กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้รายงานสภาพสถานการณ์การสู้รบในยูเครนล่าสุดว่า กองทัพรัสเซียได้ประสานกันทั้งทางภาคพื้นดิน ทางอากาศและจากทางเรือ โจมตีฐานทหาร และโครงสร้างพื้นฐานอย่างแม่นยำ ทำลายเส้นทางขนส่งโลจิสติกส์ของฝ่ายยูเครนราบ ผลที่ตามมาจะทำให้เคียฟขนส่งทหารไปยังพื้นที่สู้รบได้ยากขึ้น การเคลื่อนไหวส่งกำลังบำรุงเป็นอัมพาต ทำให้กองกำลังเคียฟ-นาโต้พ่ายแพ้ยับเยินในหลายพื้นที่
ด้านโฆษฏเครมลินได้ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมายของรัสเซียในการศึกที่ยูเครนช่วงนี้คือพุ่งเป้าทำลายศักยภาพทางทหารของกองทัพเคียฟ-นาโต้ในทุกพื้นที่ ตอบโต้เซเลนสกี้ที่โวยวายกับผู้สนับสนุนว่า รัสเซียมุ่งเป้าทำลายพลเรือน ปากก็ขอเงินและอาวุธเพิ่ม ขณะที่สั่งถล่มพื้นที่ใกล้่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียรไม่หยุด ทำยุโรปและยูเอ็นเริ่มกระวนกระวายว่าถ้าบึ้มเมื่อไหร่แหลกเละกันทั้งยุโรปไม่เว้นยูเครนเอง นอกจากนี้แม้สหประชาชาติจะเพิกเฉยเรื่องที่รัสเซียยื่นเรื่องให้สอบสวนเมกาทดลองอาวุธเคมีในแล็ปยูเครนจำนวนมาก แต่รัสเซียจะยังเดินหน้าเปิดโปงในการประชุมที่จะจัดขึ้นเกี่ยวกับสนธิสัญญาห้ามทดลองอาวุธเคมีต่อไปเพื่อกดดันและขัดขวางการเล่นสกปรกของเคียฟและนาโต้
วันที่ ๒๕ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ดมิทรี เปสคอฟ(Dmitry Peskov) โฆษกเครมลินกล่าวยืนยันว่า “เป้าหมายของรัสเซียในการสู้ศึกยูเครนมุ่งเป้าทำลายศักยภาพทางทหารเท่านั้น ไม่ได้มุ่งทำลายฐานที่พักอาศัยของพลเรือน” คำพูดของเขาสอดคล้องกับคำกล่าวอ้างที่ยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจากกรุงเคียฟที่รายงานความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐานหลักทั่วยูเครนที่ถูกกองทัพรัสเซียบุกทำลายผ่านการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ต่อเนื่องนับสัปดาห์
เปสคอฟปฏิเสธข้อกล่าวหาของปธน.เซเลนสกี้ที่ใส่ร้ายว่ารัสเซียถล่มที่อยู่อาศัยทำลายชีวิตพลเรือน เขาย้ำว่า“ไม่เคยมีการโจมตีใดๆ ในสถานที่พลเรือนมาก่อน และตอนนี้ก็ยังไม่มีเลย”
เซเลนสกี้กล่าวหามอสโกว์ในวิดีโอของเขาที่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า “รัสเซียข่มขวัญยูเครนด้วยการทิ้งระเบิดโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในสถานที่เช่นเมืองวิชโกรอด (Vyshgorod) ใกล้กรุงเคียฟ และทำให้ไฟดับทั่วประเทศ”
วาซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวตอบโต้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในที่ปะชุมว่า “มอสโกว์กำลังตอบสนองต่อ กระแสอาวุธจากตะวันตกที่ส่งไปท่วมยูเครนและเคียฟเรียกร้องให้มีชัยชนะทางทหารต่อรัสเซียอย่างไม่ปรานี”
เนเบนเซียยังยืนกรานว่าพลเรือนที่เสียชีวิตล่าสุดในวิชโกรอดและเคียฟมีสาเหตุมาจากการป้องกันทางอากาศของยูเครนที่ใช้อาวุธของสหรัฐฯ ไม่ใช่จากการโจมตีของรัสเซีย เรื่องนี้มีภาพหลักฐานซากอาวุธชัดเจน
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้รายงานในการบรรยายสรุปประจำวันว่า เครื่องบิน เรือรบ และกองกำลังภาคพื้นดินของรัสเซีย ได้เข้าโจมตีศูนย์บัญชาการและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนเมื่อวันพุธ โดยทำการโจมตีระยะไกลที่มีความแม่นยำ ขัดขวางการส่งกำลังทหารและอาวุธไปยังแนวหน้าโดยทางรถไฟ การขนส่งและโลจิสติกส์ของเคียฟ-นาโต้เป็นอัมพาต ทำให้สูญเสียอย่างหนักทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และกำลังพล
พล.ท.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ ( Igor Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า “เป้าหมายของการโจมตีสำเร็จแล้ว เป้าหมายทั้งหมดถูกโจมตี ปฏิบัติการของเครื่องบิน เรือรบ และกองกำลังภาคพื้นดินอย่างเป็นเอกภาพ ได้ขัดขวางการส่งกำลังเสริมของยูเครน อาวุธต่างประเทศ ยุทโธปกรณ์ทางทหาร และยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่สู้รบโดยผ่านเส้นทางรถไฟ”
โคนาเชนคอฟยืนยันว่า “กองทหารรัสเซียไม่ได้กำหนดเป้าหมายไปที่เคียฟ การทำลายอพาร์ตเม้นทั้งหมดที่รายงานโดยทางการเคียฟ เกิดจากขีปนาวุธที่ถูกยิง จากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน ที่ผลิตโดยต่างชาติซึ่งประจำการอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของเมืองหลวงของยูเครนเอง ไม่ใช่ของรัสเซีย”
ในพื้นที่สู้รบแนวหน้าของลูฮันสค์ ผู้บัญชาการหน่วยคอมมานโดอัคมัต (Akhmat) และรองผู้บัญชาการกองพลที่ ๒ ของกองพลอาสาสมัครประชาชนลูฮันสค์ (LPR) แอปตี อเลาดินอฟ(Apty Alaudinov) กล่าวว่า กองทหารยูเครนพยายามบุกทะลวงแนวป้องกันของกองกำลังพันธมิตรในสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์ (LPR) อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องสูญเสียกำลังพลและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก
ทางด้านซาโปริชเชีย วลาดิมีร์ โรกอฟ ประธานขบวนการ We Are Together with Russia กล่าวว่า “เมื่อเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ตามเวลามอสโกว์ กองทหารยูเครนได้ยิงถล่มดินแดนที่ได้รับการปลดปล่อยของภูมิภาค Zaporozhye โดยใช้ HIMARS MLRS ซึ่งเป็นระบบจรวดหลายลำกล้อง ที่ติดตั้งในเขตที่อยู่อาศัยของเมืองที่ยูเครนควบคุมชายขอบของภูมิภาคซาโปริชเชีย”
เรื่องนี้รัสเซียได้รับมือโดยยิงสกัด เพราะบริเวณแนวหน้าบางส่วนยังอยู่ในความควบคุมของยูเครน ย่านนี้จึงยังมีการสู้รบที่ดุเดือดไม่น้อยหน้าไปกว่าเมืองลิมานและบัคมุตซึ่งล่าสุดกองทัพรัสเซียควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!!