จากกรณีที่เคยมีรายงานว่า ได้เกิดเหตุโจรกรรมร้านค้าในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 18% ในช่วง 1 ปี จนถึงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ผลักดันราคาสินค้าต่าง ๆ ให้ขยับตัว ตั้งแต่ขนมปัง ไปจนถึงพาสต้า ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนมากซื้อสินค้าพื้นฐานได้ยากมากขึ้น
โดยการโจรกรรมอาจขยายวงกว้างมากกว่าเดิมเช่นกัน ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกหลายคนระมัดระวังการขโมยของในร้านค้า และเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น แม้จะเป็นกับสินค้าทั่วไปอย่างเนย, ชีส, ผงซักฟอก หรือโปรตีนบาร์ก็ตาม ทั้งนี้ บริษัทเทสโก้ และบริษัทเจเซนส์บูรีส์ อยู่ในกลุ่มผู้ค้าปลีกมากกว่า 100 รายที่เรียกร้องให้ตำรวจสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับอาชญากรรมการค้าปลีก เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากค่าครองชีพส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อเป็นอย่างมาก
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้รายงานถึงสถานการณ์ในอังกฤษ ที่กำลังถดถอยลงไปทุกที ๆ เมื่อประชาชนต้องปรับตัว หันมากินอาหารของสัตว์เลี้ยง และอาจจะต้องใช้เทียนไขประกอบอาหาร โดยมีข้อความที่น่าสนใจ ดังนี้ อังกฤษ เจริญจัด! ค่าครองชีพสูง คนปรับตัวกินอาหารสัตว์เลี้ยง เทียนไขทำอาหาร ภายหลังรัฐบาลสหราชอาณาจักร เดินตามก้นสหรัฐฯ คว่ำบาตรพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย ผ่านมา 9 เดือน ผลปรากฎเศรษฐกิจเละ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คนพร้อมคณะรัฐมนตรีอีก 300 ตำแหน่ง (ครม.อังกฤษมี 100 ตำแหน่ง/ชุด) อัตราเงินเฟ้อทะยานอวกาศเป็น 11.1% เศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบ 41 ปี เกิดม็อบสหภาพแรงงานต่าง ๆ นัดหยุดงานประท้วงไม่เว้นแต่ละวัน เมืองใหญ่คราคร่ำไปด้วยม็อบเผาบิลค่าไฟฟ้าที่แพงจัดจนจ่ายไม่ไหว กลายเป็นฝันร้ายสำหรับคนนับล้าน
มีการคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออังกฤษแท้จริงคือ 13.8% ไปแล้วแต่เมื่อรัฐบาล เยียวยาบางส่วนจึงอยู่ที่ 11.1% ส่งผลให้ลักลั่นกับค่าครองชีพที่ทะยานโด่งลิ่วไปก่อน แต่นายกรัฐมนตรีริซซี ซูนัค แห่งอังกฤษ ก็ยังคงสานต่อนโยบายรัฐบาลชุดเดิม คือ คว่ำบาตรพลังงานราคาถูกรัสเซีย นำเข้าราคาแพงจากสหรัฐฯ และเป็นปฏิปักษ์จีน ประกาศว่าความสัมพันธ์ยุคทองระหว่างอังกฤษกับจีนได้จบลงแล้ว เนื่องจากจีนมีบทบาทสำคัญในเวทีโลกล้ำหน้าอังกฤษเกินไป อังกฤษ ยังคงยื้อความขัดแย้งสงครามในยูเครนต่อไป เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นผู้ให้เงินช่วยเหลือ (เงินกู้) ค่าอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของยูเครน รองจากสหรัฐฯ มูลค่า 2,300 ล้านปอนด์ (99,568 ล้านบาท)
