เซเลนสกีถึงคราวซวย! รีพับลิกัน ส่อหั่นงบกลาโหมสหรัฐเหี้ยน ตัดทางช่วยเหลือยูเครน! อ้างมั่ว ทำเมกาเงินเฟ้อ
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 สหรัฐประกาศว่า จะให้เงินก้อนใหม่ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือยูเครน ซึ่งรวมถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาไฟฟ้าดับ ที่มีสาเหตุมาจากการโจมตีโครงสร้างด้านพลังงานของรัสเซีย
พลจัตวาแพท ไรเดอร์ เลขานุการด้านสื่อกระทรวงกลาโหม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เครื่องกำเนิดไฟฟ้าอีกกว่า 200 เครื่อง จะใช้สนับสนุนทั้งความจำเป็นด้านไฟฟ้าของพลเรือนและทหาร เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ยากลำบากจากโครงข่ายพลังงานที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตี
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวรวมถึง อาวุธยุทธภัณฑ์สำหรับระบบป้องกันทางอากาศล้ำสมัย “นาแซมส์” และเครื่องปล่อยจรวดที่มีความแม่นยำ “ไฮมาร์ส” ปืนกลหนักต่อต้านโดรนรัสเซีย และกระสุนอาวุธขนาดเล็กอีกกว่า 20 ล้านลูก
ต่อมาทางด้าน Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงความคืบหน้าดังกล่าว โดยบอกว่า ช่วงนี้สื่อตะวันตกมาแปลกรายงานเจาะลึกที่เกี่ยวกับสงครามในยูเครนอยู่ 2 ประเด็น คือ ความสูญเสียอย่างหนักของกองทัพยูเครนในสนามรบภาคกลาง และคลังแสงอาวุธสหรัฐฯ หมด
พ.ย.2022 สื่อ CNN ระบุว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาวิกฤติคลังแสงอาวุธที่ลดน้อยลงและความสามารถในการขายเงินกู้อาวุธให้ยูเครน เพราะมีสต็อคอาวุธร่อยหรอไม่สามารถจัดส่งไปขายยูเครนได้เหมือนช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่สุดคือคลังกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. , ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Stinger , ขีปนาวุธ HARM , ขีปนาวุธพื้นผิวสู่พื้นผิว GMLRS และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Javelin , ปืนใหญ่ M777 howitzer
อีกหนึ่งปัญหาคือ ออร์เดอร์อาวุธจากชาติยุโรปมากล้นมือ จนไม่สามารถผลิตทันไปเติมคลังกลาโหมที่พร่องลงได้เต็มจำนวน เพื่อทดแทน ยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ส่งไปขายให้ยูเครน ต.ค.2022 ก่อนเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ รัฐบาล เสนอกฎหมายขอให้สภาคองเกรสอนุมัติเงินกู้ค่าอาวุธเพิ่มเติมให้ยูเครนมูลค่า 37,700 ล้านดอลลาร์ รวมยอดลูกหนี้ค่าอาวุธยูเครนทั้งหมดของเจ้าหนี้สหรัฐฯ มีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ (3.5 ล้านล้านบาท) แค่ไม่ถึงปี
ล่าสุดเอาอีกแล้ว สื่อ Politico เจ้าเก่าที่เจาะลึกเข้าถึงข้อมูลทางการเมืองรายงานรัวๆ ว่า กลาโหมสหรัฐฯ เสนอร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ ขอเงินซื้ออาวุธมาขายยูเครนเพิ่มอีกในงบประมาณปีหน้า 2023 แต่ดูเหมือนจะเจอก้างขวางคอชิ้นใหญ่คือ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านรีพลับริกัน ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งครองเสียงข้างมากในสภาที่ต้องการตัดงบประมาณกลาโหมลง 29,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.7%
ภายในวันที่ 16 ธ.ค.2022 คือเส้นตายวันสุดท้ายที่สภาคองเกรสสหรัฐฯ จะอนุมัติร่างกฎหมายการใช้จ่ายระหว่างกาล (CR) ถ้าพรรคฝ่ายค้านยืนยันต้องตัดงบกลาโหมประจำปีหน้าลดลง ส่งผลให้ในต้นปีหน้ากลาโหมสหรัฐ จะหมดเงินงบประมาณ และต้องยุติให้ยูเครนกู้ยืมซื้ออาวุธในการทำสงครามกับรัสเซีย กลาโหมยอมรับว่าช่วงต้นปีหน้าคงประสบปัญหาในการส่งอาวุธใหม่ๆ ไปขายเงินกู้ให้ยูเครน
หากยูเครน กระสุนและอาวุธหมด ก็จะเสียเปรียบในสงครามมาก แต่ทางกลาโหมอ้างเหตุผลพิลึกขู่สภาคองเกรสว่า “การลดงบประมาณด้านกลาโหมจะส่งผลร้ายต่อสหรัฐฯ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง” เพราะปีนี้สหรัฐฯ มีอัตราเงินเฟ้อสูง และปีหน้า 2024 คาดเดาไม่ได้ ต้นทุนค่าอาวุธจึงมีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อนำไปขายให้ยูเครนกู้จะได้กำไรน้อยลง
สรุป..สหรัฐฯ ถังแตกคลังอาวุธร่อยหรอ ต้องขอเงินสภาปีหน้าเยอะๆ เผื่ออัตราเงินเฟ้อ ถ้าสภาตัดงบจะทำให้ไม่มีเงินซื้ออาวุธมาเพิ่ม ขายไปก็ไม่มีกำไรมากพอ ไม่คุ้มค่าจะลงทุนสงครามในยูเครนต่อไป อีกทั้งหนี้ยูเครนต่อสหรัฐฯ และแหล่งเงินกู้ยุโรป เลยเพดานกู้ไปมากแล้ว การลงทุนสงครามต่อไปมีความเสี่ยงจะเป็นหนี้สูญ ตลาดอาวุธในยูเครนจึงใกล้วายแล้ว ยุโรป และสหรัฐฯ จึงแบะท่าขอเจรจารัสเซียเพื่อตั้งหลักผลิตอาวุธใหม่สักพัก
พ่อค้าอาวุธจากสหรัฐฯ ยุโรป ขายอาวุธกันดีมากโล๊ะสต็อคเก่าจนหมดคลังแสง จึงจะเก็บร้านม้วนเสื่อ แยกย้ายกลับบ้าน ระยะถัดไปก็เป็นการทวงหนี้ ถ้าไม่จ่ายก็ต้องตัดดินแดนค้ำประกันหนี้ยูเครน มาชดใ้ช้หนี้แตกเป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง ธุรกิจอุตสาหกรรมสงครามก็จะจบแบบนี้ทุกครั้ง ลูกหนี้ยูเครน ต้องทำใจชดใช้เงินให้เจ้าหนี้โอนไวไปอีกหลายร้อยปีพร้อมเสียดินแดน เพราะของฟรีไม่มีในโลก