หลังจากที่มีรายงานว่ารัสเซียได้ทำการโจมตีกรุงเคียฟของยูเครน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศถูกทำลาย นับว่าเป็นการโจมตีอย่างเป็นระบบครั้งล่าสุดที่ทำให้เกิดไฟดับทั่วประเทศ และปัญหาอุณหภูมิที่ลดลง โดยสำนักงานบริหารและจัดการของกรุงเคียฟประกาศผ่านสื่อโซเชียลว่า “ศัตรูกำลังยิงขีปนาวุธใส่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของกรุงเคียฟ โปรดหลบในที่หลบภัยจนกว่าการแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศจะสิ้นสุด”
สอดคล้องกับที่ วิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุว่าสิ่งอำนวยความสะดวกทางโครงสร้างพื้นฐานถูกโจมตี ขณะที่มีรายงานเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งเขาได้เรียกร้องให้ประชาชนเร่งหาที่หลบภัย
ล่าสุดกูรูสงครามรัสเซีย-ยูเครน ได้ออกมาวิเคราะห์เกมศึกในห้วงเวลานี้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างในระยะเวลาฤดูหนาว ที่กำลังกัดกินยูเครนอย่างโหดร้าย โดยในเฟซบุ๊ก Thanong Fanclub ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ยูเครนกำลังกลายเป็นเมืองร้าง ฤดูหนาวนี้จะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับชาวยูเครนหลายล้านคน เนื่องจากความหนาวที่โหดร้าย หลังจากที่รัสเซียได้ทำลายโรงไฟฟ้าของยูเครนไปกว่า 50% เมื่อไม่มีไฟฟ้าทำความอบอุ่น มีความเสี่ยงที่ผู้ที่ยังคงอยู่ในยูเครนจะหนาวตาย
ด้วยเหตุนี้ นาย Hans Kluge ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลกภาคพื้นยุโรปได้ออกมาแสดงความเห็นเชิงแนะนำว่าให้ชาวยูเครนอพยพออกนอกประเทศไปอยู่ยุโรป หรือที่ที่มีความอบอุ่นและมีความปลอดภัยมากกว่า เขาคาดว่าจะมีชาวยูเครนจำนวน 3 ล้านคนหนีออกนอกประเทศในช่วงหน้าหนาวนี้ที่มาถึงแล้ว แต่ความหนาวจะรุนแรงขึ้นในเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นปีหน้า
สำหรับชาวยูเครนที่ไม่ยอมหนีออกนอกประเทศ ก็ต้องหาทางเลือกในการสร้างความอบอุ่นตามมีตามเกิด ไม่ว่าจะเป็นการเผาถ่าน เผาฟืน หรือการใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าด้วยดีเซล หรือเครื่องทำความร้อนไฟฟ้า ซึ่งมีความเสี่ยงต่อสุขภาพถ้าสูดดมเข้าไปมาก ๆ
นาย Maxim Timchenko กรรมการผู้จัดการของ DTEK บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าของยูเครนได้เรียกร้องให้ชาวยูเครนอพยพไปอยู่ต่างประเทศ จะได้มีคนใช้ไฟฟ้าน้อยลง ไฟฟ้าที่มีเหลืออยู่อย่างกระปริบกระปรอยจะได้ให้ผู้ที่ต้องการใช้จริง ๆ ได้มีโอกาสใช้ เช่นโ รงพยาบาลที่รักษาทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม
DTEK เป็นบริษัทพลังงานของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน สามารถให้บริการมากกว่า 25% ของการบริโภคไฟฟ้าทั้งหมดของยูเครน แต่ในเวลานี้กำลังการผลิตไฟฟ้าได้ลดลงอย่างฮวบฮาบเนื่องจากโครงข่ายผลิตกระแสไฟฟ้าถูกขีปนาวุธและจรวดของรัสเซียทำลายไปกว่า50% ทำให้เกิดวิกฤติการขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก
