หลังจากร่วมซ้อมรบกันมาหลายครั้ง ระหว่างรัสเซียและเบลารุส ล่าสุดมอสโกวมอบอาวุธสุดแกร่ง เสริมเขี้ยวเล็บให้ตามสัญญา
เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมด้วยรัฐมนตรีกลาโหม เซียร์เก ชอยกู และรัฐมนตรีต่างประเทศ เซียร์เก ลาฟรอฟ เดินทางถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของเบลารุส เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องต่างๆโดยมีประธานาธิบดีของประเทศเบลารุสรอต้อนรับ
โดยการที่ปูตินเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ได้ทำการส่งมอบอาวุธตามที่มอสโกสัญญาไว้ หลังจากที่ร่วมซ้อมรบกันมาหลายครั้ง ลูคาเชนโก้ ประธานาธิบดีของประเทศเบลารุสกล่าวว่า วันนี้ เราได้ติดตั้งระบบ S-400 และที่สำคัญที่สุดคือ ระบบ Iskander ที่คุณมอบให้เรา ตามที่คุณสัญญาไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน
ในการแถลงข่าว ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่าทั้งสองประเทศได้จัดตั้งระบบป้องกันและเตือนภัยทางอากาศแบบบูรณาการแล้ว ซึ่งแบตเตอรี่ของ S-400 เป็นองค์ประกอบสำคัญ ในไม่ช้า นักบินจากเบลารุสจะได้รับการฝึกใช้“อาวุธพิเศษและกระสุนพิเศษ”ปูตินเปิดเผยและลูคาเชนโกยืนยัน
“ต้องบอกว่าเราเตรียมเครื่องบิน ปรากฎว่าเรามีเครื่องบินแบบนี้มาตั้งแต่สมัยโซเวียต เราได้ทดสอบเครื่องบินเหล่านี้ในสหพันธรัฐรัสเซีย ตอนนี้เราฝึกลูกเรือที่สามารถขับเครื่องบินที่สามารถบรรทุกน้ำหนักบรรทุกพิเศษเหล่านี้ร่วมกับชาวรัสเซียได้” ลูคาเชนโก้ กล่าว
แม้ว่าจะไม่มีประธานาธิบดีคนใดใช้คำว่า”นิวเคลียร์” แต่ปูตินก็ชี้ว่านาโต้แนะนำวิธีปฏิบัตินี้เมื่อหลายสิบปีก่อน นี่น่าจะเป็นการอ้างอิงถึงนโยบาย”แบ่งปันนิวเคลียร์” ของสหรัฐฯ โดย ใช้ระเบิดจำนวนหนึ่งในหลายประเทศของนาโต้ที่ไม่มีอาวุธปรมาณูเป็นของตนเอง แต่ใช้งานเครื่องบินที่มีความสามารถสองทางที่เรียกว่า เจ้าหน้าที่โปแลนด์แสดงความเต็มใจที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวในเดือนตุลาคม ทำให้ ลูคาเชนโก้ กล่าวหาวอร์ซอว์ว่าคุกคามเบลารุสที่อยู่ใกล้เคียง
ด้วยเหตุนี้ทำให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐออกมาประนามเดลารุสว่า สิ่งที่เบลารุสกำลังทำเปรียบเสมือนการยกเอกราชให้กับรัสเซีย เป็นการสนับสนุนรัสเซียให้ความช่วยเหลือรัสเซียในการทำสงครามที่แสนโหดร้าย
สิ่งที่รัสเซียกำลังทำ ก็ไม่ต่างอะไรจากอเมริกาที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านอาวุธและตัวเงินให้แก่ยูเครน สหรัฐฯ ใช้จ่ายเงินกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือยูเครน นับตั้งแต่ที่ Joe Biden สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2021 และจะยังคงส่งเงิน อาวุธ และเครื่องกระสุนไปยังเคียฟต่อไป
ทั้งที่เรื่องนี้มอสโกก็พยายามเตือนหลายครั้งแล้วว่า ว่าการส่งอาวุธไปยังยูเครนรังแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวว่า ชาติตะวันตกได้เปลี่ยนยูเครนให้กลายเป็น “อาณานิคม”โดยพฤตินัยและใช้ชาวยูเครนเป็น “อาหารสัตว์ใหญ่”และเป็นการทุบตีรัสเซียในขณะที่ส่งอาวุธให้เคียฟ