รบด้วยไฮเท็ค!! รัสเซียส่งยานอวกาศ ‘Kupol’ ๖ ลำ ปักหมุดน่านฟ้าคุมซีกโลกเหนือ จ่อคอหอยดับเมกา-นาโต้

0

สงครามตัวแทนยูเครนอาจไม่จำกัดพื้นที่เพียงทวีปยุโรปเท่านั้น เพราะการเตรียมการเพื่อทำลายรัสเซียได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้ารัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

การรุกรบต่อสู้กันในสนามรบปัจจุบันต้องใช้เครื่องมือสื่อสารไฮเทคโนโลยีสนับสนุน  ซึ่งรัสเซียมีพร้อมสรรพ จนถึงวันนี้ สหรัฐและนาโต้ไม่สามารถทำลายศักยภาพทางทหารของรัสเซียได้ จึงปั้นข่าวเท็จซ้ำๆว่ารัสเซียกำลังพ่ายแพ้  ตลอดเวลาเกือบ ๑๐ เดือนโลกได้ตระหนักชัดถึงความจริงเบื้องหลังสงครามที่ปูตินต้องตัดสินใจเปิดเกมรุกก่อนว่า สงครามครั้งนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่รัสเซียรบกับยูเครนแต่รบกับสหรัฐและพันธมิตรนาโต้

รัสเซียพบว่า มีนายทหารและเจ้าหน้าที่นาโต้ ทหารปืนใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ต่างเข้าร่วมอยู่ในเขตสู้รบในยูเครน ดาวเทียมของสหรัฐและนาโต้จำนวนมากทำงานให้กับเคียฟเพื่อมอบข่าวสารสำคัญ หนุนการโจมตีรัสเซียอย่างเข้มข้น

แนวโน้มเผชิญหน้ากันโดยตรงจึงยากจะหลีกเลี่ยง รัสเซียจึงต้องติดเขี้ยวเล็บพร้อมสรรพทุกแนวรบภาคพื้นดิน ทางทะเล และอวกาศ ล่าสุดส่งดาวเทียมทหารและยานอวกาศขี้นประจำการบนท้องฟ้าคุมการเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างใกล้ชิด

วันที่ ๒๕ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า ในการประชุมกลาโหมฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พลเอกเซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “ควรสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ NATO ทหารปืนใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ อยู่ในเขตสู้รบสมรภูมิยูเครน  ยานอวกาศของสหรัฐฯ และ NATO มากกว่า ๕๐๐ ลำกำลังปฏิบัติการเพื่อผลประโยชน์ของกองทัพยูเครน กว่า ๗๐ ลำเป็นกองกำลังทางทหาร ที่เหลือเป็นแบบใช้งานสองทาง “

ชอยกูกล่าวว่า “ยานอวกาศ คูโปล ลำที่ ๖ ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศแล้ว ก่อนหน้านี้ปักหมุดเหนือท้องฟ้าไป ๕ ลำ ซึ่งจะช่วยให้ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่อขีปนาวุธในซีกโลกเหนือได้อย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้เสบียงของระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงทั้งคินซาล (Kinzhal) และ เซอร์คอน(Zircon) ได้ติดตั้งประจำการให้กับกองทัพรัสเซีย และจะเพิ่มขึ้นอีกในปี ๒๕๖๖

เซอร์เก ชอยกู ย้ำว่า “เมื่อคำนึงถึงการขยายตัวของนาโต้ และการสร้างศักยภาพทางทหารเพิ่มเติมให้แก่ประเทศสมาชิกนาโต้  ทำให้รัสเซียจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้เพื่อสร้างกลุ่มกองกำลังที่เหมาะสมในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย”

