หลังจากยูเครนถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในประเทศนั้น ไฟฟ้าดับ และประชากรจำนวนมาก เตรียมเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อต้องการหลุดพ้นชะตาชีวิตที่ยากลำบากในห้วงเวลานี้ แม้แต่สหรัฐฯก็ไม่อาจจะยื่นมือเข้ามาช่วยได้ เนื่องจากกลัวเดือดร้อนไปด้วย แต่มีรายงานว่าสหรัฐฯยังส่งอาวุธที่ค้างสต็อกบางตัวมาให้ยูเครน แต่มันดันทำงานผิดพลาด แทนที่จะเก็บไว้ใช้ต่อกรกับรัสเซียได้ กลายเป็นทำให้ประชาชนยูเครนต้องเดือดร้อน
โดยในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้รายงานว่า World Update สหรัฐฯ จัดหนัก! ส่งจรวดมิสไซล์ ถล่มใส่อาคารพลเรือนยูเครน เจ็บ ที่อยู่อาศัยพังยับ ช่วงที่ฝ่ายกองกำลังผสมในยูเครน ยิงจรวดใส่เขตแดนรัสเซีย และกองทัพรัสเซียโจมตีสวนกลับตอบโต้อย่างรุนแรงนั้น จะพบข่าวจากสื่อตะวันตกว่าอาคารที่พักอาศัยพลเรือนที่พังนั้นเกิดจากอาวุธรัสเซีย ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เพราะเป้าหมายของรัสเซีย ไม่เกี่ยวกับพลเรือน แต่เป็นที่ตั้งทางทหาร ระบบพลังงาน ระบบสื่อสาร และระบบขนส่งทางรางที่ใช้ขนอาวุธเท่านั้น
ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยขึ้น เมื่อสื่อของสหรัฐฯ เองออกมาแฉว่า ขีปนาวุธมิสไซล์ AGM-88B หรือ HARM ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ หมายเลขผลิตปี 1985 หรือเมื่อ 37 ปีที่หมดอายุใช้งานไปแล้ว ปกติใช้ติดตั้งในเครื่องบินรบ หลักการทำงาน คือ จะมองหารังสีแม่เหล็กไฟฟ้าบางประเภทที่ปล่อยออกมาจากเรดาร์ที่ติดอยู่กับที่ตั้งแหล่งกำเนิดสัญญาณวิทยุจากระยะไกลกว่า 30 ไมล์ จากนั้นจรวดหัวระเบิด 40 ปอนด์ จะพุ่งไปชนเป้าหมายนั้น เป็นเทคโนโลยีโบราณชิปคอมพิวเตอร์อนาล็อคเก่ากว่าชิปเครื่องซักผ้าปัจจุบัน แต่สหรัฐโล๊ะสต็อคมาขายให้ยูเครน แล้วมีการดัดแปลงไปติดเครื่องบินรบ MiG ยูเครน ผลิตในยุคสหภาพโซเวียต ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้เข้ากัน ยิงหวังทำลายเรดาร์ของรัสเซีย
แต่คาดว่าจะเจออุปกรณ์ระบบสงครามอิเล็คทรอนิกส์รัสเซียที่ทันสมัยกว่าสหรัฐฯ เกือบ 40 ปี เลยทำให้จรวดลูกนี้เกิดความสับสนหลงทิศ และความสูง หรือจรวดรุ่นนี้เก่าจัด จนหาเรดาร์เทคโนโลยีใหม่ของรัสเซียไม่พบ เชื้อเพลิงเสื่อม พอยิงออกไปจึงสะเปะสะปะไร้ทิศทาง พุ่งเข้าไปในเมืองครามาทรอสก์ ที่เป็นอุตสาหกรรม เป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัททหารรับจ้าง Acadamy PMC ที่รับเหมางานจากกลาโหมสหรัฐ การโจมตีอาวุธนี้จากเครื่องบินยูเครน ส่งผลให้อาคารอยู่อาศัยอพาร์ตเมนต์ชั้น 5 บนสุด เกิดการระเบิดและเกิดรูด้านข้างของอาคาร พลเรือนยูเครน 3 ราย บาดเจ็บ
