เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์รอบโจมตีสนามบินรัสเซียถึง 3 แห่งโดยยูเครน เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้รัสเซียตัดสินใจเอาคืนอย่างเจ็บแสบ ทำให้อยู่เขตต้องทนกับอากาศหนาวติดลบประชาชนลำบากกันอย่างถ้วนหน้า
จากการโจมตีครั้งนั้น จอห์น เคอร์บี โฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ มายืนยันว่า “ไม่สนับสนุนหรือเปิดใช้งานปฏิบัติการของยูเครนในรัสเซียอย่างแน่นอน”โดยอ้างถึง“ความเสี่ยงที่จะลุกลามบานปลาย” การ “คำนึงถึง”ความเสี่ยงเหล่านี้เป็นเรื่อง“ดี”ทั้งต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และชาวยูเครน
ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเคยเตือนสหรัฐฯ ว่าการจัดหาอาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีรัสเซียจะเป็นการข้าม“เส้นแดง”และอาจทำให้วอชิงตันกลายเป็นฝ่ายหนึ่งของความขัดแย้ง สหรัฐฯ และพันธมิตรยืนยันว่าพวกเขาไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการสู้รบ แต่ยังคงติดอาวุธที่เคียฟ
ล่าสุด เดนิส พุชิลิน ผู้นำกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ออกมาให้ข่าวแก่สื่อว่า มีผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งได้ช่วยเหลือยูเครนในการปรับปรุงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ให้ทันสมัย ซึ่งต่อมาถูกใช้ในการโจมตีที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย โดยเขากล่าวต่อว่าบริษัทแห่งนั้นได้ทำการช่วยเหลือทหารยูเครนอย่างเป็นทางการ UAV ดังกล่าวติดตั้งระบบนำทาง GPS ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ทางอเมริกาเองก็ยังไม่มีการโต้ตอบใดๆเกี่ยวกับการสัมภาษณ์นี้ ก็ยังต้องดูท่าทีกันต่อไป เพราะการลอบโจมตีครั้งนั้นจะต้องโดนเอาคืนอีกหลายระลอกแน่นอน