นับตั้งแต่เปิดศึกระหว่างยูเครนและรัสเซีย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ประธานาธิบดีของยูเครนไม่เคยออกนอกประเทศเลยแม้แต่ครั้งเดียว ล่าสุดมีข่าวลือสนั่น เขาเตรียมตัวออกนอกประเทศไปพกไบเดนที่อเมริกา
ประธานาธิบดียูเครน วลาดิมีร์ เซเลนสกี อาจเดินทางมายังวอชิงตัน สำนักข่าวหลายแห่งในสหรัฐรายงานเมื่อวันอังคารโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุตัวตน ในขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะไม่ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว แต่โฆษกประจำสภาแนนซี เปโลซีได้ส่งจดหมายขอให้สมาชิกทุกคนเข้าร่วมด้วยตนเองในวันพุธเพื่อ“เน้นเรื่องประชาธิปไตยเป็นพิเศษ”
ด้าน CNN อ้างถึง “แหล่งข่าว 2 แหล่งที่คุ้นเคยกับการวางแผนที่กำลังดำเนินอยู่” เพื่อบอกว่าอดีตนักแสดงเตรียมเดินทางไปพบกับ Biden ที่ทำเนียบขาวและกล่าวสุนทรพจน์ในรัฐสภาในเย็นวันพุธ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปัญหาด้านความปลอดภัย “แหล่งข่าวระดับผู้นำระดับสูงหลายคน” ว่าตำรวจได้เตรียมการเตรียมการรักษาความปลอดภัยสำหรับการมาเยือนแล้ว
การเยือนที่มีข่าวลือดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงกระซิบในวอชิงตันว่าในที่สุดสหรัฐฯ จะประกาศส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ให้แก่ยูเครน ฝั่งรัสเซียออกโรงเตือน อย่างชัดเจน ว่าเจ้าหน้าที่ของนาโต้ที่ปฏิบัติการจะเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรม ไบเดนยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าทั้งสหรัฐฯ และพันธมิตรไม่ได้เป็นคู่กรณีในความขัดแย้ง แม้ว่าเขาจะส่งเงิน อาวุธ และเครื่องกระสุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่เคียฟก็ตาม
ด้านของทำเนียบขาวเอง ได้ออกมาปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกับเรื่องนี้ พร้อมกล่าวเอาไว้ว่าไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ว่าเซเลนสกี้จะมาเยือนแผ่นดินของเรา
ท่าทีของสหรัฐในปัจจุบันที่มีต่อสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย สหรัฐฯ สนับสนุนเป้าหมายของยูเครนในการยึดคืนดินแดนที่ลงมติให้เข้าร่วมกับรัสเซีย และปฏิเสธแนวคิดเรื่องข้อตกลงสันติภาพในเวลานี้
สหรัฐฯ ให้เงินช่วยเหลือยูเครนประมาณ 68,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยฝ่ายบริหารของ Biden ได้ขอให้สภาคองเกรสนุมัติเงินอีก 37,700 ล้านดอลลาร์ก่อนเดือนมกราคม ประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้คำมั่นว่าจะส่งความช่วยเหลือไปยังเซเลนสกีต่อไป“ตราบเท่าที่ยังไหว”แต่ดูเหมือนความแตกแยกได้เกิดขึ้นในวอชิงตันระหว่างผู้ที่ผลักดันให้ยูเครนสู้ต่อ – ไบเดนและบลิงเคน – และผู้ที่เสนอแนะให้เคียฟฟ้องร้องเพื่อสันติภาพ นายพลชั้นนำของสหรัฐฯ มาร์ค มิลลีย์วางตัวเองอยู่ในค่ายหลังเมื่อเขากล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าความน่าจะเป็นที่ยูเครนยึดคืนดินแดนในช่วงก่อนเดือนกุมภาพันธ์“ไม่สูงนัก ในทางการทหาร”
