เซอร์ไพรซ์แต่ไม่เกินคาด เมื่ออดีตนายกฯเยอรมนีเปิดปากยอมรับว่าสนธิสัญญามินส์แค่แผนถ่วงเวลาเตรียมยูเครนรบรัสเซีย ปูตินเลยถึงบางอ้อ แฉเมกา-ยุโรปว่ามีแผนเตรียมทำลายรัสเซียมานาน เขามองว่าคำพูดของอดีตผู้นำเยอรมันสร้างความชอบธรรมให้กับการตัดสินใจเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารมอสโกว์ในยูเครน
ในการให้สัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารเซอิต (Zeit) ของเยอรมนีเมื่อวันพุธ แมร์เคิลกล่าวว่าข้อตกลงมินสค์เป็นความพยายามที่จะ “ให้เวลายูเครน” ในการสร้างแนวป้องกันทางทหาร สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ รัสเซียวิเคราะห์ว่าแผนสันติภาพมินสค์เป็นความเจ้าเล่ห์ของยูเครนที่ต้องการถ่วงเวลาติดอาวุธและเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามกับรัสเซียเท่านั้น วันนี้ปูตินจึงรู้ว่าไม่ใช่แค่ยูเครน แต่ทั้งเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ร่วมลงนามสันติภาพตั้งใจหลอกรัสเซียและชาวดอนบาสมาโดยตลอด
ปูตินบอกกับนักข่าวในเมืองบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถานเพื่อเปิดประชุมพันธมิตรว่า “พูดตามตรง นี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงสำหรับฉัน มันน่าผิดหวัง ตรงไปตรงมา ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากอดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี” “ผมคิดมาตลอดว่าผู้นำของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีจะประพฤติตนอย่างจริงใจต่อเรา”
แม้เขาจะรู้สึกผิดหวังกับคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนแต่ไม่เสียใจเพราะเป็นการตอกย้ำการตัดสินใจของปูตินว่าถูกต้อง แค่สะท้อนความจริงและสงครามว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ศึกยูเครนจึงยังอีกยาวดังที่ปูตินกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ล่าสุดสถานการณ์การขับเคี่ยวในแนวหน้า รัสเซียยังคงได้เปรียบอย่างเด่นชัด กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่ากองทัพอากาศรัสเซียได้ทำลายระบบปล่อยหลายระบบ MLRS และ HIMARS ๗ ระบบในวันเดียว เรียกว่าทำเมกาและพวกอึ้งพิสูจน์แล้วว่า อาวุธรัสเซียเหนือกว่าจริง พร้อมทั้งผลการสู้รบเพียงวันเดียวที่โดเนตสค์ ทหารยูเครนถูกปลิดชีพสูญเสียกว่า ๒๑๐ นาย รวมทั้งทหารรับจ้างจากโปแลนด์ ๙๐ นาย ไม่นับเขตอื่นๆ
วันที่ ๑๐ ธ.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานการปฏิบัติงานของกองทัพในรอบสัปดาห์ เฉพาะวันที่ ๘ ธ.ค.ได้ทำลายเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงจำนวนหนึ่งด้วย การโจมตีที่ “แม่นยำสูง”ในยูเครน รวมถึงการปลิดชีพ “ ทหารรับจ้างชาวโปแลนด์”และทหารเคียฟจำนวนมากในวันเดียว
