ยังคงตึงเครียดในเกมรบทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่เกือบครึ่งหนึ่งของพลเมืองในกรุงเคียฟยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้กว่า 2 วันแล้ว ขณะที่วิศวกรเร่งฟื้นฟูความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซียที่เน้นทำลายระบบพลังงานของยูเครน
เอเอฟพีได้รายงาน ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565 รัสเซียยิงขีปนาวุธระลอกใหม่ใส่ยูเครน โดยเฉพาะแหล่งพลังงานที่สำคัญสำหรับสาธารณูปโภคในกรุงเคียฟ ทำให้พลเมืองกว่าครึ่งเมืองยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องต่อสู้กับความหนาวเย็น
โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนประสบความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และการซ่อมแซมแต่ละครั้งประสบกับความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ โดยวิศวกรและเจ้าหน้าที่สาธารณูปโภคยังคงทำงานอย่างหนักเมื่อวันศุกร์เพื่อเชื่อมต่อระบบทำความร้อนและน้ำประปา แม้ผ่านไป 2 วันแล้วก็ตาม ถึงแม้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครนเกือบทั้งหมดได้รับการเชื่อมต่อใหม่แล้ว แต่ยังคงมีอีกกว่า 30 % ที่ยังต้องทำการซ่อมแซม และส่งผลกระทบให้พลเมืองกว่า 200,000-400,000 คน ยังคงขาดแคลนพลังงานในบางช่วงเวลา และต้องอดทนกับความหนาวเย็น
แต่ทั้งนี้เป้าหมายของรัสเซีย ไม่ใช่แค่ต้องการชนะศึกยูเครน เพราะศึกครั้งนี้ พัวพันทั้งสหรัฐฯ นาโต้ และยุโรป ที่ปูตินจำเป็นจะต้องจัดการให้ได้รับบทเรียนจากการแซงชั่น โดยกูรูด้านสงคราม อย่าง Thanong Fanclub ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เป้าหมายของรัสเซียในจุดจบของประวัติศาสตร์ สงครามยูเครนไม่ใช่เป็นสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเท่านั้น แต่มันเป็นความขัดแย้งที่ร้าวลึกระหว่างสหรัฐ +อังกฤษ+ สหภาพยุโรป +นาโต้และรัสเซียที่มีจีนเป็นพันธมิตรหลัก รวมท้ังประเทศอื่น ๆ
ต่างฝ่ายต่างก็แพ้ไม่ได้ในสงครามยูเครน สำหรับรัสเซีย ความพ่ายแพ้ในยูเครนจะเป็นภัยต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินได้ปิดประตูแพ้ในสงครามยูเครน เพราะว่าถ้าหากเข้าตาจนจริง ๆ รัสเซียพร้อมที่จะใช้นุ้กล้างโลกไปเลย สำหรับตะวันตก ความพ่ายแพ้ในสงครามยูเครนจะทำให้หมดเครดิตความน่าเชื่อถือของการเป็นมหาอำนาจโลก ประเทศต่างๆที่สหรัฐได้ทำการหว่านล้อมเพื่อดึงให้เข้ามาเป็นพวกจะตีจาก เมื่อตระหนักว่าแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐ และนาโต้สู้รัสเซีย จีนและพันธมิตรไม่ได้ ยูเครนจึงกลายเป็นสงครามตัวแทนคลาสสิคของการช่วงชิงอำนาจของมหาอำนาจโลก โดยที่ท้ายที่สุดแล้วยูเครนจะย่อยยับ ประชาชนชาวยูเครนจะสิ้นชาติ ไม่เหลืออะไรเลย
