หลังจากที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน กลับมาน่าติดตามแบบใกล้ชิดอีกครั้ง เมื่อต่างฝ่ายต่างพุ่งเป้าถล่มกันเดือด โดยตอนนี้หลายพื้นที่ของยูเครน โดยเฉพาะทางตอนเหนือและเมืองหลวง กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มรูปแบบ อุณหภูมิภาคพื้นดินในบริเวณดังกล่าวเข้าสู่จุดติดลบแล้ว
ในขณะที่พื้นที่ภูมิภาคดอนบาสและภาคใต้ของยูเครน บริเวณที่ติดกับทะเลดำ อุณหภูมิเริ่มค่อย ๆ ลดต่ำลงเรื่อย ๆ และคาดว่าจะเข้าสู่จุดติดลบในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ ทางฝั่งรัสเซียยังคงโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนด้วยโดรนพลีชีพเป็นระยะ ๆ โดยพื้นที่ล่าสุดที่ถูกโจมตีคือ แคว้นโอเดสซา พื้นที่สำคัญทางตอนใต้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดการโจมตีแคว้นโอเดสซา ทางสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า จะมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน เพื่อใช้ป้องกันโครงสร้างพื้นฐานและพลเรือน
จากตอนแรกที่สหรัฐฯ ได้เอ่ยปากให้ยูเครน ยอมเจรจากับรัสเซีย เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา แต่ก็ได้กลับลำให้ยูเครนสู้ต่อไป จนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ ถึงแม้ว่ายูเครนจะบอบช้ำแค่ไหน สหรัฐฯก็ยังคงบังคับให้ยูเครนเดินหน้าต่อไป
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก Thanong Fanclub ได้แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นการยื้อสงคราม ที่รัสเซียจะได้ประโยชน์อีกครั้ง โดยระบุว่า ทองจะมีราคาพุ่งไปที่$3,600 ต่อออนซ์ถ้าหากรัสเซียผูกราคาน้ำมันกับทอง
Zoltan Pozsar นักยุทธศาสตร์จากCredit Suisse เขียนรายงานล่าสุด Oil, Gold, and LCLo(SP)R.’ โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า ราคาทองคำสามารถพุ่งไปที่$3,600ต่อออนซ์ ถ้าหากรัสเซียตอบโต้การกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบของรัสเซียโดยกลุ่มจี7ด้วยการขายน้ำมันแลกทองคำ ณ ขณะนี้ เพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ตะวันตกกำหนดที่$60ต่อบาร์เรลล์เทียบเท่าราคาทองคำ 1 กรัม 1 ออนซ์ เทียบเท่า 28.3495 กรัม
ปูตินไม่ต้องการขายน้ำมันที่ราคา $60 ต่อบาร์เรล หรือการทำสงครรามการค้าที่ขัดกับกลไกตลาด จึงสามารถตอบโต้ได้ด้วยการผูกราคาน้ำมันกับทองคำ โดยต้ังราคาขายที่ทองคำ 1 กรัมต่อน้ำมัน 2 บาร์เรลล์ ถ้ารัสเซียทำเช่นนี้ ราคาทองคำจะสูงขึ้นเป็นเท่าตัวที่ $3,600 จากระดับปัจจุบันที่ $1,800ต่อออนซ์ คำถามคือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ Pozsar บอกว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้ว่ามันจะดูเกรซี่ก็ตาม เนื่องจากความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
การแก้เกมแบบย้อนศรนี้ของปูตินจะทำให้ดอลล่าร์อ่อนค่าลงไปทันที 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับราคาทองคำ และจะทำให้น้ำมันสำรองของรัสเซีย และประเทศอื่น ๆ มีราคาเพิ่มเท่าตัวเป็นเงาตาม นอกจากนี้ รัสเซียและจีนที่ถือทองคำสำรองเอาไว้มากจะได้อานิสงส์ไปด้วย
สิ่งที่รัสเซียจะได้ประโยชน์ตามมาคือ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน เพราะว่าหากผลิตเท่าเดิมก็ยังจะมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่รัสเซียจะมุ่งเน้นให้มีดีมานด์สำหรับน้ำมันรัสเซียอย่างเพียงพอ จะได้ไม่ต้องลดกำลังการผลิต หรือปิดการขุดเจาะน้ำมัน
นอกจากนี้ รัสเซียยังต้องการขายน้ำมันให้ยุโรป เพราะว่าอย่างไรเสียรัสเซียกับยุโรปต้องอยู่ร่วมกันในอนาคต และรัสเซียเป็นผู้ที่ซับไพลพลังงานให้ยุโรปรายใหญ่ที่สุด แต่รัสเซียจะพยายามไม่ให้น้ำมันรัสเซียไปถึงตลาดอเมริกาที่รัสเซียมองว่าเป็นศัตรูที่แท้จริง
หากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากมาตรการตอบโต้ของรัสเซีย ธนาคารที่เทรดทองคำกระดาษในตลาดฟิวเจอร์สจะมีปัญหาสภาพคล่อง เพราะว่าพวกแบงค์ไม่เคยคิดว่าโลกอนาคตจะกลับมาใช้ทองคำ หรือสินค้าโภคภัณฑ์หนุนการออกเงินตรา เมื่อเกิดปัญหาสภาพคล่องทำให้แบงค์ต้องเพิ่มทุน ขยายงบดุล หรือปรับสัดส่วนน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเห็น หรืออยากให้เกิดในช่วงปลายปี
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Thanong FanClub