ในสถานการณ์สู้รบของรัสเซียกับสหรัฐและพวกในสงครามตัวแทนยูเครนยังดุเดือดเข้มข้น สมรภูมิตะวันออกกลางกำลังคุกรุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอิหร่านซึ่งเป็นที่หมายหัวเป็นศัตรูหมายเลข ๑ ของอิสราเอล ภายใต้การรู้เห็นเป็นใจของสหรัฐฯ มีการกระทบกระทั่งในอ่าวเปอร์เซียเกิดขึ้นเป็นระยะ
ล่าสุด ผู้บัญชาการอาวุโสกองทัพเรืออิหร่านเปิดเผยว่า เรือพิฆาตลำใหม่ของกองทัพเรือกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม(Islamic Revolution Guards Navy) ได้ปิดกั้นเส้นทางของเรือรบอเมริกัน ๒ ลำ เนื่องจากพวกเขาตั้งใจจะแล่นเข้าสู่อ่าวเปอร์เซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
พลเรือตรี อาลี เรซา แตงซีรี ผู้บัญชาการกองทัพเรือ IRGC (Navy Commander Rear Admiral Ali Reza Tangsiri)กล่าวว่า กองกำลังของเขาได้ผลิตเรือลำใหม่ ซึ่งตั้งชื่อตามทหารกองประจำการ IRGC มีนามว่า “ฮาบิบ รูฮีม”
ขีปนาวุธของเรือเดินสมุทรลำใหม่มีพิสัยทำการ ๓๐๐ กิโลเมตร เขากล่าวเสริมว่าในเหตุการณ์สอดแนมของเรือรบสหรัฐ เรือยิงขีปนาวุธลำใหม่ได้ป้องกันไม่ให้เรือรบอเมริกัน ๒ ลำเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย และสั่งให้ระบุตัวตนเมื่อแล่นเข้าไปไกล้ ทั้งสองลำได้หันหัวเรือออกไปจากเขตรับผิดชอบของอิหร่าน
ในงานนี้ผบ.กองทัพเรือIRGC ยังเปิดเผยอีกว่า “เรามีขีปนาวุธที่อเมริกาคิดไม่ถึงสิ่งที่เราแสดงในการฝึกซ้อมไม่ใช่สิ่งที่เรานำมาใช้ในสนามรบ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีประเทศใดที่สามารถติดตั้งขีปนาวุธบนเรือขนาด ๖ และ ๘ เมตรได้ แต่เราทำได้แล้ว” แม้จะไม่บอกรายละเอียด แต่เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณถึงคู่ปรับฝั่งตะวันตกว่าอิหร่านพร้อมเผชิญหน้าไม่ว่าสงครามจะปะทุขึ้นเมื่อใด
วันที่ ๑๕ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาสนิมนิวส์ รายงานว่า อัยการสูงสุดของรัสเซียและอิหร่านได้ลงนามในแผนความร่วมมือร่วมกันจนถึงปี ๒๐๒๕ ณ.กรุงเตหะราน และเห็นพ้องกันในการจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจพิเศษเพื่อต่อสู้กลุ่มก่อการร้าย นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าร่วมพัฒนาด้านอวกาศระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ กระทรวงข่าวกรองของอิหร่านได้จับกุมผู้ก่อการร้าย ๓ คนที่เกี่ยวข้องกับการสังหารนักบวชนิกายสุหนี่ โมลาวี อับดุลวาฮิด ริกิ ในจังหวัดซิสตาน (Sistan) และบาลูเชสตาน (Balouchestan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นที่น่าสังเกตว่าท่ามกลาง การประท้วงเรียกร้องขับไล่รัฐบาลเตหะรานภายใต้การสนับสนุนของตะวันตก จะเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย ลักพาตัวและลอบสังหารมากขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายให้เกิดการจลาจลจนอิหร่านกลายเป็นรัฐล้มเหลวให้ได้
สถานการณ์ที่เปราะบางทางการเมืองของอิหร่านได้ผลักดันให้ใกล้ชิดกับพันธมิตรรัสเซียมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้ขณะที่สหรัฐ-อิสราเอลและสหภาพยุโรปรับลูกกันประณามและเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างประเทศให้ขับอิหร่านออกจากสังคมโลก เหมือนกับที่ทำกับรัสเซีย แต่จีนและพันธมิตรกลุ่มบริกส์หลายประเทศคัดค้าน การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและรัสเซียจึงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง และเทคโนโลยีอวกาศ
