จากที่วันนี้ 16 ธันวาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยลง Blockdit ถึงข้อมูลที่ทั่วโลกต่างจับตาและติดตามเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏออกมาเกี่ยวกับสหรัฐและรัสเซีย
ทั้งนี้เนื้อหาที่ ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยไว้ระบุว่า “รัฐบาลอเมริกาประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แล้ว:รัฐบาลกุ๊ยโลกมาแนวใหม่ครับ ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าจักรวรรดินิยมอเมริกาเดินต่อไม่ได้ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลรัสเซียอยู่ในสภาความมั่นคงสหประชาชาติ เพราะรัสเซียขวางได้ทุกมิติ
ไม่ว่าจะเป็นสายลับสู้กัน ขีปนาวุธสู้กัน เครื่องบินรบสู้กัน การทูตสู้กัน การทหารสู้กัน ฯลฯ รัสเซียตามประกบอเมริกาและเป็นต่ออเมริกาตลอด
รัฐบาลกุ๊ยโลกและประชาธิปไตยปลอมจึงคิดหาทางเขี่ยรัสเซียออกไปจากสภาความมั่นคงสหประชาชาติ แต่ยังทำไม่ได้ เพราะจะทำได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียต้องเห็นพ้องกับมติของอเมริกาคือยอมออกมาด้วย ที่ผ่านมาแพ้รัสเซียในหลายๆ สมรภูมิ รัสเซียมีมิตรประเทศมากขึ้นแต่อเมริกามีแต่ประเทศที่อยากถอยหนี
อเมริกาเพิ่งประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อันเดียวที่เหนือรัสเซียอย่างเห็นได้ชัดคือออกกฎหมายให้ตุ๊ด แต๋วหรือคนมีเพศสภาพเป็นทูอินวันแต่งงานกับคนมีเพศเดียวกันได้อย่างเสรี โจ ไบเดนตอนนี้เป็นขวัญใจกลุ่มคนรักเพศเดียวกันไปแล้ว”
ก่อนหน้านี้มีการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 มีการลงมติต่อกรณีรัสเซียพยายามผนวก 4 ดินแดนยูเครนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งผลการลงมติปรากฎว่า ชาติสมาชิก 143 ประเทศลงมติเห็นด้วยกับการประณามรัสเซียที่พยายามผนวกดินแดนในยูเครนอย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องทุกประเทศให้ไม่รับรองความเคลื่อนไหวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มี 5 ชาติที่ลงมติไม่เห็นด้วย ได้แก่ รัสเซีย นิการากัว ซีเรีย เกาหลีเหนือและเบลารุส และมี 35 ชาติงดออกเสียง เช่น จีน อินเดีย รวมถึงไทยก็ลงมติงดออกเสียงต่อกรณีนี้
โดยในชาติอาเซียนด้วยกัน ไทยลงมติงดออกเสียงเหมือนกับเวียดนามและลาว ขณะที่ชาติอาเซียนอื่นๆ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และบรูไน ลงมติเห็นด้วยต่อการประณามรัสเซีย โดยกรณีเมียนมา ผู้ลงมติเป็นผู้แทนที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลก่อนการรัฐประหาร
ขณะที่ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติให้เหตุผลว่า วันนี้รัสเซียบุกยูเครน แต่ในวันพรุ่งนี้ อาจเป็นประเทศอื่นที่พรมแดนถูกละเมิดก็ได้ ขณะที่ผู้แทนรัสเซียระบุว่า การประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติกลายเป็นการเมืองที่ปฏิเสธข้อเท็จจริงทั้งปวง ส่วนผู้แทนจีนประจำยูเอ็นที่ลงมติงดออกเสียงมองว่า ความเคลื่อนไหวในการลงมติครั้งนี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดการเจรจาหรือแก้ปัญหาใดๆ