ในเวลานี้ไฟฟ้าเปิด ๆ ดับ ๆ ในยูเครนกลายเป็นเรื่องปกติ ถ้าหากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 0 องศา จะทำให้ชาวยูเครนเดือดร้อน หนาวตายได้ นาย Maxim Timchenko ถึงได้แนะนำให้ชาวยูเครนอพยพไปอยู่ต่างประเทศ 3-4 เดือน หลังจากหมดหน้าหนาวแล้วค่อยกลับมาบ้าน เพราะรัสเซียได้ปรับเปลี่ยนแผนการรบในยูเครน ด้วยการมุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบบสื่อสาร ระบบการเดินทาง เพื่อทำให้การดำรงชีวิตตามปกติในยูเครนเป็นไปไม่ได้ หรืออาจกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อประชาชนอยู่ไม่ได้ การสนับสนุนรัฐบาลของนายโวดลดิเมียร์ เซเลนสกีจะหมดไป
รายงานข่าวจากตะวันตกที่ระบุว่า กองทัพรัสเซียพลาดท่าที่คาร์คีฟ หรือที่เคอร์ซอนต่อกองทัพยูเครน ต้องยอมถอยร่นจากการถูกตีโต้มีความจริงเพียงส่วนเดียว เพราะว่าถ้าพบว่ากองทัพยูเครน ซึ่งมีทหารนาโต้ และทหารรับจ้างจากนานาประเทศเข้าไปช่วยรบเป็นจำนวนมากมีกำลังมากกว่า หรือมีภาษีเหนือกว่า รัสเซียจะสั่งถอย เพื่อเชฟชีวิตทหาร เพราะว่าการปกป้องดินแดนยูเครนที่กว้างใหญ่ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ต้องใช้ทหารเป็นจำนวนมาก รัสเซียไม่ต้องการเอาทหารจำนวนมากมากองรวมกันเพื่อปกป้องพื้นที่ที่อาจจะไม่คุ้มในการรักษา
รัสเซียรอได้ ไม่โหมการสงคราม แต่เลือกที่จะโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนทั่วประเทศ โดยสามารถเลือกเป้าได้ เนื่องจากรัสเซียต้องการรอเวลาให้สุกงอมกว่านี้เพื่อเผด็จศึกในช่วงเวลาที่ทหารยูเครน และทหารนาโต้จะอ่อนแอที่สุดคือใน ฤดูหนาวนี้
รัสเซียเป็นสมาชิกของกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooperation Organization ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือทางความมั่นคง คล้ายๆกับนาโต้ แต่ไม่ได้มีสนธิสัญญาที่เป็นหลักเป็นฐานเหมือนนาโต้ เชื่อกันว่าจะมีหลายประเทศในกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้จะส่งทหารมาช่วยรัสเซียรบในยูเครนในฤดูหนาวนี้ รวมท้ังทหารจากจีน เกาหลีเหนือ เชคเชน
ยูเครนกลายเป็นสมรภูมิของสงครามตัวแทน โดยยูเครนได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ อังกฤษ และนาโต้ มีทหารของนาโต้เข้าร่วมรบหลายหมื่นนาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปแลนด์ส่งทหารเข้าช่วยยูเครนมากที่สุดนับหมื่นนาย และทหารโปแลนด์เสียชีวิตมากที่สุดเหมือนกัน ส่วนรัสเซียกำลังระดมความช่วยเหลือจากเพื่อนสมาชิกในกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
