หลังจากที่รัสเซียมุ่งมั่น จะเดินเกมเผด็จศึกในช่วงหน้าหนาว อาศัยช่วงชิงจังหวะอ่อนแอที่ยูเครนกำลังเผชิญชะตากรรมลำบาก เพื่อจัดการทหารเคียฟให้หนักขึ้น ซึ่งตรงกับคำให้การของเซเลนสกี ที่เจ้าตัวเชื่อว่า รัสเซียจะกลับมาโจมตียูเครนอย่างหนักอีกครั้ง ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของนาโต้ ที่ไร้เรี่ยวแรงจะส่งอาวุธไปหนุนยูเครนเหมือนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดนาโต้จะยังทำหน้าที่ หนุนช่วยยูเครนเรื่องพลังงาน เพื่อให้สงครามยังดำเนินต่อไปได้
โดยมีรายงานว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต้ ) แถลงเมื่อวันอังคารที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ 30 ชาติสมาชิก เป็นเวลา 2 วัน ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยังคงไม่หยุดสั่งการให้กองทัพโจมตีโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคของยูเครน ยิ่งตอกย้ำเจตนาซ่อนเร้นของรัฐบาลมอสโก ในการใช้ “ความหนาวเย็น” เป็น “อาวุธสงคราม” ทั้งนี้สมาชิกนาโต้มีมติมอบความสนับสนุนให้แก่ยูเครน ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน และกล่าวถึงแนวคิดของการเพิ่มความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่รวมถึง การส่งมอบระบบขีปนาวุธแพทริออต ตามการเสนอแนะของโปแลนด์
อย่างไรก็ตาม สโตลเทนเบิร์กยอมรับว่า เรื่องนี้ “มีความท้าทายสูงมาก” เนื่องจากการใช้งาน การดูแลรักษาและการซ่อมบำรุง ต้องเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพทุกขั้นตอน อีกทั้ง การส่งมอบขีปนาวุธสำหรับระบบแพทริออต “เป็นงานใหญ่” และยกให้เป็น “การตัดสินใจ” ของเยอรมนี ร่วมกับสหรัฐ ส่วนทางด้านนายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า หากนาโต้มอบความสนับสนุนที่เป็นระบบแพทริออตให้แก่กองทัพยูเครนจริง “เท่ากับเป็นการทำให้ตัวเองเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรม” แต่ไม่ได้ขยายความว่า หมายถึง ระบบแพทริออต เจ้าหน้าที่ของนาโต้ หรือทหารยูเครน ซึ่งจะเป็นเป้าหมายที่ว่านั้น
ทั้งนี้น่าจับตามองความช่วยเหลือของนาโต้ ว่าหากไม่มีอาวุธมาให้ยูเครน แต่ช่วยเหลือด้านพลังงานแทนนั้น จะเป็นการยื้อสงครามให้ลากยาวออกไป แต่กลับเป็นความทรมานที่เพิ่มขึ้นของยูเครนหรือไม่ เพราะนอกจากต้องทนความหนาวเหน็บที่โหดร้ายแล้ว ยังไม่มีอาวุธมาจุนเจือในการรบด้วย