ใส่ไม่ยั้ง!! จีนฟาดเมกาจอมแทงหลัง ยันปึ้กรัสเซียเมินคว่ำบาตร ซ้อมโจมตีรอบไต้หวันข่มวอชิงตันรับปีใหม่

0

ในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนกลับตกต่ำหนักยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยท่าทีตีสองหน้าของสหรัฐที่ท้าทายยั่วยุเส้นแดงเรื่องไต้หวันต่อจีนไม่หยุดหย่อน อาจด้วยประเมินว่าจีนไม่พร้อมเผชิญหน้า เพราะในปีที่ผ่านมาจีนแสดงท่าทีพร้อมประนีประณอมกับสหรัฐทั้งทางเศรษฐกิจ การทูตและการทหาร แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว หลังเสร็จสิ้นพิธีการประทับตราอำนาจการนำของสี จิ้นผิง และทางสหรัฐกับพันธมิตรแสดงการยั่วยุหนักขึ้น

ล่าสุดปักกิ่งวิพากษ์และประณามกฎหมายป้องกันของสหรัฐฯ ว่าเป็น ‘การยั่วยุทางการเมือง’ ต่อจีนอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ได้แสดงความรู้สึกเสียใจและขอต่อต้านอย่างหนักแน่น” ขณะที่บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯยกหูขอคุยกับหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีน จึงโดนสับเละเลิกเกรงใจกับท่าทีตีสองหน้า และพยายามยุให้จีนแตกกับรัสเซียไม่จบสิ้น ถึงขนาดซัดหมัดตรงว่า “ขอให้วอชิงตันเลิกแทงข้างหลังจีน” ได้แล้ว

วันที่ ๒๖ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และโกลบัลไทมส์รายงานว่า  หวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ฟาดแรงว่า “วอชิงตันต้องเลิกใช้“กลอุบายเก่า ๆ ในการกลั่นแกล้งแทงหลังฝ่ายเดียว”  เขาบอกกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ปักกิ่งระบุในถ้อยแถลงเรื่องนี้ว่านักการทูตระดับสูงทั้งสองได้โทรศัพท์พูดคุยตามคำขอของวอชิงตัน 

หวังกล่าวกับบลิงเคนโดยตรงว่า “สหรัฐฯ ไม่ควรดำเนินการเจรจาและความร่วมมือในขณะที่กักขังและแทงข้างหลังจีน ผลก็คือ มันยังคงเป็นอุบายเก่าของการรังแกฝ่ายเดียว มันไม่ได้ผลกับจีนในอดีต และจะไม่ได้ผลในอนาคตด้วย”

เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนใช้คำอย่างตรงไปตรงมากับรมว.สายเหยี่ยวของสหรัฐ

หวังกล่าวเสริมว่า วอชิงตัน“ต้องจริงจังกับข้อกังวลที่ถูกต้องตามกฎหมายของจีน หยุดควบคุมและปราบปรามการพัฒนาของจีน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหยุดใช้กลยุทธ์ซาลามี เพื่อท้าทายเส้นแดงของจีนอย่างต่อเนื่อง”

ซึ่งหมายถึงแนวทางปฏิบัติในการเจรจาเพื่อให้ได้มาซึ่งสัมปทานผลประโยชน์ขนาดเล็กและเพิ่มขึ้นซ้ำๆ

หวังเน้นว่า “วอชิงตันและปักกิ่งควรสร้าง“ความเข้าใจร่วมกัน”ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีนคุยกันระหว่างการประชุมครั้งล่าสุดในอินโดนีเซีย ความคิดแบบผลรวมเป็นศูนย์ รังแต่จะนำประเทศใหญ่ทั้งสองไปสู่การเผชิญหน้ากันและไม่ชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้วว่าใครถูกและใครผิด ใครเป็นต้นเหตุ”

เรียกว่าโทรคุยนี้เพื่อเสี้ยมให้จีนแตกกับรัสเซียให้ได้ แต่โดนสวนกลับแบบแสบจึ๊ดอย่างที่หวัง อี้ไม่เคยแสดงท่าทีดุดันแบบนี้มาก่อน

การเยือนไต้หวันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตก ตลอดจนความร่วมมือทางทหารที่เฟื่องฟูระหว่างไทเปและวอชิงตัน ทำให้เกิดเสียงคัดค้านซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากปักกิ่ง ซึ่งมองว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน

