ฮือฮากับ FoxNews คู่ปรับของเดโมแครต ที่ผู้ประกาศข่าวชื่อดังออกมาแฉปธน.เซเลนสกี้ว่ากำลังขยับความขัดแย้งไปถึงศาสนจักร และซัดแบบไม่อ้อมค้อมเลยว่า “เคียฟเป็นเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตยอะไรทั้งนั้น พร้อมตั้งคำถามกลับไปหารัฐบาลและคนอเมริกันอีกว่า “ทำไมไม่มีใครในอเมริกาสนใจว่า Zelensky กำลังทำอะไรกับคริสตจักรออร์โธดอกซ์ในยูเครน ทำไมทุกคนถึงไม่สนใจความจริงที่ว่านักบวชถูกจับกุมและส่งไปยังคุกใต้ดินของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ SBU โดยไม่มีการพิจารณาคดีหรือตั้งข้อหาใดๆ”
“ทัคเกอร์ คาร์ลสัน” ยังกล่าวต่ออีกว่า “ในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งในยูเครน ทางการสหรัฐฯหลายแห่งเปรียบเทียบเซเลนสกีเท่ากับ จอร์จ วอชิงตัน” “พวกเขาเล่าให้เราฟังเดือนแล้วเดือนเล่าเป็นเสียงเดียวกัน และไม่น่าแปลกใจที่คนอเมริกันตกหลุมรักเขา และมันได้ผลนะ แต่หลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งปี สถานการณ์มันเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆที่จะทำให้ใครๆจะยังเชื่อเช่นนั้นอยู่ เป็นที่ชัดเจนว่า เซเลนสกี้ไม่ได้สนใจเสรีภาพและประชาธิปไตย เขาเป็นเผด็จการ!
เขาเป็นเผด็จการอันตรายที่ใช้เงินภาษีหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างรัฐตำรวจที่ปกครองโดยพรรคเดียวในยูเครน แล้วทำไมรัฐบาลอเมริกันจึงสนับสนุนรัฐเผด็จการ???
คาร์สันยังแฉในรายการของเขาอีกว่า เซเลนสกี้ทำลายฝ่ายค้านของยูเครนได้อย่างไร ขับไล่ตำรวจลับของเขาไปที่โบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีซึ่งเขาไม่ชอบ เพียงเพราะพวกเขาถูกกล่าวหาว่าไม่สนับสนุนนโยบายของเขาอย่างเต็มที่ และยังปิดสื่อฝ่ายค้านทั้งหมดที่สนับสนุนมุมมองของเขาอย่างไรอีกด้วย การวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้ของคาร์สัน สวนทางนิตยสารดังของตะวันตกอวยเซเลนสกี้ว่าเป็นวีระบุรุษอย่างสิ้นเชิง
วันที่ ๑๑ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า SBU หน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศของยูเครน ได้ทำการจู่โจมหลายครั้งโดยมุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปฏิบัติการดังกล่าวครอบคลุม ๓ ภูมิภาคของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามคริสตจักรออร์ทอดอกซ์ยูเครน (UOC) จากกิจกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าฝักใฝ่รัสเซีย UOC เป็นกลุ่มทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน
หน่วยข่าวกรองSBUระบุว่า มีการค้นหาสถานที่ทางศาสนาประมาณ ๑๓ แห่ง รวมถึงอาราม วิหาร และห้องสมุด การบุกค้นมีความจำเป็นเพื่อ“ป้องกันการใช้ชุมชนทางศาสนาเป็นศูนย์กลางของ ‘โลกรัสเซีย’ และเพื่อปกป้องประชากรจากการยั่วยุและการกระทำของผู้ก่อการร้าย”พร้อมเสริมว่ากิจกรรมทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมาย
SBU ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามีการพบหลักฐานปรักปรำใดระหว่างการบุกค้นหรือการจับกุมใดๆ หรือไม่
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา SBU ได้กำหนดเป้าหมายไซต์ UOC ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงเคียฟ เปเชอร์สค์ ลาฟรา (Kiev Pechersk Lavra) ซึ่งเป็นอารามคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ การรณรงค์ต่อต้านคริสตจักรดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากปธน.เซเลนสกี ซึ่งประกาศมาตรการใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ต้องการคว่ำบาตรสถาบันทางศาสนาที่ถือว่ามีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย
จากสงครามสู้รบในพื้นที่ เคียฟกำลังฉุดลากให้ความขัดแย้งลงรากลึก เป็นเรื่องศาสนาที่แม้แต่สหรัฐหรือพันธมิตรในยุโรปยังไม่กล้าแตะ รัสเซียยังสงวนท่าทีแต่เกาะติดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
หันมาดูลีลาพรรคคู่แข่งของเดโมแครต ส.ว.พรรครีพับลิกันอาวุโสที่ดูแลกิจการต่างประเทศได้เรียกร้องข้อมูลโดยละเอียดจากสำนักงานความรับผิดชอบของรัฐบาล (GAO) เกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านความมั่นคงของวอชิงตันแก่เคียฟ ท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียในยูเครน และขอให้วุฒิสภาตรวจสอบย้อนหลังด้วย
ในจดหมายที่ส่งถึง GAO เมื่อวันพฤหัสบดี คณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้นำพรรครีพับลิกันไมเคิล แมคคอลและวุฒิสมาชิกจิม ริสช์ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา เขียนว่าพวกเขาต้องการข้อมูลว่าฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ จัดสรรให้ยูเครนและเบิกจ่ายผ่านองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
ฝ่ายนิติบัญญัติเน้นย้ำถึงความจำเป็นของ USAID และกระทรวงการต่างประเทศที่ยังคง “ทำงานด้วยความเร่งรีบในการใช้เงินเหล่านี้เพื่อตอบสนองความต้องการอันเลวร้ายของประชาชนยูเครน”
“ในการทำเช่นนั้น หน่วยงานต่างๆ จะต้องประสานงานกับชุมชนผู้บริจาคระหว่างประเทศ รัฐบาลพันธมิตรและพันธมิตร รัฐบาลยูเครน และองค์กรท้องถิ่นของยูเครน เพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือของสหรัฐฯ จะไม่ซ้ำซ้อนกับความพยายามอื่นๆ แต่เป็นการกำหนดเป้าหมายที่ดี ที่ซึ่งมีความจำเป็นมากที่สุด” ตามจดหมาย
ขณะที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยังคงขัดแย้งกันเรื่องความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ต่อยูเครน โดยมติเกี่ยวกับการตรวจสอบเต็มรูปแบบของการสนับสนุนกรุงเคียฟของวอชิงตัน โดยคณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรที่นำโดยพรรคเดโมแครตเมื่อวันพุธยังไม่มีข้อสรุป
ตั้งแต่ต้นปี สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารมูลค่ากว่า ๔๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์แก่เคียฟ แม้มอสโกว์เตือนหลายครั้งว่าการจัดหาอาวุธให้เคียฟ จะยิ่งทำให้ความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และยูเครนจะสูญเสียมากขึ้น นอกจากนี้รัสเซียยังมองออกว่าสหรัฐและพวกใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามลูกผสมกับรัสเซีย และจะไม่ยอมให้ยุติโดยง่าย!!!