โลกฮือฮา กระแสข่าวอิหร่านสร้างขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกสำเร็จ และสามารถเล็ดลอดผ่านเกราะป้องกันขีปนาวุธของศัตรูได้ทุกระบบ ขีปนาวุธชนิดนี้มีความคล่องแคล่ว ยากที่จะติดตามและป้องกัน ต่างจากขีปนาวุธแบบทิ้งตัวทั่วไป ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกจะพุ่งในวิถีโคจรระดับต่ำในชั้นบรรยากาศ ทำให้พุ่งสู่เป้าหมายได้รวดเร็วกว่าเดิม
ในขณะที่สหรัฐฯอิสราเอลและพันธมิตรตะวันตก ต่างได้พัฒนาระบบป้องกันทางอากาศที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธแบบทิ้งตัว แต่ขีดความสามารถของพวกมันในการติดตามและสอยร่วงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกนั้นยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม และได้พิสูจน์บ้างแล้วว่าไร้ประสิทธิภาพในสนามรบยูเครน
ประเด็นนี้สหรัฐและพวกไม่เชื่อว่าอิหร่านทำได้จริง ปรามาสว่าอิหร่านชอบโม้โดยลืมไปว่า กองกำลังเคียฟ-นาโต้ที่สู้รบในสมรภูมิยูเครนพ่ายแพ้กับโดรนเชื้อสายอิหร่านจนวันนี้ยังต้านไม่อยู่
วันที่ ๒๙ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและซานาของอิหร่านรายงานว่า อามีร์ อาลี ฮาจิซาเดห์(Amir Ali Hajizadeh) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม(IRGC) ระบุว่า”อิหร่านมีขีปนาวุธอยู่ในคลังที่สามารถเจาะทะลวงกองกำลังป้องกันขีปนาวุธของศัตรูและปล่อยให้พวกเขาอยู่ในสภาพพังทลายได้เป็นเวลาหลายทศวรรษ”
เพนตากอนประเมินว่าอิหร่านมีขีปนาวุธและขีปนาวุธร่อนมากกว่า ๓,๐๐๐ ลูกในคลังแสง หลายลำมีพิสัยทำการไกลพอที่จะโจมตีอิสราเอลและสหรัฐ ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิหร่าน ในกรณีที่เทลอาวีฟเปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของเตหะรานเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกล่าวที่งานนิทรรศการในกรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ และอ้างถึง อิหร่านเพิ่งเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง
เขากล่าวย้ำว่า “กองกำลังการบินและอวกาศของ IRGC สามารถบรรลุการป้องปรามในระดับที่สูงอย่างน่าทึ่งในด้านของขีปนาวุธ โดรน การป้องกันภัยทางอากาศ อากาศยาน เรดาร์ และอุตสาหกรรมอวกาศ ความสำเร็จล่าสุดคือสามารถปิดการใช้งานเกราะป้องกันขีปนาวุธของศัตรูของอิหร่าน รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ระบอบไซออนิสต์ และรัฐบาลตัวแทนของพวกเขา ให้พังเป็นเวลาหลายสิบปี”
ฮาจิซาเดห์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบอาวุธใหม่ของอิหร่านเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๐ พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบว่าเป็น “การก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ในด้านขีปนาวุธ” และย้ำว่าศัตรูของอิหร่านไม่น่าจะหาวิธีที่จะต่อต้านมันได้นานหลายทศวรรษ มันสามารถหลบหลีกในการบินและบินในแนววิถีซึ่งทำให้ยากต่อการสกัดกั้น
โฆษกเพนตากอนแสดงความ”สงสัย”ต่อรายงานของสื่ออิหร่านเกี่ยวกับระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงแบบใหม่ แต่เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผิดพลาด ในปี ๒๐๒๐ หลายเดือน หลังจากที่เจย์ เรย์มอนด์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกองกำลังอวกาศสหรัฐฯบรรยายว่าดาวเทียมตรวจการณ์ IRGC เป็นเพียงแค่ “เว็บแคมที่พังในอวกาศ” ที่ไร้ประโยชน์ และอิหร่านโต้กลับโดยเผยแพร่ภาพสแน็ปความละเอียดสูงที่ส่งกลับมาโดยดาวเทียมของฐานทัพอากาศอัล-อูเดด ฐานทัพสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง แฉซะเลยว่าเห็นนะทำอะไรอยู่ เล่นเอาเพนตากอนหน้าแตกไม่รับเย็บ
ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนา มิสไซล์ความเร็วเหนือเสียงของอิหร่านอย่างจริงจังมากขึ้น โดยแหล่งข่าวบอกกับสื่อเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า กองทัพอิสราเอลคาดการณ์ถึงข่าวดังกล่าว และเร่งดำเนินการเกี่ยวกับระบบสกัดกั้นขีปนาวุธแบบใหม่ที่รู้จักกันในชื่อแอร์โรว์-๔ (Arrow-4)
อิหร่านและอิสราเอลยังคงอยู่ในสถานะที่ห่างจากความขัดแย้งเพียงเศษเสี้ยวเส้นผม โดยตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างกันหลังการปฏิวัติอิหร่านในปี ๒๕๒๒ ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองประเทศก็ทำสงคราม ข่าวกรองและสงครามไซเบอร์ต่อกัน และต่างขู่ว่าจะโจมตีทางทหารต่ออีกฝ่ายหลายครั้ง
ปีที่แล้ว อิสราเอลจัดทำงบประมาณพิเศษ ๑.๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเตรียมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยเฉพาะ ท่ามกลางข้อกล่าวหาของเทลอาวีฟที่ว่าเตหะรานพยายามสร้างระเบิดนิวเคลียร์ อิหร่านปฏิเสธว่าไม่มีความทะเยอทะยานด้านอาวุธนิวเคลียร์ แต่เตือน แม้ไม่มีอาวุธปรมณูอิหร่านก็สามารถถล่มเมืองต่างๆ ของอิสราเอลกลายเป็นซากปรักหักพังได้ทันทีหากถูกโจมตี
กองกำลังทางอากาศของอิสราเอลและสหรัฐฯจะจัดการฝึกซ้อมเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้ โดยจำลองการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน นี่เป็นอย่างน้อยครั้งที่ ๒ ที่สหรัฐฯ มีแผนจะเข้าร่วมการซ้อมรบดังกล่าวนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ท่ามกลางความสำเร็จด้านการทหาร มีความล่อแหลมในสถานการณ์ในประเทศอย่างกว้างขวาง การปะทุความขัดแย้งภายในของอิหร่าน ที่เริ่มจากความโกรธกริ้วตำรวจคุมประพฤติกรณีหญิงสาวสวมผ้าคลุมไม่ถูกต้อง และเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน บานปลายเป็นการประท้วงใหญ่ จลาจล การปะทะกันของผู้เดินขบวนกับทหารตำรวจที่ออกมาควบคุมฝูงชน สถานการณ์ล่อแหลมก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองได้ทุกขณะ และแน่นอนขบวนการโค่นอำนาจรัฐบาลอิหร่านชุดปัจจุบันก็ได้ฮึกเหิมเร่งโหมไฟความขัดแย้งอย่างเต็มที่ เรื่องนี้สหรัฐโดยปธน.ไบเดนออกมายอมรับเองว่า สหรัฐฯให้การสนับสนุนการประท้วงเพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของอิหร่าน ลามไปถึงกีฬาฟุตบอลโลก สะท้อนความหยาบกระด้างของตะวันตกที่เนื้อแท้เต็มไปด้วยความเกลียดชังรังเกียจ ประชาชาติอื่น แต่ปากโฆษณาสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย!!??