ต่อมาผู้อยู่อาศัยเก็บหลักฐานเศษชิ้นส่วนอาวุธสหรัฐฯ ได้จากที่เกิดเหตุแล้วโพสภาพหมายเลขผู้ผลิต จากนั้นสื่อสหรัฐฯ นำไปตรวจสอบเชื่อมโยงเศษชิ้นส่วนกับส่วนประกอบของการ์ดวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของรัฐบาล พบว่าเป็นขีปนาวุธความเร็วสูง AGM-88B หรือ HARM ที่ผลิตในสหรัฐฯ พัฒนาโดยกองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐฯ หลังสงครามเวียดนาม ซากอาวุธที่พบผลิตในปี 1985 กว่า 37 ปี จึงหมดอายุไปแล้ว สถานะควรถูกทำลายทิ้งเนื่องจากชิปวงจรล้าหลังโบราณจัด แต่สหรัฐฯ กลับโล๊ะสต็อคมาขายเงินกู้ผ่อนชำระให้ยูเครน ในขณะที่กองทัพรัสเซียยังคงลงโทษโจมตียิงขีปนาวุธและโดรนใส่โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานยูเครนอย่างหนัก ฝ่าย NATO พยายามปกป้องน่านฟ้าของยูเครน โดยส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศดี ๆ มาให้ยูเครนกู้ ก็ไม่ได้ช่วยยับยั้งหายนะใดได้
กลาโหมสหรัฐฯ จมปลักอยู่กับสต็อกยุทโธปกรณ์ที่ล้าสมัยมานานแล้ว จึงปล่อยให้กองกำลังผสมในยูเครนอยู่กับกองอาวุธที่ชำรุดทรุดโทรมล้าสมัยแม้แต่ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศขั้นสูงแห่งชาติ หรือ NASAMS สหรัฐฯ ที่ส่งให้ยูเครน เมื่อใช้สกัดขีปนาวุธรัสเซีย ที่ยิงมาโจมตีกรุงเคียฟ จรวดที่ยิงขึ้นไปก็มีอาการผิดปกติเหมือนถูกแจมสัญญาณ จรวดก็เลยตกใส่อาคารอพาร์ทเมนท์ 5 ชั้น มีชาวยูเครนเสียชีวิต และบาดเจ็บเพียบเหมือนเดิม อาคารพังยับเยิน แถมขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 ยูเครน พอยิงขึ้นก็เกิดอาการสับสนข้ามพรมแดนไปถล่มโปแลนด์ คร่าชีวิตชาวบ้านไป 2 ราย และพบระบบอาวุธชนิดนี้ทำงานผิดปกติในกรุงเคียฟ พอยิงขึ้นไป มันกลับมีอาการแปลก ๆ เหมือนโดนแจมสัญญาณพุ่งกลับลงมาโจมตีอาคารสูงพังไปเช่นกัน
สรุปภัยคุกคามร้ายแรงจากอาวุธสำหรับชาวยูเครนในยามนี้ยังไม่ใช่ขีปนาวุธรัสเซีย ที่ทำให้ไฟฟ้าดับ แต่คือบรรดาสารพัดอาวุธจากชาติตะวันตกทั้งโบราณ และสมัยใหม่ ที่ยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าไปแล้วทำงานผิดปกติ ตกลงมาใส่ชาวยูเครนเสียเองจนเสียชีวิต และบาดเจ็บ ยิ่งอาวุธตะวันตกส่งมามากเท่าไร ชาวยูเครน ก็เหมือนนอนอยู่บนกองอาวุธระเบิด เสี่ยงสูงสุด ชาติตะวันตกส่งอาวุธมาโล๊ะสต็อคต่อไป..ถล่มพวกเดียวกันเองอีกแน่นอน