รัสเซียได้เปรียบในสงครามยูเครนในเวลานี้ เนื่องจากใช้จรวด ขีปนาวุธและโดรนพลีชีพในการได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนจนเกือบหมดแล้ว กรุงเคียฟ และเมืองต่างๆไม่มีไฟฟ้าไม่มีน้ำ ไม่มีระบบสื่อสาร ไม่มีถนนหนทางให้ใช้เหมือนเดิม ประชาชนค่อนประเทศได้อพยหนีไปอยู่ต่างประเทศในยุโรป หรือรัสเซีย ยิ่งสงครามยื้อออกไป รัสเซียยิ่งได้เปรียบ เพราะว่ามีพลังงาน อาหาร และอาวุธใช้อย่างเหลือเฟือ ส่วนยูเครนดูท่าแล้วจะกลายเป็นเมืองร้าง ความช่วยเหลือจากตะวันตกนับวันมีแต่จะร่อยหรอลงไป
อย่างไรก็ตาม ปูตินมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าการกำหราบยูเครนดังต่อไปนี้
1. ให้สหรัฐถอนฐานทัพออกจากยุโรป ฐานทัพของอเมริกันในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมันนี อิตาลี ตุรกีเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของยุโรป นอกจากนี้สหรัฐยังติดตั้งขีปนาวุธในยุโรป เพื่อจ่อคอหอยรัสเซีย รวมท้ังมีอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย ทำให้ยุโรปและรัสเซียไม่สามารถอยู่กันอย่างสันติได้ เป้าหมายของปูตินคือการบีบให้สหรัฐถอนกำลังทหารออกจากยุโรป หรือให้ยุดรปรวมตัวกันเพื่อปลดแอกความมั่นคงจากการครอบงำของกองทัพสหรัฐ สหรัฐ และนาโต้จะหมดอิทธิพลในยุโรปก็ต่อเมื่อยุโรปมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองแบบถอนรากถอนโคน การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อยุโรปประสบกับหายนะทางเศรษฐกิจ การเงิน รวมท้ังการขาดแคลนพลังงานและอาหาร ประชาชนชาวยุโรปต้องมองให้เห็นว่า ใครเป็นมิตรแท้ ใครเป็นศัตรู
2. ปูตินต้องการล้มสหภาพยุโรป เมื่อไม่มีสหภายุโรป หรืออียู ประเทศยุโรปจะได้เลิกนโยบายหมาหมู่ในการแซงชั่น หรือเอาเปรียบประเทศอื่น ความจริง กลุ่มแองโกลอเมริกัน ซึ่งมีสหรัฐและอังกฤษเป้นแกนเป็นผู้ออกแบบ และสร้างสหภาพยุโรปขึ้นมา จะได้ต้อนประเทศยุโรปเข้าคอกและครอบงำได้สะดวก เวลาดีลกับยุโรป จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาพูดคุยกับหลายประเทศ เมื่อมีสหภาพยุโรปแล้ว ก็สามารถใช้บรัสเซลล์จุดเดียวในการหว่านล้อมให้ยุโรปดำเนินนโยบายของวอชิงตัน และลอนดอน สั่งให้ไปตายก็ต้องไป เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี และประเทศยุโรปอื่น ๆ ถูกหลอกให้เข้าไปอยู่ในกระด้งอียู ทำให้เวลาดำเนินนโยบายอะไรต้องคอยฟังคำสั่งจากบรัสเซลล์ ที่ถูกสหรัฐและอังกฤษครอบงำ ส่วนอังกฤษเป็นนกรู้ หลอกให้ประเทศต่างๆเลิกใช้เงินสกุลตัวเอง และหันไปใช้เงินสกุลร่วมยูโร แต่อังกฤษไม่ใช้ยูโร ยังคงรักษาแท่นพิมพ์เงินปอนด์ของตัวเองอย่างเหนียวแน่น พอได้ที อังกฤษจอมเจ้าเล่ห์ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกของอียู เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินนโยบายร่วมกับสหรัฐในการทำลายรัสเซีย โดยใช้อียู และนาโต้เป็นทัพหน้า
3. นาโต้ต้องถูกยุบไปด้วย การถอนฐานทัพของสหรัฐจากยุโรป การล่มสลายของอียู และการยุบตัวของนาโต้จะเกิดขึ้น พร้อมๆกันถ้าหากปูตินสามารถชนะศึกยูเครน และสร้างอำนาจการต่อรองที่เหนือกว่ายุโรป ที่กำลังอ่อนแอเต็มกำลัง ยุโรปไม่ได้มีเวลามากในการรักษาสถานภาพของตัวเองเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ หนี้ วิกฤติเศรษฐกิจ การขาดแคลนพลังงานและอาหารที่กำลังเกิดขึ้น
