จากกรณีกองทัพยูเครนไม่สามารถสู้กับกองทัพฝ่ายรัสเซียได้ ทำให้กลุ่มชาติตะวันตกในนามของนาโต้ ที่มีสหรัฐเป็นแกนนำ ส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครน แต่ก็ดูเหมือนว่าก็ยังไม่สามารถต้านทานรัสเซียได้แม้แต่น้อย!?!
ล่าสุดวันที่ 23 ธันวาคม 2565 มีความเคลื่อนไหวที่ทั่วโลกพากันจับตาเมื่อ Blockdit World Update นำเสนอข้อมูลจากแหล่งที่มาไว้อย่างน่าสนใจ เกี่ยวกับกองกำลังและอาวุธของทั้งสองฝ่ายว่า
“ปี 2014 กลุ่ม NATO พากันสนับสนุนอาวุธ และเงินจัดตั้งกองพันอาซอฟหัวรุนแรง ที่มั่นในเมืองท่ามาริอูลโปล ใกล้ชายแดนรัสเซีย เพื่อหวังยึดพื้นที่ดอนบาสตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางติดหัวรบนิวเคลียร์จ่อเมืองหลวงกรุงมอสโก รัสเซีย
รัสเซียจัดตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง Wagner PMC ครั้งแรกในเขตลูฮันสก์ สนับสนุนอาวุธให้ชาวดอนบาส ต่อสู้กับกองพันอาซอฟ ของชาติตะวันตก
ปีนั้นรัสเซีย เริ่มแสดงแสนยานุภาพทางทหารต่อชาวโลก ส่งทหารราว 2,000 นาย นำโดยนายพลเซอร์เก ซูโรวิคิน ฉายานายพลอะมาเก็ดดอน ไปประจันหน้ากับสหรัฐ และ NATO ในซีเรีย เหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนสมดุลโลกไปตลอดกาล รัสเซียให้ของขวัญอันล้ำค่าแก่กองทัพซีเรีย โดยทิ้งระเบิดขนาดยักษ์ถล่มผู้ก่อการร้ายโปรตะวันตกกว่า 155,000 ราย นอนเฝ้าทะเลทรายเรียบ
รัสเซีย ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพของการจัดทัพรูปแบบใหม่ ความทันสมัยและรุนแรงของแสนยานุภาพอาวุธ จนสหรัฐ ประกาศถอนทัพออกจากซีเรีย คงเหลือทหารอเมริกันแค่ราว 900 นาย ไว้คุมขบวนขโมยน้ำมัน
ปี 2019 กลาโหมสหรัฐ ออกรายงานว่ารัสเซียจะเข้าสู่อำนาจทางทหารสูงสุดในปี 2028 ดังนั้นสหรัฐฯ ต้องทำทุกวิถีทางเตะสกัดดาวรุ่งป้องกันไม่ให้รัสเซียบรรลุความเหนือกว่ากลุ่ม NATO ด้านอาวุธจำนวนมาก
ในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา หลังสงครามในจอร์เจีย และประสบการณ์รบในซีเรีย ทำให้รัสเซียมีกำลังทหารเพิ่มเป็น 1.05 ล้านนาย มีอาวุธแปลกๆ ทันสมัยที่เพิ่งพัฒนาขึ้นไม่กี่ปีเท่านั้น
ขณะที่ฝ่าย NATO ไม่เคยส่งทหารไปทำสงครามจริงที่ไหนอีกเลย นอกจากอัฟกานิสถาน และพ่ายแพ้กองทัพตอลีบัน อย่างหมดรูปในปี 2021 ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่อาวุธเหนือกว่าหลายเท่า
ปี 2022 สงครามรบจริงระหว่างชาติ NATO กับรัสเซีย จึงสุกงอมและเริ่มต้นขึ้น เมื่อ NATO ยั่วยุกระตุ้นความขัดแย้งในยูเครนเพื่อเตะสกัดไม่ให้รัสเซียครอบครองอาวุธทางยุทธศาสตร์เหนือกว่าตน
สหรัฐ และ NATO มีความฝันว่าถ้ารัสเซียติดหล่มสงครามการสู้รบ ก็คงจะละทิ้งโครงการพัฒนาผลิตอาวุธใหม่สำหรับกองทัพ ทำให้สหรัฐ และพวกมีเวลาหายใจไล่ตามแสนยานุภาพอาวุธรัสเซียได้ทัน แต่เมื่อท้ามา รัสเซียก็อยากทดลองอาวุธเหมือนกัน จึงเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เพราะถ้าช้าฝ่าย NATO จะรุกเข้าดินแดนรัสเซียก่อน ต่อมาชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียทุกอย่างจนบาตรยุโรปแตกไปหมดแล้ว
แต่เศรษฐกิจรัสเซียก็ดีเฉย และขยายตัวดีวันดีคืนอย่างน่าแปลกใจ รัสเซียสามารถผลิตอาวุธใหม่ได้ แม้ว่ารัสเซียจะอยู่ภายใต้การปิดล้อมและก็ต่อสู้กับกองทัพยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม NATO ทั้งหมดไปด้วย
รัสเซียมีงบประมาณทางทหารน้อยกว่ามาก แต่ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียกลับมีอัตราเร่งการพัฒนารวดเร็วปานติดเทอร์โบ สร้างความหวาดกลัวให้กับสหรัฐ และ NATO ซึ่งเฝ้าดูความก้าวหน้าของรัสเซียในด้านอาวุธอย่างใจจดใจจ่อและใจคอไม่ดี
ผลการรบกับ NATO ในยูเครน มานาน 10 เดือน กองทัพรัสเซีย ได้ข้อสรุปถึงความสำคัญอย่างมากของอากาศยานโดรน ที่มีบทบาทสำคัญแทนมนุษย์ในการลาดตระเวน และซุ่มโจมตีแบบพลีชีพต่อตำแหน่งอาวุธของข้าศึก หรือโครงสร้างพื้นฐาน
บัดนี้กองทัพรัสเซียได้รับอาวุธใหม่ แปลกๆ จำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะไม้เด็ดคือกองกำลังนิวเคลียร์เชิงกลยุทธ์ขีปนาวุธข้ามทวีปถึง 6,000 หัวรบ ฐานไซไลพร้อมยิง , ขีปนาวุธ Hypersonic ขั้นสูงความเร็ว 27 มัค
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอาวุธอะไรของสหรัฐ และ NATO จะเทียบเคียงต่อกรได้ สหรัฐ คาดการณ์ผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการยั่วยุสงครามยูเครน แทนที่เตะสกัดลดการพัฒนาทางอาวุธรัสเซีย แต่ได้ผลกลับตาลปัตรตรงข้าม
ฝันร้ายที่แท้จริงของสหรัฐฯเพิ่งเริ่มต้น เพราะขณะที่ NATO ติดหล่มสงครามในยูเครนอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งที่น่ากลัวกว่า คือ เกาหลีเหนือ จีน อิหร่าน ก็ฉวยจังหวะพัฒนาแสนยานุภาพทางอาวุธ Hypersonic พิสัยไกลข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ จนล้ำหน้าสหรัฐไปไกลแล้ว ซึ่งฝ่าย NATO ยังทำไม่ได้
เมื่อวันใดกองทัพฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่ ทนยั่วยุไม่ไหว วันนั้นจะเป็นจุดจบความเป็นเจ้าโลกของดินแดนสหรัฐ และ NATO ที่จะกลายเป็นทะเลทรายเวิ้งว้าง”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
