จากเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลสำคัญผ่านการโพสต์ลง Blockdit ถึงพฤติกรรมของเอ็นจีโอและแหล่งเงินทุนที่มาจากองค์กรในสหรัฐ
ทั้งนี้ข้อความที่ดร.ปฐมพงษ์ เผยแพร่ไว้มีบางช่วงระบุว่า “มาเลเซียได้นายก *หุ่นเชิด* อเมริกาคนใหม่:หลายๆ คนกำลังตื่นเต้นที่นายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ความจริงแล้ว เขาได้รับการสนับสนุนจาก NED ของอเมริกามาตลอดในระหว่างหาเสียง
ที่จริงแล้ว อเมริกาวางแผนสร้างภาพลักษณ์ให้เขามานานเพื่อให้เขาเป็นหุ่นเชิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๔๐ (1997) อเมริกาได้หยิบเขามาขึ้นปกนิตยสารไทม์”
ต่อมาในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ ยังได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีบรรดาเอ็นจีโอไว้สองข้อความที่ต่อเนื่องกันอย่างมีนัยยะสำคัญว่า “แต่ละประเทศเริ่มทยอยหาทางไล่กลุ่ม NGOs จากตะวันตกให้ออกไปจากประเทศ:
รัฐบาลทาจิกิสถานส่งสัญญาณไม่ต้อนรับเครือข่ายมูลนิธิเพื่อสังคมเปิด (Open Society Foundation) ของจอร์จ โซรอส ทำให้เครือข่ายมูลนิธินี้ต้องถอนตัวออกจากทาจิกิสถานหลังจากไปปักหลักอยู่ที่นั่นเพื่อทำสงครามพันทาง หวังต้อนประเทศในเครือสหภาพโซเวียตอย่างทาจิกิสถานนี้มาเข้าแก๊งนาโต้มาได้ ๒๕ ปี
ตอนนี้ บรรดาประชาชนและรัฐบาลในทาจิกิสถานเริ่มหูตาสว่างมากขึ้นแล้ว ตราบใดที่มี NGOs ตะวันตกเข้ามา ประเทศจะมีแต่ความขัดแย้งไม่สิ้นสุด จอร์จ โซรอสจึงจำเป็นต้องปิดมูลนิธินี้พร้อมเครือข่าย NGOs ของตนในประเทศนี้เสีย”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ขอให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบการทำงานขององค์กร แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มีพฤติกรรมการกระทำเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์
เนื่องจากปรากฏเหตุการณ์ว่า แอมเนสตี้ไทยได้ประกาศแคมเปญเขียนจดหมายล้านฉบับถึงทั่วโลก จี้ทางการไทยให้หยุดดำเนินคดีกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ถือว่าองค์กรดังกล่าวเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย
เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 นั้น ผูกพันทุกองค์กร ซึ่งการกระทำขององค์กรดังกล่าวอาจถือได้ว่า อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกระทำการจาบจ้วงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้หากพบข้อมูลหลักฐานอันเชื่อได้ว่าองค์กรดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายแทรกแซงกิจการความมั่นคงของประเทศ ขอให้มีมาตรการทางกฎหมายจัดการกับองค์กรนี้ให้พ้นออกไปจากประเทศไทย
โดยนายเสกสกล กล่าวว่า ตนได้ประกาศเปิดแคมเปญลงชื่อขับไล่แอมเนสตี้ 1 ล้านชื่อ ไม่เอาองค์กรที่มาชังชาติทำลายความสงบสุข ทำลายบ้านเมือง และคิดร้ายต่อสถาบัน ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด
“ตนเองจะยื่นหนังสือให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงินขององค์กรนี้ว่าใช้เงินจากต่างประเทศจ้างคนไทยที่หัวชังชาติ ไม่รักบ้านเมือง รักแผ่นดินเกิดให้มาทำลายประเทศทำลายสถาบัน โดยตนเองจะส่งให้กับฝ่ายกฎหมายของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยเรียบร้อยแล้ว” นายเสกสกล กล่าว