เขายังกล่าวอีกว่า “เนื่องจากความปรารถนาของ NATO ที่ต้องการสร้างศักยภาพทางทหารใกล้กับพรมแดนรัสเซีย ตลอดจนขยายพันธมิตรนาโต้โดยที่ฟินแลนด์และสวีเดนเป็นรายต่อไป มาตรการตอบโต้จึงต้องสร้างกลุ่มทหารที่เหมาะสมในรัสเซียตะวันตกเฉียงเหนือ จำเป็นจะต้องสร้างสมาคมยุทธศาสตร์ระหว่างหน่วยบริการหน่วยรบ ๒แห่ง คือเขตทหารมอสโกว์และเลนินกราด”

ในขณะที่การสู้รบในแนวหน้าที่ยูเครนดำเนินไปอย่างดุเดือด นาโต้ได้คืบคลานบทบาททางทหารเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญทั้งภาคพื้นดินและอวกาศ

Military Thought ซึ่งเป็นวารสารเชิงทฤษฎีอย่างเป็นทางการของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้สรุปมาตรการที่เป็นรูปธรรมบางประการที่กองทัพรัสเซียจะถูกบังคับให้ดำเนินการ หากฟินแลนด์และสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้

ความจำเป็นสำหรับ “มาตรการที่เพียงพอ”ของกองทัพรัสเซียนั้นเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อชาวนอร์ดิกเข้าร่วมกลุ่ม ดินแดนของนาโต้มากกว่า ๑,๐๐๐ กม. จะประชิดพรมแดนของรัสเซียทันที หลังจากนั้นพวกเขาจะสามารถติดตั้งอุปกรณ์ทางทหาร กองทหาร และระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธี ที่จะคุกคามโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร อุตสาหกรรม และการคมนาคมของภูมิภาคอาร์คันเกลสค์ของรัสเซียได้”

มอสโกว์แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วม NATO ต่อความมั่นคงในภูมิภาค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเรีย ซาคาโรวา(Maria Zakharova) โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศเตือนว่าการเข้าร่วมของพวกเขาอาจนำไปสู่ ​​“การเพิ่มกำลังทางทหารในภูมิภาคอาร์กติก” และตามมาด้วย “ความตึงเครียดและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก”

วารสารตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาร์กติก “รวมตัวกันภายใต้ธงของกลุ่มนาโต้” ได้พยายามลดการติดต่อและความร่วมมือกับมอสโกว์ รวมถึงผ่านทางสภาอาร์กติกและสภายูโร-อาร์กติกของทะเลแบเรนต์ และกองทัพนอร์เวย์ซึ่งเป็นสมาชิกนาโต้ ได้สนับสนุนบริษัทเอกชนของตน คองสเบิร์ก(Kongsberg) เป็นบริษัทยักษ์ด้านธุรกิจเทคโนโลยีของนอร์เวย์ได้ประกาศแผนการที่จะเปิดตัวดาวเทียมสอดแนมของตัวเอง เพื่อให้สามารถติดตามตรวจสอบข้อมูลเหนือสิ่งอื่นใดในทะเลทางตอนเหนือ แม้จะอ้างว่าทำเพื่อการพาณิชย์แต่ย่อมแบ่งปันข้อมูลกับนาโต้อย่างแน่นอน

กองทัพรัสเซียจึงได้เตรียมการรับมือกับการยั่วยุที่เป็นไปได้โดยเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในน่านน้ำของเส้นทางทะเลเหนือ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าของรัสเซียในแถบอาร์กติก รวมถึงการทิ้งน้ำมันหรือสารเคมีอันตรายอื่นๆ ลงในน่านน้ำท้องถิ่น ระหว่างการใช้งานที่เรียกว่า “เสรีภาพในการเดินเรือ” ในภูมิภาค และกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นอีกประเด็นหนึ่ง

สถานการณ์โดยรวมคือ ความขัดแย้งจะไม่หยุดแค่ยูเครน แต่จะลามไปทั่วทุกปริมณฑล และการต่อสู้ระหว่างรัสเซียและพันธมิตรกับสหรัฐและพวกจะเกิดขึ้นอย่างดุเดือดเข้มข้น!!??