จากที่ Blockdit WorldUpdate ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจเป้นอย่างยิ่ง เมื่อชาติที่เคยยืนอยู่ตรงข้ามจีน มีความสนิทกับสหรัฐ เปลี่ยนท่าทีแข็งกร้าวที่จะคว่ำบาตร ซึ่งเป็นท่าทีเหมือนกับชาติยุโรปที่ยอมสยบต่อรัสเซียด้วย
ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 โดย Blockdit WorldUpdate ได้โพสต์ถึงเนื้อหาถึงออสเตรเลีย ที่ระบุว่า https://www.blockdit.com/world.update
“ออสเตรเลีย ดินแดนใหญ่ทวีปทางใต้มหาสมุทรแปซิฟิคที่ชาวอังกฤษมาอาศัย ต่อมาปฏิวัติใช้อาวุธแย่งชิงดินแดนไปจากชนพื้นเมือง กลายเป็น 1 ใน 14 อาณานิคมที่ยังไม่ได้รับเอกราชโดยสมบูรณ์ ต้องจัดส่งเงินรายปีและทรัพยากรให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรมาจนถึงปัจจุบัน
ออสเตรเลีย แม้เอาชนะชนพื้นเมืองด้วยอาวุธ แต่เคยพ่ายแพ้ “มหาสงคราม” ที่ไม่ใช่กับคน แต่คู่อริคือ “นกอีมู” ส่งผลให้กองทัพออสเตรเลีย พ่ายแพ้สงครามให้นกอย่างย่อยยับราบคาบ
ปี 2019 Yang Jun ชาวออสเตรเลียที่เกิดในจีนซึ่งถูกจับโดยตำรวจจีนในข้อหาเป็นสายลับจารกรรม , ปีถัดมา Cheng Lei นักข่าวชาวออสเตรเลียถูกตำรวจจีนจับด้วยข้อหาสายลับและจารกรรมเช่นกัน
ปี 2021 ออสเตรเลีย หวังจะเอาตัวสายลับคืน จึงกล่าวหาจีนเรื่องเชื้อโควิด และยกเลิกทำถนนวงแหวนในรัฐวิคตอเรีย จีนสวนกลับสั่งห้ามการนำเข้าไวน์และถ่านหินจากออสเตรเลีย และยกเลิกข้อตกลงการเจรจาเศรษฐกิจ China-Australia Strategic Economic Dialogue ทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด
ออสเตรเลีย ร่วมกับสหรัฐ อ้างจีนละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงคว่ำบาตรไม่ส่งตัวแทนทูตร่วมพิธีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง
ปี 2022 ต้นปีออสเตรเลีย โวยวายจีนที่ไม่มาเข้ากับพวกตน สหรัฐ ยุโรป ในการคว่ำบาตรรัสเซีย ขู่ว่าจะเล่นงานจีนโดยการคว่ำบาตร และพยายามส่งเครื่องบินรบมาร่วมกับสหรัฐ ก่อกวนแถวไต้หวัน
จีนสั่งลุยตอบโต้โดยไปตั้งฐานทัพ และส่งตำรวจไปประจำการที่หมู่เกาะโซโลมอน และรุกปิดล้อมออสเตรเลีย ทำข้อตกลงความมั่นคงและการค้ากับบรรดาหมู่เกาะโดยรอบออสเตรเลีย
กลางปี มีการเปลี่ยนผู้นำ และรัฐบาลใหม่ ประกาศขอคืนดีกับเพียงจีนยกเลิกปิดล้อมทางความมั่นคงกับหมู่เกาะโดยรอบ ยกเลิกคว่ำบาตรการค้าออสเตรเลีย คืนตัวสายลับ 2 คน และไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ แต่จีนเมินไม่สนใจ
ล่าสุดนางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศ ออสเตรเลีย ยอมแหกนโยบายสหราชอาณาจักร เดินทางไปขอร้องจีน ให้ช่วยยกเลิกคว่ำบาตรทางการค้าเพราะออสเตรเลียย่ำแย่ไปหมดแล้ว ขอจีนปล่อยตัวสายลับจารกรรมชาวออสเตรเลีย 2 คนที่ถูกจับกุมตัวไว้ และคุกเข่าขอร้องจีนช่วยลดอิทธิพลในต่างประเทศย่านหมู่เกาะแปซิฟิค
อย่าช่วยรัสเซีย และอ้างว่าจีนยังละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ฮ่องกง และทิเบต และขอให้จีนเป็นลูกน้องยอมรับบทบาทอิทธิพลของสหรัฐในเอเชียแปซิฟิก อาเซียน ฯลฯ ให้สหรัฐ เป็นหัวหน้าระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวดังเดิม
คาดว่าการเดินทางของออสเตรเลีย ไปเยือนจีนครั้งนี้ จะกินแห้วทุกประเด็น เพราะจีนมีอิทธิพลใหญ่ต่อโลกกว่าสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย ไปไกลมากแล้ว ยิ่งเอาประเด็นสิทธิมนุษยชนมาเป็นข้ออ้างยิ่งจบไปต่อไม่ได้ เพราะตำรวจออสเตรเลีย ทุบม็อบ ใช้ตำรวจม้าวิ่งตะลุยม็อบเจ็บระนาว หนักกว่าจีนเสียอีก
ออสเตรเลีย เคยแพ้มหาสงครามกับนกอีมูมาแล้ว และปัจจุบันก็ไม่มีอำนาจทางกองทัพ แสนยานุภาพอาวุธ และการทหารใดๆมิหนำซ้ำยังมีสถานะเป็นอาณานิคมเครือจักรภพอังกฤษ ยังไม่ได้เอกราชสมบูรณ์ ไม่อาจมีสถานะเทียบกับจีนที่เป็นขาใหญ่คณะมนตรีความมั่นคงถาวร UN ได้ แล้วจะส่งชาวจีน สัญชาติออสเตรเลีย ไปเบ่งกล้ามกับพญามังกรจีน ขอเรื่องไม่เป็นเรื่อง คงกินแห้วกลับบ้านแน่นอน”