าความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างสมาชิก CIS นั้น“สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนในประเทศของเรา”เนื่องจากช่วยแก้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจในขณะเดียวกันก็มีส่วนสนับสนุนความมั่นคงในภูมิภาค

ปูตินยังชี้ให้เห็นว่าสมาชิก CIS มีความแน่นแฟ้นในแง่วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยภาษารัสเซียเป็นตัวกลางที่สำคัญ

ประธานาธิบดีระบุชัดว่าตะวันตก “สร้างสถานการณ์เพื่อยุยงให้เกิดความขัดแย้งครั้งใหม่”ในพื้นที่หลังโซเวียตเพื่อพยายามดำเนินตาม“นโยบายบงการในทุกด้าน” แบ่งแยกแล้วปกครอง เขายกกรณีความขัดแย้งในยูเครนเป็นตัวอย่างของความพยายามดังกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมากับหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงของ CIS

ขณะที่มิตรร่วมรบได้พบกันในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทางด้านชายแดนกองทัพรัสเซีย ได้ต่อสู้และทำลาย ‘ผู้ก่อวินาศกรรม’ ของยูเครนบริเวณชายแดนติดกับรัสเซีย 

หน่วยรักษาความปลอดภัยของรัสเซีย หรือ FSB เปิดเผยว่าคนร้ายได้แฝงตัวเข้าร่วมกับกลุ่มดับเพลิงขณะที่พวกเขาพยายามเข้าสู่ภูมิภาคบริยันสค์ (Bryansk)ที่ติดกับยูเครน 

ถ้อยแถลงของ FSB ระบุว่าผู้ก่อวินาศกรรมติดอาวุธด้วยปืนกลมือที่ผลิตโดยบริษัทเอสไอจี ซาวเออร์ (SIG Sauer) ของเยอรมัน และมี  “อุปกรณ์สื่อสารและระบบนำทาง และคู่มือการก่อวินาศกรรมและการก่อการร้าย” กลุ่มนี้มีระเบิดแสวงเครื่องอยู่ในความครอบครองอีก ๔ ลูก ซึ่งให้ผลรวมเทียบเท่ากับทีเอ็นที ๔๐ กก. 

ภูมิภาค Bryansk เป็นหนึ่งในหลาย ๆ แห่งในรัสเซียที่ปฏิบัติการภายใต้การแจ้งเตือนภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายในระดับ ‘สีเหลือง’ ซึ่งสูงเป็นอันดับสองในมาตราส่วนสีสามระดับของรัสเซีย เนื่องจากอยู่ติดชายแดนยูเครน

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา  ๘ หน่วยงานของรัฐบาลกลางรัสเซีย รวมถึงภูมิภาค บรียันสค์(Bryansk) อยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งให้อำนาจเพิ่มเติมแก่ผู้นำพื้นที่ของพวกเขา เช่น พวกเขาสามารถจำกัดการเข้าถึงจังหวัดหรือสั่งการอพยพจากสถานที่ที่พวกเขาเห็นว่าไม่ปลอดภัยได้ในทันที

จะเห็นได้ว่าฝ่ายเคียฟและนาโต้ไม่ได้หยุดโจมตีและพยายามก่อวินาศกรรมลึกเข้าสู่ดินแดนของรัสเซียนอกเหนือไปจากการสู้รบดุเดือนในแนวหน้าของ ๔ ภูมิภาคที่เข้าร่วมกับรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ บ่งบอกถึงเจตนาของศัตรูต้องการขยายผลพื้นที่สู้รบ แต่รัสเซียดักทางทำลายได้ทัน ที่รุกล้ำมาทางอากาศก่อความเสียหายยังไม่มากแต่กก็ประมาทไม่ได้ ปีหน้าอาจได้เห็นเฟส๒ ของสงครามที่ไม่ใช่แค่ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย!!??