จากที่วันนี้ 26 พฤศจิกายน 2565 Blockdit World Update เผยแพร่ข้อความที่น่าสนใจ โดยรายงานถึงความคืบหน้าจากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในการใช้งบประมาณมหาศาลจากตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้เนื้อหาที่ Blockdit World Update ได้นำมาโพสต์ไว้ระบุถึงแหล่งที่มาไว้อย่างน่าติดตามว่า “ปี 1990 รัสเซีย เพิ่งเป็นชาติใหม่ในสารบบสังคมนานาชาติสมัยใหม่ มีอายุ 32 ปี เปรียบดังอายุชายหนุ่มเพิ่งสร้างตัว
ปี 2021 รัสเซีย แม้จะได้ชื่อว่าเป็น ดีพาร์ทเมนสโตร์ทรัพยากร ถึงราว 30% ของโลก แต่ก็ออมไว้ใช้ในประเทศ เหลือก็ส่งออกทำการค้าปกติ ไม่ได้เร่งอัตราความเจริญเศรษฐกิจจนหวือหวา จึงมี GDP ชาติราว 1.65 ล้านดอลลาร์ มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 11 ของโลก แต่น่าสังเกตุที่มีหนี้สินสาธารณะต่ำมากแค่ไม่เกิน 18% เท่านั้น โดย GDP รัสเซีย น้อยกว่าสหรัฐฯ ถึง 13.87 เท่า
เมื่อรัสเซีย ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน แล้วฝ่ายชาติ NATO ร่ำรวย 30 ชาติมาลงขันเงินและอาวุธช่วย บรรดากูรูโปรตะวันตกต่างพากันมองว่า รัสเซียจะอาวุธหมดก่อน เศรษฐกิจจะย่อยยับ เงินรูเบิลจะเป็นฝุ่น แตกดินแดนเป็นประเทศเล็ก ไม่มีชาติใดคบค้าด้วย
แต่เมื่อทำสงครามผ่านไปราว 9 เดือน สิ่งที่คาดนั้นล้วนกลับตาลปัตรจนสิ้น ค่าเงินรัสเซียล่าสุดราว 60 รูเบิล/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาราว 25% สวนทางเงินสกุลอื่นทั่วโลก
อาวุธรัสเซีย ผลิตเพิ่มใหม่มากกว่าใช้ไป ทำให้สต็อคแทบไม่เปลี่ยนแปลงก่อนทำสงคราม อัตรา GDP รอบ 9 เดือนโตขึ้นราว 3% เงินคงคลังล้นทะลัก รายได้ส่งออกทวีคูณขึ้น
แต่ที่น่าทึ่งคือ นิตยสาร Forbes ที่โด่งดังน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ รายงานว่าช่วง 9 เดือนของสงครามกับชาติตะวันตก รัสเซียใช้งบประมาณทางทหารแค่ 82,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น น้อยอย่างเหลือเชื่อ คิดเป็นเศษเงินไม่ถึง 5% ของ GDP รัสเซียเท่านั้นเอง ไม่ได้มีผลกระทบต่องบประมาณด้านอื่นของประเทศใดทั้งสิ้น
ทั้งที่วันใดกองทัพรัสเซีย อาละวาดโหมยิงปืนใหญ่สูงสุดถึง 50,000 ลูก/วัน แต่วันไหนอารมณ์ดีก็ราว 10,000 ลูก/วัน คำนวณ 9 เดือน สงครามนี้รัสเซียยิงลูกปืนใหญ่ไปแล้ว 6.75 ล้านลูก
ค่าลูกปืนใหญ่แค่ 5,500 ล้านดอลลาร์เท่านั้น และผลิตใหม่เพิ่มทุกวันมากกว่าใช้ไป สต็อคยังไม่เปลี่ยนแปลงจากก่อนสงคราม ส่วนจำนวนขีปนาวุธ ชนิดต่างๆ ประมาณหลายพันลูกเช่นกัน
นอกจากรัสเซียจะมีต้นทุนอาวุธต่ำเตี้ยแล้ว ยังยึดหลักเศรษฐศาสตร์สงคราม คือ ค้าขายกับฝ่ายชาติตะวันตกหน้าตาเฉย ทั้งน้ำมัน ก๊าซ สินแร่ สั่งมาก็ขายให้ เป็นอะไรที่แหกตำราสงครามสุดๆ
การทำเช่นนี้ทำให้รัสเซีย ยิ่งมีรายได้เข้าจากทุกทิศทุกทางไม่หยุดหย่อน เพราะชาติตะวันตกลองมา 9 เดือนแล้ว อย่าขาดพลังงานรัสเซียไม่สำเร็จ ยิ่งพยายามก็ยิ่งเจ็บ เศรษฐกิจ ย่ำแย่กรอบไปตามๆ กัน
ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ของชาวยุโรป ยังไม่มีตัวเลขสรุปที่แน่ชัด แต่เมื่อวิเคราะห์จากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยเกิน 10.9% อัตรา GDP ถดถอยวิ่งเข้าหาศูนย์ การขาดแคลนพลังงาน อาหาร การก่อม็อบยืดเยื้อ ก็คาดเบื้องต้นว่า สูญเงินทางเศรษฐกิจไปมากกว่าค่าใช้จ่ายทางทหารรัสเซียนี้ หลายสิบเท่า
ยังไม่รู้ว่ารัสเซีย ทำได้อย่างไร จึงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทำสงครามเพียงน้อยนิดเท่านั้น อาจเป็นไปได้ว่ามีอาวุธมรดกสมัยสหภาพโซเวียต มากล้นคลังแสง
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งน่าแปลก เพราะยูเครน จัดเป็นกองทัพที่มีอาวุธมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ยุโรป ต่อจากฝรั่งเศส เท่านั้น แล้วอาวุธยูเครน หายไปไหนหมด จึงต้องร้องขออาวุธใหม่จากชาติตะวันตกแทบทุกวัน
นี่ยังไม่รวมผลประโยชน์จากดินแดนยูเครนราว 18% ที่แยกเอกราชไปเป็นดินแดนส่วนหนึ่งรัสเซียที่ทรัพยากรมากมาย ท่าเรือสินค้า ทรัพย์สิน มูลค่ารวมถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์ จึงคาดหมายว่าปีหน้า 2023 อัตรา GDP รัสเซีย อาจจะกระโดดค้ำถ่อข้ามหัวรุ่นพี่มาอยู่ที่อันดับ 5 ของโลก ดันชาติตะวันตกอันดับร่วงลงไป”