4. รัสเซียจะฟื้นฟูสหภาพโซเวียตในรูปแบบใหม่ หลังจากโซเวียตล่มสลายในปี 1991 เพราะแพ้สงครามเย็น และมีเกลือ Mikhai Gorbachov ที่กลายเป็นหนอน จักรวรรดิโซเวียตแตกแยกออกเป็น 15 ประเทศ กลุ่มแองโกลแซกซอนเดินหน้าเข้าแทรกแซงบริวารเก่าของโซเวียตเพื่อดึงมาเป็นพวกของตัวเอง เพื่อที่จะโดดเดี่ยวรัสเซีย ก่อนที่จะเดินหน้าปิดเกมรัสเซียต่อไป เพราะครอบครองทรัพยากรธรรมชาติอันสมบูรณ์ที่สุดของรัสเซีย กลุ่มประเทศบัลติกส์ ยูเครน เบลารุส โมลโดวา จอร์เจีย คาซัคสถาน หรือประเทศที่มีคำว่าสถานตามหลังต่างก็ถูกแทรกแซงผ่านการวางคนของตะวันตกเข้าไปเพื่อครอบงำ ทำให้รัสเซียนอกจากจะโดนตะวันตกรุมกินโต๊ะแล้ว ยังถูกอดีตบริวารประเทศแยกเขี้ยวเข้าหาร่วมวงหมาหมู่หวังทำร้ายเหมือนกัน แต่เนื่องจากปูติน ซึ่งก้าวขึ้นมามีอำนาจตั้วแต่ปี 2000 ทำงานหนัก ค่อย ๆ แก้ปัญหาอดีตบริวารประเทศที่คิดไม่ซื่อ ทำให้ตะวันตกเข้าไปแทรกแซงได้ไม่ถนัดมือ แต่ก็ยังคงสามารถสร้างอิทธิพลในกลุ่มประเทศบอลติกส์ (เอสโตเสีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ) และยูเครน จอร์เจีย โมลโดวาได้อย่างลงลึก
5. ค่านิยมอนุรักษ์นิยมของรัสเซียจะได้รับการฟื้นฟูในยุโรปและตะวันตกเมื่อรัสเซียสามารถทำลายอียู และนาโต้ได้แล้ว ในเวลานี้ ตะวันตกกำลังเข้าสู่ยุคของการทำลาย (Nihilism) ตะวันตกหันหลังให้กับค่านิยมที่ดีงามของความรักในครอบครัว และชุมชุน หันหลังให้กับพระเจ้า แต่หันไปบูชาลัทธิซาตานแทน มีการส่งเสริมลัทธิสุขนิยม ลัทธิบูชาเงิน ลัทธิวัตถุนิยม ลัทธิเสรีนิยมที่เกินขอบเขต การแต่งงานข้ามเพศ ลูกไม่เคารพพ่อแม่ผู้ใหญ่ หรือไม่ให้ความสำคัญกับชุมชน ความเห็นแก่ตัวกลายเป็นค่านิยมหลัก ปูตินฟื้นฟูศาสนาคริสต์ออร์โทด๊อกซ์ ไม่เอาชัทธิซาตาน เน้นค่านิยมอนุรักษ์เดิม สอนให้ประชานภูมิใจในจารีตประเพณีของประเทศ ให้รู้จักชาตินิยม ให้รู้จักการเสียสละ ให้รักครอบครัวพี่น้อง และเผ่าพันธุ์ของตัวเอง ในอีกแง่หนึ่ง ปูตินทำสงครามยูเครนเพื่อปกป้องชาวรัสเซียนสลาฟที่ถูกรังแกเข่นฆ่า และกีดกันในยูเครน ตะวันตกได้สร้างลัทธินาซีเพื่อฟอกย้อมหัวสมาชิกให้เกลียดเผ่าพันธ์สลาฟ และให้ฆ่าเผ่าพันธุ์สลาฟให้หมด
ท้ัง 5 เป้าหมายนี้ของปูติน จะเป็นจุดจบของประวัติศาสตร์หลังจากเสรีนิยมประชาธิปไตยจอมปลอมของตะวันตกประสบกับความปราชัย มันจะเป็นการเริ่มต้นมิติใหม่ ที่จะย้อนกลับไปหาการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับยุโรป ย้อนกลับไปรับค่านิยมดั้งเดิม ศาสนาที่สอนให้เป็นคนดี และคนที่รักในพระเจ้า และมีความเกรงกลัวตาอบาป ให้กลับไปส่งเสริมหาจารีตประเพณีที่ดีงาม การไม่เอาเปรียบกัน การยอมรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมและระบบการเมืองเพื่อความสงบสุขของโลก ถ้าเป็นอย่างนี้ ปูตินจะเป็นซีซาร์ของยุโรปยุคใหม่