ไต้หวันนั้นได้ปกครองตนเองโดยพฤตินัยมาตั้งแต่ปี ๒๔๙๒ เมื่อฝ่ายที่แพ้ในสงครามกลางเมืองของจีนได้ย้ายไปยังเกาะและจัดตั้งฝ่ายบริหารของตนเองขึ้นที่นั่น จีนถือว่าเกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่แบ่งแยกไม่ได้ ภายใต้หนึ่งประเทศสองระบบ สหรัฐใช้การทูตสองหน้า พูดอย่างทำอย่างซึ่งถึงวันนี้จีนเริ่มไม่ทนแล้ว

นอกจากนี้ หวังยังระบุว่า จีนจะกระชับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์กับรัสเซีย และเสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันต่อไปในปี ๒๕๖๖ โดยจีนปฏิเสธการประณามรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน และไม่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งจีนมองว่าเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกระตุ้นให้เกิดความแตกแยกขึ้นในยุโรป นอกจากนี้ จีนยังคงพยายามไม่จุดชนวนความขัดแย้งเพิ่มในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน

ทางการจีนได้ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯ ระบุว่า “กฎหมายกลาโหมของสหรัฐฯ อนุมัติเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ในความช่วยเหลือด้านความมั่นคงและการจัดหาอาวุธที่ติดตามอย่างรวดเร็วสำหรับไต้หวัน กำลังส่ง“สัญญาณที่ไม่ถูกต้องอย่างร้ายแรงต่อกองกำลังแบ่งแยกดินแดน ‘เอกราชไต้หวัน’ และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน” 

กระทรวงต่างประเทศจีนเตือนเข้มว่า “สหรัฐฯ จำเป็นต้องหยุดพยายามใช้ไต้หวันเพื่อควบคุมจีน หยุดเหลวไหล บิดเบือน และขุดคุ้ยหลักการจีนเดียวตามที่พูดไว้ และหยุดก้าวไปสู่เส้นทางที่ผิดและอันตรายยิ่งขึ้น”

ด้านกองทัพจีนเปิดเผยว่าได้ปฏิบัติการ “ซ้อมรบโจมตี” ด้วยกระสุนจริงในทะเลและน่านฟ้ารอบๆ ไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธ.ค.ที่ผ่านมา ตอบโต้ในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพฤติกรรมยั่วยุจากสหรัฐฯ และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน

ในการตอบสนองต่อการสมรู้ร่วมคิดระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน พันเอกอาวุโสฉี ยี่ (Shi Yi) โฆษกของ PLA ภาคตะวันออก(Eastern Theatre Command) กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า กองบัญชาการจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและ บูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเด็ดเดี่ยว

PLA ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ H-6 และเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำ วิถี Type 052C เป็นกองกำลังส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมในการฝึกซ้อม และเครื่องบินรบสามารถยืนยันแนวเทือกเขาตอนกลางของเกาะไต้หวันได้ด้วยสายตา

หยู เหวินเจ๋อ โฆษกของคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของรัฐสภาประชาชน หรือ NPC(You Wenze, a spokesperson of the Foreign Affairs Committee of the NPC) ยังได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับจีนในกฎหมายกลาโหมฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ความพยายามใดๆ ที่จะใช้เกาะไต้หวันเพื่อกักกันจีนหรือสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อ “เอกราชไต้หวัน” มีแต่จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน และบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯให้ตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  และจะต้องพบกับมาตรการตอบโต้ที่หนักแน่นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง”

ผู้นำระดับสูงทุกวงการของจีน ทั้งภาคการเมือง ฝ่ายบริหารและกองทัพออกมาตอบโต้สหรัฐฯขนาดนี้ บ่งชี้ว่าปีหน้าสถานการณ์เผชิญหน้าจะใกล้จุดเส้นแดงมากขึ้น ไม่ว่าจีนจะต้องการหรือไม่ก็ตาม อเมริกาจะไม่รามือ นั่นยิ่งผลักดันให้จีน-รัสเซียกระชับสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอย่างที่เมกา-นาโต้ไม่อาจคาดเดาผลที่จะตามมา เพราะไม่มีใครยอมเป็นฝ่ายตั้งรับตลอดไป!!?