ปัจจัยค่าพลังงานแพง ซ้ำเติมด้วยเงินคลังไหลออกติดหล่มสงครามที่ไม่รู้จะได้เงินคืนเมื่อใด ยิ่งซ้ำเติมให้เงินหมุนเวียนภายในชาติหดหายลงไปอีก สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ประเมินว่าครัวเรือนต้องจ่ายค่าเครื่องทำความร้อนและแสงสว่างสูงกว่าปีที่แล้วถึง 88.9% ภายในสิ้นปีนี้ จะมีค่าใช้จ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตเฉลี่ย 4,960 ปอนด์/ครอบครัว ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง 380 ปอนด์ โพลสำรวจความคิดเห็นระบุว่าชาวอังกฤษมากถึง 85% หรือเกือบทั้งประเทศ วิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในชีวิตความเป็นอยู่
ชาวอังกฤษทั่วประเทศต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในช่วงคริสต์มาสปีนี้ และมีการขาดแคลนไก่งวงและนกในฤดูหนาว อาหารค่ำวันคริสต์มาสกลายเป็นภาระที่น่าเป็นห่วงสำหรับครอบครัวชาวอังกฤษจำนวนมาก โพลระบุว่า 20% ของครอบครัวในอังกฤษ จะขอให้แขกมาบ้านช่วยจ่ายค่าอาหารค่ำวันคริสต์มาส วางแผนที่จะใช้จ่ายของขวัญในปีนี้น้อยลงมากกว่า 36.3% และไม่สามารถจ่ายเงินฟุ่มเฟือยได้เหมือนที่ผ่านมา 33%
เดือนที่ผ่านมา ราคาวัตถุดิบในครัวเรือน เช่น นม เนย ชีส เนื้อ และขนมปัง เพิ่มขึ้นสูงถึง 42% ชาวอังกฤษ จึงต้องพึ่งพาธนาคารอาหารบริจาคมากขึ้นกว่าเดิม ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแพง และอาหาร ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นสาเหตุหลักของภาระค่าครองชีพที่สูงเป็นประวัติการณ์ ชาวอังกฤษกำลังดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของเวลส์อย่างหนัก ชาวเวลล์บางส่วนไม่ได้รับค่าจ้างมากพอที่จะซื้อสิ่งจำเป็นต่างๆ ส่งผลให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพที่ไม่สามารถจ่ายไหว ต้องใช้ชีวิตมาตรฐานระดับต่ำสุดเพื่อเลี้ยงครอบครัว
ชุมชนที่ยากไร้มากที่สุด 6 แห่งของเวลส์อยู่ในเมืองคาร์ดิฟฟ์ ครอบครัวจำนวนมากขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ คือ “อาหาร” แต่ที่สุดอึ้งคือ นาย Mark Seed หัวหน้าโครงการอาหารชุมชนใน Trowbridge เมืองคาร์ดิฟฟ์ ยืนยันว่าชาวอังกฤษรายได้น้อยต้องเริ่ม “กินอาหารสัตว์เลี้ยง”เนื่องจากไม่สามารถซื้ออาหารสำหรับมนุษย์ได้อีกต่อไป ครัวเรือน รายได้น้อยต้องอุ่นอาหารบนหม้อน้ำ หรือเทียนไขแทนเตาแก๊สหรือไฟฟ้าเพื่อประหยัดเงิน เขาเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาดูแลความเป็นอยู่พลเมืองตนเองบ้าง สรุป..ชาวอังกฤษค่อนประเทศ 85% กำลังหนักอกกับปัญหาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่รัฐบาลอังกฤษขนเงินเกือบแสนล้านบาทไปให้ยูเครนกู้ซื้ออาวุธ ส่วนชาวอังกฤษเองต้องกินอาหารสัตว์เลี้ยง ยังไม่นับค่าใช้จ่ายดูแลผู้ลี้ภัยชาวยูเครนในสหราชอาณาจักรอีกหลายแสนคน ซึ่งต้องกินใช้ทุกวัน ส่งอาวุธให้ยูเครนต่อไป พลเมือง ลำบากแร้นแค้นยาวแน่นอน
