เป็นที่สงสัยกันไปหมดทั้งโลก ว่าการยึดทรัพย์ของรัสเซียนั้นเป็นกงการอะไรของเมกา หลัง ส.ว.มะกัน ผ่านร่างกฎหมาย ไฟเขียวให้อำนาจฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยึดทรัพย์สินอเมริกันของเจ้าหน้าที่ นักธุรกิจ และนิติบุคคลของรัสเซีย เพื่อจุนเจือยูเครนในการทำสงคราม
วุฒิสภาสหรัฐฯ ออกกฎหมายไฟเขียวให้อำนาจฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยึดทรัพย์สินอเมริกันของเจ้าหน้าที่ นักธุรกิจ และนิติบุคคลของรัสเซีย และส่งเงินที่ได้มาให้ยูเครน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันในเซาท์แคโรไลนา ลินด์ซีย์ เกรแฮม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงกฎหมายจะเพิ่มเงิน“หลายพันล้านดอลลาร์”ให้กับเคียฟ
การแก้ไขเสนอโดยเกรแฮมและวุฒิสมาชิกโรดไอส์แลนด์ เชลดอน ไวท์เฮาส์ พรรคเดโมแครต มันผ่านมติเป็นเอกฉันท์และถูกเพิ่มเข้าไปในแพ็คเกจการใช้จ่ายรถโดยสาร 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งวุฒิสภาผ่านด้วยคะแนนเสียง 68 ต่อ 29 ทำให้ผ่านเกณฑ์การลงคะแนนเสียง 60 เสียง
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายของสหรัฐฯ เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมขายทรัพย์สินของ“ผู้มีอำนาจ…และนิติบุคคลอื่นๆ”เกรแฮมอธิบายก่อนการลงคะแนนเสียง “ฉันคาดว่าเมื่อเวลาผ่านไปหลายพันล้านดอลลาร์ในทรัพย์สินที่ถูกยึดจะถูกส่งไปช่วยเหลือยูเครน”ส.ส. เซาท์แคโรไลนาเขียนบนTwitterหลังจากนั้น และทางกระทรวงยุติธรรมได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสแก้ไขกฎหมายของสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถมอบเงินที่ถูกยึดจากชาวรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตรให้กับยูเครนได้
เกรแฮมและไวท์เฮาส์เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีเสียงต่อต้านรัสเซียดังที่สุดในแคปิตอล ฮิลล์ นับตั้งแต่ก่อนที่มอสโกจะเปิดตัวปฏิบัติการทางทหารในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เกรแฮมเดินทางไปยูเครนในปี 2559 เพื่อแสดงการสนับสนุนเคียฟ ขณะที่กองกำลังของตนกวาดล้างพลเรือนในโดเนตสค์และลูกันสค์ และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้เรียกร้องให้มีการลอบสังหารประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
สหรัฐฯ และพันธมิตรยังได้อายัดทรัพย์สินที่เป็นของธนาคารกลางรัสเซีย รวมมูลค่าราว 300,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาไม่พบวิธีการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์สินเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยเงินตราต่างประเทศ
“ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเราถูกขโมยโดยประเทศตะวันตกโดยเฉพาะ” ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินระบุในเดือนตุลาคม “สิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยสิ้นเชิง ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ”
ร่างกฎหมายการใช้จ่ายที่ผ่านในวันพฤหัสบดีจะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากสภาที่ดำรงตำแหน่งโดยพรรคเดโมแครต พรรครีพับลิกันจำนวนน้อยได้สาบานว่าจะคัดค้านร่างกฎหมายและลงโทษสมาชิกสภานิติบัญญัติ GOP ที่ลงคะแนนเสียงให้