ที่แคว้นคาร์คิฟ กองกำลังรั Russian Aerospace Forces ทำการโจมตีด้วยอาวุธความแม่นยำสูง ที่ เมืองบอริฟสกี (Borivske)อยู่ห่างจากสวาโตฟ-ลูฮานส์ ๘๔ กม. ได้ปลิดชีพทหารรับจ้างโปแลนด์ มากกว่า ๙๐ คน
ในวันเดียวกันนี้ที่ซาปอริซเซีน กองกำลังรัสเซียได้ทำลายเครื่องยิง M270 MLRS และ MARS II ที่ผลิตในเยอรมนี ของยูเครน จำนวน๕ ระบบ ; เครื่องยิงจรวด M142 HIMARS ที่ผลิตในสหรัฐฯ จำนวน ๒ ระบบ ที่ เมืองโอเซิร์น (Ozerne) หรือ อิลลิชีฟกา(Illichivka) พื้นที่บัคมุทในภูมิภาคโดเนตสค์
เมืองลิมาน โดยการโจมตีทางอากาศของกองทัพรัสเซีย ยิงด้วยปืนใหญ่ ภายใน ๑ วัน ทำลายทหารยูเครน ๖๐ นาย ยานรบทหารราบ (IFV) ๓ คัน รถเกราะของยูเครน ๒ คัน
ที่เมืองคูเปี้ยนส์(Kupyansk) การยิงปืนใหญ่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารยูเครนกว่า ๗๐ นาย IFV ๒ คัน และยานพาหนะ๓ คัน ถูกทำลายเรียบ
เขตสู้รบอื่นๆในโดเนตสค์ จากการตอบโต้ของหน่วยทหารรัสเซีย ต่อกองกำลังยูเครนที่บุกเข้ามา ทหารยูเครนมากกว่า ๕๐ นาย รถหุ้มเกราะ ๓ คัน และ รถกระบะ ๒ คัน ถูกทำลาย ส่วนทางใต้ของโดเนตสค์ กองทหารรัสเซียยิงสวนหน่วยจู่โจมของยูเครนด้วยปืนใหญ่ ทหารยูเครนกว่า ๓๐ นาย IFV ๑ คัน รถเกราะลำเลียงพล และยานเกราะ ๒ คัน ถูกทำลายหมด
จะเห็นว่าการสู้รบในแนวหน้าของโดเนตสค์และลูฮันสค์กำลังเป็นไปอย่างเข้มข้น ทางเคียฟ-นาโต้ให้ระดมกำลังบุกสองภูมิภาคอย่างต่อเนื่องแต่ต้องล่าถอยสูญเสียทหารและอาวุธจำนวนมากตามรายงานเพียงวันที่ ๘ ธ.ค.วันเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางรัสเซียพบว่า โดรนที่โจมตีลานบินของรัสเซียได้รับการนำทางโดยระบบ GPS ของสหรัฐฯ
วาซิลี เนเบนเซีย (Vasily Nebenzya) ผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำ UN กล่าวในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงในยูเครนเมื่อวันศุกร์ว่า “โดรน Tu-141 Strizh ของโซเวียตที่ได้รับการอัพเกรดนั้นได้รับการนำทางโดยระบบดาวเทียมทั่วโลก GPS ของอเมริกา”
ปรากฎการณ์ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่า สหรัฐฯมีความพยายามสร้างความสับสนต่อสาธารณชนและโลกว่า สงครามยูเครนน่าจะมีทางสงบศึกได้ ซึ่งความจริงแล้วตรงข้าม เพราะการสู้รบในแนวหน้าของรัสเซียที่กองกำลังผสมเคียฟ-นาโต้เริ่มรุกเข้าดินแดนชั้นในด้วยอาวุธของตะวันตก และก่อวินาศกรรมอย่างต่อเนื่อง สหรัฐและตะวันตกตั้งใจทำลายรัสเซียมาเนิ่นนาน แต่การตัดสินใจของปูตินเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน ได้ทำลายแผนระยะยาว ทำให้ปรับไม่ทันและเพลี่ยงพล้ำอย่าที่เป็นอยู่ สหรัฐฯยังคงหวังว่าสงครามยิ่งยืดเยื้อรัสเซียจะยิ่งพ่ายแพ้อ่อนแรง แต่ดูรอยยิ้มของปูตินล่าสุดก็รู้แล้วว่า รัสเซียกำลังเหนือกว่าทั้งการทหารและเศรษฐกิจ พร้อมกระชับพันธมิตรได้อย่างกว้างขวางทั้งในยูเรเซีย อาฟริกาและตะวันออก ด้านสหรัฐและยุโรปกำลังเจอกับเศรษฐกิจดิ่งเหว การเมืองเละเทะแตกกันยับ!!??