เมื่อเมกาสารภาพทางอ้อมว่ารู้เห็นเป็นใจให้เคียฟส่งโดรนโจมตีฐานทัพอากาศของรัสเซีย แม้เสียหายไม่มากแต่เป็นการยืนยันชัดเจนว่า อเมริกาเข้าร่วมสงครามอย่างเป็นรูปธรรมแม้จะโกหกต่อหน้าสื่อนับครั้งไม่ถ้วนว่าไม่รู้ไม่เห็นด้วย
นอกจากส่งโดรนโจมตีเขตชั้นในของรัสเซีย ในแนวหน้ากองกำลังเคียฟได้ส่งจรวดประมาณ ๒๐ ลูกยิงโดยเครื่องยิงจรวดแกรด (Grad) หลายตัวที่เขตโวโรชิลอฟสกี้ (Voroshilovsky) ของโดเนตสค์ในเย็นวันศุกร์ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายคนมีทั้งผู้หญิงและเด็กด้วย
งานนี้ปูตินเลยจัดหนัก เช้ามืดวันนี้ยูเครนก็ได้ยินเสียงไซเรนกรีดร้องเตือนการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ ๘ ภูมิภาครวมทั้งเมืองหลวงเคียฟด้วย เพื่อเป็นการตอบโต้ยูเครนอย่างสมน้ำสมเนื้อ อาการตีสองหน้าของเมกาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อโลกอย่างต่อเนื่อง ปากบอกไม่อยากปะทะกับรัสเซียแต่ส่งอาวุธและใช้ระบบดาวเทียมสหรัฐนำทางให้ถล่มลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย แก๊งตะวันตกใจมันคนละเบอร์จริงๆ กล้าทำแต่ไม่กล้ารับถนัดปั้นเรื่องเท็จลอบกัด แต่สงครามโลกครั้งที่สองใครก็คงจำได้ว่า คนที่ใช้นิวเคลียร์แม้ญี่ปุ่นมีท่าทียอมแพ้แล้วก็คือสหรัฐฯนักฉวยโอกาสที่แท้จริง
วันที่ ๑๒ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า มีการประกาศเตือนภัยการโจมตีทางอากาศในกรุงเคียฟและในหลายภูมิภาคของยูเครนและอีกหลายภูมิภาคทั่วประเทศในช่วงเช้ามืดของวันนี้
เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นในเคียฟเมืองหลวงของประเทศ เช่นเดียวกับใน ภูมิภาคเชอร์คัสค์ วินนิตซา คิโรโวกราด นิโคลาเยฟ ซิโตเมียร์ โอเดสซา และคาร์คอฟ
พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหม รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “กองกำลังติดอาวุธของรัสเซียกำจัดเป้าหมายทางทหารของยูเครนกว่า ๒๖๐ เป้าหมายในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมาในปฏิบัติการพิเศษในยูเครน “เครื่องบินปฏิบัติการ-ยุทธวิธี ขีปนาวุธ และกองทหารปืนใหญ่โจมตีหน่วยปืนใหญ่ ๘๖ หน่วยที่ตำแหน่งยิง เช่นเดียวกับกำลังพลและยุทโธปกรณ์ใน ๑๗๗ เมืองของยูเครน”
เครื่องบินรบของรัสเซียทำลายระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานบัค-เอ็มวัน(Buk-M1) ของยูเครนใกล้กับครามาตอฟ (Kramatorsk)
บัุค-เอ็มวัน เป็นระบบที่สร้างในสมัยสหภาพโซเวียต สามารถโจมตีเป้าหมายได้ในระยะตั้งแต่ ๓กม. ถึง ๔๕ กม. ที่ระดับความสูง ๒๕ เมตรถึง ๒๒ กม. และเร่งความเร็วได้ถึง ๑,๒๐๐ ม./วินาที ซึ่งรัสเซียรู้จักกลไกดีสามารถทำลายได้ทุกครั้งที่ยูเครนนำมาใช้ในสนามรบ
นอกจากนี้โฆษกกลาโหมได้รายงาน ผลงานกองกำลังพันธมิตรรัสเซียและดอนบาสรุกคืบตามเส้นการสู้รบประสบชัยชนะ
รักษาการหัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ เดนิส ปูชิลิน กล่าวยืนยันว่า ““เราเห็นหน่วยของกองกำลังพันธมิตรของเรา รุกคืบไปตามแนวการสู้รบทั้งหมด ที่อยู่อาศัยกว่า ๓๐๐ แห่งในสาธารณรัฐได้รับการปลดปล่อยจากกองทัพยูเครนแล้ว”
ด้านการต่อสู้ทางการทูต รัสเซียไม่ปล่อยมือ ให้ข้อมูลกับยูเอ็น ไม่ว่ายูเอ็นจะทำเฉยชาขนาดไหนเพื่อให้ข่าวสารถึงหูชาวโลกต่อเนื่อง
รองผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ ดมิทรี โปลยันสกี้(Dmitry Polyanskiy) กล่าวระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “ประเทศในกลุ่มตะวันตกไม่สามารถตำหนิรัสเซียสำหรับการบาดเจ็บล้มตายที่เกิดจากยูเครนอันเป็นผลมาจากอาวุธที่จัดหาโดยตะวันตก คุณจะโทษรัสเซียไม่ได้” “ยูเครนสังหารผู้คนใน Donbass ตั้งแต่ปี ๒๐๑๔ โดยใช้อาวุธที่จัดหาโดยตะวันตก”
ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ ภารกิจของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) ที่ศูนย์ร่วมเพื่อควบคุมและประสานงานในระบอบการหยุดยิงรายงานว่า “กองทหารยูเครนได้ระดมยิงถล่ม ๒ เขตในเมืองโดเนตสค์ด้วยกระสุนปืนใหญ่ ๑๕๕ มม.และระดมยิงใส่หมู่บ้านฮอลมิฟสกี้ (Holmivskyi) ในภูมิภาคโดเนตสค์ในคืนวันศุกร์”
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า “สหรัฐฯ วางแผนที่จะ “เติมเชื้อเพลิง” ความขัดแย้งในยูเครนต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี ๒๕๖๘ ซึ่งสามารถสรุปได้จากเอกสารอย่างเป็นทางการว่าวอชิงตันซึ่งเป็นผู้เปิดเผยเองอย่างโจ่งแจ้ง แต่รัสเซียจะยอมให้ยืดเยื้อนานขนาดนั้นหรือไม่ต้องติดตาม
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดตัวปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหรัฐฯและตะวันตกได้ให้การสนับสนุนยูเครนเต็มที่ ทั้งการทหาร และการเงินเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ รัสเซียประณามการส่งอาวุธไปยังยูเครนจากตะวันตกโดยรวม และเตือนว่าอาวุธที่ส่งไปยูเครนจึงเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องชอบธรรมที่รัสเซียจะทำลายให้สิ้นซาก!!!