เมื่อเร็วๆนี้ หัวหน้าองค์การอวกาศรัสเซียเปิดเผยว่า การส่งดาวเทียมเคยัม (Khayyam) ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาถือเป็นประสบการณ์ความร่วมมือกันระหว่างอิหร่านและรัสเซียในทิศทางของการพัฒนาความร่วมมือด้านอวกาศ และจะนำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้รัสเซียและอิหร่านมีการพัฒนาและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งทั้งสองประเทศได้ประกาศความพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งกันและกัน เกี่ยวกับการพัฒนาด้านอวกาศต่อไป
นอกจากนี้อิหร่านและรัสเซีย ยังตกลงร่วมมือสร้างเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่มีความจุสูงสุดมากถึง “๑๕๐ คน”อีกด้วย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการขนส่งอิหร่าน ประกาศถึงการแบ่งปันความสามารถและการพัฒนาปฏิสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและรัสเซียด้านการพาณิชย์
ในนิทรรศการการแสดงผลิตภัณฑ์ทางอากาศระหว่างประเทศของอิหร่านครั้งที่ ๑๑ ได้เน้นย้ำและติดตามความคืบหน้า ประเด็นความร่วมมือร่วมกันของอุตสาหกรรมการบินของอิหร่านและรัสเซียในด้านความร่วมมือการผลิตเครื่องบินพาณิชย์ สร้างเครื่องบินที่มีความจุผู้โดยสาร ๑๐๐ ถึง ๑๕๐ คนโดยสหภาพการบินรัสเซีย จะให้ความร่วมมือในการออกแบบและผลิตเครื่องบินโดยสารและเฮลิคอปเตอร์รุ่น เคเอ๒๒๖(ka226) จำนวน ๗๐-๑๐๐ ลำในอิหร่าน
นอกจากเดินหน้ากระชับมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสพัฒนาประเทศชาติแล้ว ในทางการทูต ทางการอิหร่านได้เรียกร้องให้ตะวันตกหยุดเป็นเจ้าภาพ สนับสนุนผู้ก่อการร้ายในทุกกรณีเพราะอิหร่านจะไม่ทนนิ่งเฉย
กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ทวีตเรียกร้องให้พวกตะวันตกหยุด “บรรยายเรื่องอิหร่าน”อย่างบิดเบือน และยุติการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายต่อต้านอิหร่าน
แถลงการณ์ระบุว่า “ในการต่อต้านการจลาจล อิหร่านแสดงความอดกลั้นอย่างที่สุด ซึ่งไม่เหมือนระบอบการปกครองของตะวันตกหลาย ๆ แห่งที่ป้ายสีและปราบปรามอย่างรุนแรงแม้กระทั่งการประท้วงอย่างสงบ อิหร่านใช้วิธีการต่อต้านการจลาจลที่ได้สัดส่วนและเป็นมาตรฐาน เช่นเดียวกับกระบวนการยุติธรรม ด้วยความยับยั้งชั่งใจ”
“ความปลอดภัยสาธารณะคือเส้นแดง การจู่โจมด้วยอาวุธและการกระทำป่าเถื่อนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ รัฐบาลตะวันตกใช้โอกาสในการบรรยายถึงอิหร่านอย่างหน้าซื่อใจคด”
ด้านกระทรวงมหาดไทยของอิหร่านกล่าวว่า ศัตรูของประเทศใช้โอกาสจากคดีของอามีนี ทำสงครามลูกผสมกับสาธารณรัฐอิสลาม เพื่อลดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในชาติ และขัดขวางความก้าวหน้าของประเทศ จนถึงขณะนี้มีผู้สูญเสียชีวิตไปแล้วประมาณ ๒๐๐ คนในการจลาจล ซึ่งกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและกลุ่มก่อการร้ายเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อเหตุ!!
