จากที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เดินทางเยือน สหรัฐอเมริกา สู่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยมีการปราศรัยต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ท่ามกลางการจับตาว่าต้องการอะไรจากผู้นำสหรัฐกับการแลกเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้น!?!
ขณะที่ Blockdit World Update ได้โพสต์รายงานความเคลื่อนไหวของผู้นำยูเครนเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 ไว้อย่างน่าชวนติดตาม โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ตามที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ฉายา นักกู้ในตำนาน ที่พักอยู่ในบังเกอร์ ชายแดนแคว้นลวิฟ ยูเครนตะวันตก คาดว่าอยู่แถวอุโมงค์สมัยสหภาพโซเวียต ในเทือกเขาคาร์เพเทียน แต่จัดฉากกล้าหาญว่าไปเยี่ยมทหารที่เมืองบัคมุท เขตโดเนตสก์
ต่อมานั่งรถไฟต่อไปยังโปแลนด์ และบินต่อไปกรุงวอชิงตัน ไปพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่รั้งตำแหน่ง “ผู้นำเงายูเครน” อีกตำแหน่งหนึ่ง ที่ไปช่วยมอบนโยบาย ให้สภาคองเกรสผ่านงบประมาณปี 2023
โดยมีสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันเพียง 86 คนจากทั้งหมด 213 คน เท่านั้นที่มารับนโยบายจากผู้นำยูเครน ห้ามตัดงบเงินกู้ค่าอาวุธยูเครน ในปีถัดไป และเงินกู้วัตถุโบราณระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot
จากนั้นเขารับคำสั่งจากผู้นำสหรัฐฯ บินกลับไปพบกับประธานาธิบดีโปแลนด์ เพื่อดำเนินวิธีการมอบดินแดนส่วนยูเครนตะวันตก ให้กับโปแลนด์ แลกเปลี่ยนกับการส่งกองทัพไปทำสงครามต่อสู้กับรัสเซียอย่างเปิดเผยต่อไป แต่อ้างบังหน้าว่าส่งกำลังไปรักษาสันติภาพ
ล่าสุดประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับคณะสื่อมวลชนประจำเดือน โดยไม่ได้ยกเลิกกำหนดการตามข่าวปั่นจากสื่อตะวันตก
ช่วงหนึ่งเขาระบุทำนองว่า วัตถุโบราณระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ที่เริ่มใช้งานมา 46 ปี ตั้งแต่หลังสงครามเวียดนาม เป็นระบบที่ค่อนข้างเก่าและใช้งานไม่ได้เหมือนระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของโซเวียต
อาวุธสมัยสหภาพโซเวียต ในกลุ่มประเทศสนธิสัญญาวอร์ซอว์ คือ บัลแกเรีย แอลเบเนีย เชคโกสโลวะเกีย เยอรมนีตะวันออก โรมาเนีย และโปแลนด์ ถูกส่งโล๊ะสต็อคไปให้ยูเครนกู้
แต่กองทัพรัสเซียทำลายเกือบทุกอย่างนั้นเผาทิ้งที่ยูเครน จนใกล้จะหมดแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าประเทศในกลุ่ม NATO จะไม่มียุทโธปกรณ์อื่นๆ แต่การที่ชาติเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปใช้อาวุธของ NATO จะเป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน
วิเคราะห์ว่าจากภาวะยูเครนถังแตก หนี้สินล้นพ้นตัว ล่มสลายลง สหรัฐ คงประเมินว่าเหยื่อรายถัดไปควรปั่นโปแลนด์ที่ยังพอมีเงินเหลือและอดีตเคยเป็นจุดเริ่มต้นสงครามกับชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว
การที่สหรัฐฯ สั่งให้ยูเครน เอาดินแดนตะวันตกแคว้นลวิฟ มาล่อโปแลนด์ย่อมเกิดความโลภตาลุกวาวหวังสานฝันในอดีต ยอมทุ่มอาวุธ และกองทัพ เพื่อแลกดินแดนมา เท่ากับสหรัฐ ปั่นให้โปแลนด์เข้าสู่มหาสงครามครั้งใหม่ได้
เมื่อโปแลนด์สู้รบกับรัสเซียจนเละ คิวถัดไปก็ยังมีเหยื่อปั่นจิ้งหรีดโรมาเนีย บัลแกเรีย แอลเบเนีย เชคโกสโลวะเกีย เยอรมนี มาให้สหรัฐฯ ดันหลังรับปากว่าจะมายืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว พร้อมรับออร์เดอร์ขายอาวุธไม่จากไปไหน เป็นศัตรูสหรัฐฯ อาจอันตราย แต่เป็นบริวารสหรัฐฯ ไม่รอดแน่นอน”