เมกาสะท้าน!? ปูตินย้ำพันธมิตรแกร่ง สหภาพยูเรเซียน-BRICS ขยายบึ้ม อียิปต์อาหรับแห่หนุนโลกหลายขั้ว

0

ในระหว่างการสู้รบดุเดือดในสนามรบยูเครนที่กองทัพรัสเซียเดินหน้ารุกคืบผลักดันกองกำลังเคียฟ-นาโต้ออกจากจุดยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง  ปธน.ปูตินได้เดินทางไปคีร์กีซสถานเพื่อพบปะกระชับพันธมิตรสหภาพยูเรเซียนหรือ EAEU ลงนามร่วมมือทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคง ๑๕ ฉบับ กลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญที่เหนียวแน่นเคียงข้างรัสเซียมาโดยตลอด

นอกจากนี้รัสเซียมองว่าการเติบโตของกลุ่ม BRICS เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประเทศต่างๆที่อยู่นอกยุโรปในการพัฒนาจังหวะก้าวใหม่ของโลกหลายขั้ว  ในขณะที่ยุโรปเปราะบางเผชิญปัญหารอบทิศ เพราะเดินตามวอชิงตันมากเกินไป และเปิดเผยว่าจำนวนสมาชิก BRICS ล่าสุดอาจเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าจากใบสมัครที่เพิ่มเข้ามา ทั้งจากกลุ่มอ่าวอาหรับ อียิปต์และเอเชีย  ท่ามกลางประเด็นร้อนที่รัสเซียและสหรัฐฯ อาจใกล้จะเกิดวิกฤตขีปนาวุธยูโรครั้งใหม่ซ้ำรอยอดีต 

วันที่ ๑๑ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า ในงานพรีมาคอฟ รีดดิ้งส์ (Primakov Readings) ในมอสโกว์ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เน้นย้ำว่าสภาพแวดล้อมทางการเมืองในปัจจุบันของสหภาพยุโรป หรืออียู กำลังสร้างความอัปยศอดสูให้กับประเทศต่างๆ ในยุโรป สำหรับนโยบายของกลุ่มตะวันตก รัสเซียไม่สนใจที่จะมีส่วนร่วมด้วยอีกต่อไป องค์กรต่างๆ เช่น BRICS กำลังกลายเป็นทางเลือกประเทศต่างๆ ท่ามกลางความอ่อนแอของสหภาพยุโรป 

ลาฟรอฟกล่าวว่า “เรามีพันธมิตรที่แท้จริงได้แก่ BRICS, SCO, EAEU และ CSTO โดยไม่ต้องคำนึงว่าตะวันตกจะวาดภาพกลุ่มเหล่านี้ว่าอย่างไร” เขากล่าวว่า โครงสร้าง RIC ซึ่งหมายถึง รัสเซีย อินเดีย จีนเป็นความคิดริเริ่มของพรีมาคอฟ (Primakov) ได้ก่อกำเนิดกลุ่ม BRICS ที่มีสมาชิก ๕ ประเทศในวันนี้ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมากหลายรัฐ ซึ่งสมัครและพร้อมเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ มั่นใจว่าจาก ๕ ประเทศสามารถขยายไปยังประเทศต่างๆได้อีก ๑๕-๑๗ ประเทศ

ลาฟรอฟย้ำว่า “โครงสร้างระหว่างประเทศของกลุ่มBRICSนี้ เป็นต้นแบบของการทูตแบบพหุภาคีที่แท้จริงซึ่งสอดคล้องกับความเป็นจริงในศตวรรษที่ ๒๑”

การให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับรัฐที่ไม่ใช่ประเทศตะวันตก ดูเหมือนจะมีการรับประกันมากยิ่งขึ้น เมื่อคำนึงถึงปัญหาในปัจจุบันของยุโรป รัฐมนตรีเน้นย้ำถึงนโยบายที่ไม่ยุติธรรมของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดคือสมาชิกสหภาพยุโรปที่กระทำต่อรัสเซีย

อเล็กซานเดอร์ คัมคิน นักวิจัยอาวุโสของสำนักวิจัย IMEMO ระบุว่า เบอร์ลินและปารีสไม่มีอำนาจปกครองตนเองโดยสมบูรณ์ในการเมืองระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงจงใจยกหน้าที่ด้านนโยบายต่างประเทศบางส่วนให้แก่วอชิงตันไปโดยอัตโนมัติ ผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่าประเทศในยุโรปสามารถริเริ่มได้ในบางสถานการณ์ แต่โดยรวมแล้วพวกเขาเดินตามผู้นำของวอชิงตัน