สงครามยูเครนจึงจะถึงจุดชี้ขาดในฤดูหนาวนี้ โดยรัสเซียและพันธมิตรจะเริ่มเร่งเครื่องทำสงครามเพื่อยึดยูเครนทั้งประเทศ ข่าวสารจากฝั่งตะวันตกที่ระบุว่า รัสเซียกำลังเพลี้ยงพล้ำ หรือเสียหายหนักจากสงครามยูเครนส่วนมากเป็นข่าวโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อที่จะหลอกประชาชนในประเทศตัวเองว่างบประมาณทหารที่ส่งไปช่วยยูเครนได้ผล ให้ทุกฝ่ายอดทน อีกไม่นานรัสเซียจะแพ้แล้ว เมื่อรัสเซียแพ้ ปูตินจะเสียหน้า หรืออยู่ในอำนาจไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ระบอบเผด็จการของรัสเซียจะถูกทำลายไปในที่สุด และจะไม่เป็นภัยต่อโลกประชาธิปไตยต่อไป เงินช่วยเหลือที่ให้กับยูเครนไม่รู้ว่าถึงมือยูเครน 20% -30% หรือไม่ เพราะว่าผู้ที่ได้ประโยชน์ส่วนมากจะเป็นพ่อค้าขายอาวุธ และนักการเมืองอเมริกันและตะวันตกมากกว่า
รัสเซียมีความพร้อมมากว่าที่จะลากยาวสงคราม เพราะว่ามีพลังงานและอาหารใช้อย่างเกินพอภายในประเทศ สต็อกอาวุธมีการเตรียมการตุนมานานหลายสิบปี ขาดเหลืออะไรสามารถขอความช่วยเหลือจากจีน หรือจากสมาชิกของกลุ่มเจ้าพ่อเซี่วงไฮ้ได้ ที่พร้อมลงขันช่วยรัสเซีย แต่ตะวันตกไม่ได้เตรียมความพร้อมในการทำสงครามระยะยาว ยิ่งสงครามยืดออกไปนานเพียงใด
ผลกระทบที่ย้อนกลับแบบบูมเมอแรงจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากโลกตะวันตกเข้าสู่วงจรขาลงของเศรษฐกิจและการเงินที่เป็นรอบใหญ่ของศตวรรษ ระบบหนี้ที่สร้างขึ้นมารองรับทุนนิยมการเงิน บวกกับหนี้ที่จ่ายไม่ได้ของภาครัฐบาลเข้าใกล้สุดล้มละลาย ทำให้ต้องพิมพ์เงินออกมามหาศาลเพื่อซื้อเวลา แต่การพิมพ์เงินที่ผ่านมาทำให้เกิดเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจขาลงที่เข้าสู่ภาวะรีเซสชั่นจ๊ะเอ๋กับเงินเฟ้อพอดี ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้ทุกอย่างเลวร้ายลง ผลก็คือประชาชนตกลงาน เจอเงินเฟ้อที่สูง ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้ หรือจ่ายค่าไฟ และจะเกิดการขาดแคลนอาหารตามมา เพราะว่ารัสเซีย ยูเครน เบลารุส เป็นผู้ผลิตปุ๋ย และอาหารรายใหญ่ของตะวันตก และจะไม่มีซับไพลให้ในระยะต่อไป
ถ้าหากรัสเซียหยุดซับพลายพลังงาน และอาหารให้ยุโรป และสกัดไม่ให้ยุโรปเข้าถึงพลังงาน และอาหารได้ ยุโรปจะเดี้ยงสนิท ประชาชนอยู่ไม่ได้ เมื่อประชาชนอยู่ไม่ได้จะลุกฮือให้รัฐบาลหันมาดูแลประชาชน แทนที่จะสนับสนุนยูเครน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองในประเทศต่าง ๆ ของยุโรป ทำให้ต้องเลือกข้างว่าจะอยู่อย่างสันติ หรือเป็นมิตรกับรัสเซีย หรือจะเป็นศัตรูกับรัสเซียต่อไป ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจ เงินเฟ้อและการขาดแคลนพลังงาน และอาหารรุนแรงหนักหน่วงขึ้นไปอีก ในฤดูหนาวนี้จะชี้ชะตาสงครามยูเครนโดยตรง และจะชี้ชะตายุโรปทางอ้อมเหมือนกัน ทำให้ยุโรปต้องคิดหนักว่า จะอยู่รอดอย่างไร
อย่างไรก็ตามน่าจับตามองว่า หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับยูเครนบ้าง และผู้นำของเขาจะสามารถรับมือได้หรือไม่ เพราะหากยูเครนพังลง ยุโรป และนานาประเทศที่หนุนหลังอยู่นั้น ก็จะวอดวายไปตาม ๆ กันแบบคาดไม่ถึง