อังเดร คอร์ตูนอฟ(Andrey Kortunov) ผู้อำนวยการทั่วไปของสภากิจการระหว่างประเทศของรัสเซียกล่าวว่า BRICS สามารถจัดหาเส้นทางความร่วมมือทางเลือกให้กับประเทศต่างๆ ไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเกณฑ์การรับเข้าร่วมเป็นสมาชิกสูง ขณะนี้กลุ่มกำลังพัฒนาไปตามสองช่องทาง โดยการรับสมาชิกใหม่และโดยการเสริมสร้างความร่วมมือ ในกรณีที่สอง แม้ว่าประเทศเพิ่มเติมจะไม่ได้รับการยอมรับให้เข้าร่วม BRICS แต่พันธมิตรของแต่ละองค์กรจะสามารถเลือกรูปแบบความร่วมมือที่สะดวกมากขึ้นภายในโครงสร้างบริกส์พลัส (BRICS+) 

คอร์ตูนอฟตั้งข้อสังเกตว่า สหภาพยุโรปไม่เต็มใจที่จะแสวงหาความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์จากสหรัฐฯ ไม่เพียงเพราะวิกฤตยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการก้าวขึ้นมาผงาดของจีนด้วย จึงตอบรับข้อเรียกร้องของวอชิงตันให้พันไปบีบคั้นจีนมากขึ้น

ล่าสุดในงานเจอพันธมิตรของปธน.ปูติน ผู้นำรัสเซียแสดงความมั่นใจในความต่อเนื่องของความร่วมมือที่ใกล้ชิดและสร้างสรรค์ระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยูเรเซียน (EAEU) ซึ่งรัสเซียจะดำรงตำแหน่งประธานสหภาพในปีหน้า และก่อนปีใหม่จะจัดการประชุมสุดยอด CIS อย่างไม่เป็นทางการที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีกด้วย

การประชุมสุดยอดสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียเริ่มขึ้นที่เมืองบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถานโดยปธน.ซาเดร์ จาปารอฟ (Sadyr Japarov) ซึ่งเป็นเจ้าภาพของงาน กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “การบูรณาการทั่วทั้งภูมิภาคเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับความร่วมมือในอนาคต ความมุ่งมั่นร่วมกันของเราที่มีต่อการรวมเอเชียเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือภายในสหภาพ เพื่อสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเอเชียกับตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลกอื่นๆ”

ผู้นำรัสเซีย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน และคีร์กีซสถานพบกันในวันศุกร์ที่ผ่านมาในการประชุมสุดยอดสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU)

บรรดาผู้นำรวมทั้งปธน.ปูตินรวมตัวกันที่บ้านพักแห่งรัฐ Ala Archa (‘Striped juniper’) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Chong-Aryk ติดกับเมืองบิชเคก ในจุดที่สวยงามบริเวณเชิงเขา Ala-Too

บรรดาผู้นำหารือเกี่ยวกับการร่วมมือเกี่ยวกับการดูแลตลาดก๊าซร่วมกันและการสร้างสภาระหว่างหน่วยงานในภาคพลังงาน การบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นภายใน EAEC และการพัฒนาตลาดบริการเดียว มีการวางแผนว่าการประชุมสุดยอดจะอนุมัติชุดเอกสารรวมถึงทิศทางหลักของกิจกรรมระหว่างประเทศของสหภาพในปี ๒๕๖๖

หลังเสร็จสิ้นการประชุม ประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union – EEU) ได้ลงนามในเอกสาร ๑๕ ฉบับ ซี่งผู้เข้าร่วมลงนามประกอบด้วย ปธน.ปูตินของรัสเซีย นายกรัฐมนตรีนิโคล ปาชินยัน (Nikol Pashinyan) ของอาร์เมเนีย ปธน.อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก (Aleksandr Lukashenko) ของเบลารุส ประธานาธิบดีคัสซิม โจมาร์ต โตคาเยฟ (Kassym-Jomart Tokayev) ของคาซัคสถาน ปธน.ซาเดร์ จาปารอฟ (Sadyr Japarov) ของคีร์กีซสถาน และมิคาอิล เมียสนิโควิช (Mikhail Myasnikovich) ประธานคณะกรรมการ Eurasian Economic Commission ซึ่งได้เข้าร่วมในการเจรจาในการประชุมครั้งนี้