แบน3สารพิษยังไม่จบ!!! ทำท่าจะพ่นพิษลุกลามไปถึงความเป็นรัฐบาลด้วย เมื่อดูเหมือนว่าตอนนี้ประเด็นดังกล่าวได้ถูกลากโยงให้กลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล 4คนจาก3พรรค ซึ่งแน่นอนว่างานนี้มีเดิมพัน มีหน้าตักราคาที่ต้องจ่าย??? โดย2คนจาก2พรรคจับมือไม่แบน??? ขณะ2คนจาก1พรรคลุยไฟยังไงก็ต้องแบน?!? ดังนั้นแล้วนี่จึงกลายเป็นเกมการเมืองภายในที่กำลังเป็นชนวนร้าวที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง !!!
ก่อนที่จะไปดูกันถึงสาเหตุที่กำลังจะกลายเป็นชนวนเขย่ารัฐบาล ต้องย้อนเรื่องราวไปเพื่อทำความเข้าใจสักนิด โดยขอเริ่มที่!!!
10 ตุลาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดยืนการยกเลิกใช้สารเคมีเกษตร ที่มีกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มคัดค้านเดินทางไปพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ก็ไม่ได้พบ???
“เนื่องจากทั้งสองคนมีอาการป่วยกะทันหันว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งท่าทีนี้ของบิ๊กตู่ก็สอดคล้องกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกถึงข้อห่วงใยเกี่ยวกับปัญหาการต่อต้าน 3 สารพิษว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะจบได้ง่ายๆ ไม่เช่นนั้นไม่ยืดยาวมาหลายปี แต่ก็คงจะจบลงได้เร็วๆนี้ เพราะความคิดเห็นตรงกันหมดแล้ว ตกลงกันได้แล้ว
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ทำให้รัฐมนตรีป่วยถึง 2 คนเลย นายวิษณุ ถามกลับว่า “ป่วยจริงหรือเปล่า แต่เห็นคุณเฉลิมชัย ไอมาตั้งนานแล้ว”
ด้านนางสาวมนัญญา ที่ป่วยปวดศีรษะจนต้องเข้าการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุเพราะผลักดันเรื่องยกเลิก 3 สารพิษ ยืนยันพร้อมลงพื้นที่ตามกำหนดการเดิมในการประชุม 7 รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่จังหวัดพัทลุง ขณะที่เฟซบุ๊กได้โพสต์ภาพ ขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาล พร้อมข้อความว่า “สุภาพสตรีรุ่นนี้ไม่มีอะไรอยู่แล้วพร้อมค่ะ”
9 ตุลาคม 2562 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย พร้อมเกษตรกร ได้ยื่นคัดค้านการยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ขณะที่ทางมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสื่อสนับสนุนให้มีการยกเลิก ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความขัดแย้งของทั้ง 2 กลุ่ม
โดยสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำฯขอเข้าพบนายเฉลิมชัย หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงก็จะมีการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ขณะที่ตัวนายเฉลิมชัย ได้เกิดอาการวูบจึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสุขภาพ ซึ่งไม่ได้มีอาการเครียดหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด แต่มีอาการป่วย มือชา แขนชา และป่วยมาหลายวันแล้ว
และในห้วงเวลานี้เองที่ปรากฏนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัญญาณมาเต็ม สารพิษ 3 ตัวโดนแบนแน่! พร้อมระบุว่า เมื่อวานผมไปคุย “พี่ต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมต.เกษตร สัญญาณชัดเจนไม่ต้องแปล สารฆ่าหญ้า 3 ตัว โดนแบนแน่ๆ! ส่วนที่ผมต้องยกนิ้วให้ คือ พี่ต่อพูดว่า “พี่จะเน้นเกษตรอินทรีย์”
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้ถูกจับเป็นกระแสในช่วงนี้ หากแต่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2562 หลังประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด
โดยได้รับรายงานจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโดยมีสาเหตุจากการได้รับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปี 2562 ที่พบมากถึง 3,067 คน เสียชีวิต 407 คน ซึ่งชัดเจนว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชน
นอกจากนี้นายอนุทิน ยังระบุถึงการบรรจุนโยบายนี้ไว้ในการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย ว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้สารเคมีเหล่านี้ เพราะมีโทษ มีผลร้ายต่อสุขภาพ และยังทำลายคุณภาพดินเสื่อม นี่คือผลกระทบ ยกเว้นเพียงผู้นำเข้าเท่านั้นที่เห็นว่ามีประโยชน์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตัดสินใจไปแล้วว่าไม่เห็นด้วย และไม่มีนโยบายให้นำเข้า ส่วนการยกเลิกสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิด เป็นอำนาจตัดสินใจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นั่นคือเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่จะกลายมาเป็นประเด็นร้อนแรง ซึ่งทำให้สงสัยว่าเวลาผ่านมาหลายเดือนทำไมเรื่องยังไม่จบ!?! ก่อนที่สังคมยิ่งให้ความสนใจเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่นายอนุทิน ที่ออกมาบอกถึงการที่มีการข่มขู่เอาชีวิตนักวิชาการที่ออกมาต่อต้านการใช้สารพิษ ว่า เรื่องนี้จะไม่บานปลาย มั่นใจว่าทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของสวัสดิภาพที่ดีของประชาชน คุณงามความดีเหล่านี้จะมาป้องกันตัวเอง ไม่มีใครทำอะไรได้ คนที่ไปขู่ถือว่า กระจอก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของต้นเรื่องคือกระทรวงเกษตรฯ น.ส.มนัญญา ได้เปิดปฏิบัติการออกตรวจสต็อกสารเคมี มีการเปิดเอกสารแสดงจุดยืนที่สนับสนุนให้จำกัดการใช้ ทำให้เจ้ากระทรวงคือ นายเฉลิมชัย ต้องออกมาประกาศว่าพร้อมยกเลิก หากเป็นมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ซึ่งเรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ ซึ่งเป็นเอกสารที่ลงนามโดย น.ส.ดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื้อหาระบุว่า กรมวิชาการเกษตรได้ส่งหนังสือถึงปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อขอให้พิจารณาให้ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 คือ ห้ามผลิต นําเข้า ส่งออก และจําหน่าย เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยเมื่อหารือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คำตอบที่ได้คือ ให้จำกัดการใช้ไปตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย รวมถึง นพ.ธีระวัฒน์ หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ว่า สวนทางกับรัฐมนตรีคนอื่น รวมถึงน.ส.มนัญญา ที่ประกาศชัดเจนว่า จะยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิดภายในปี 2562 หรือไม่
และ น.ส.มนัญญา เมื่อถูกถามถึงท่าทีของเจ้ากระทรวง ทำให้ต้องเลี่ยงที่จะตอบ โดยพูดเพียงว่า เป็นการตอบแบบผู้ใหญ่ที่คิดรอบด้าน
24 ก.ย. 2562 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ และ น.ส.มนัญญา เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกใช้สารพาราควอต คลอร์ไพรีฟอส ไกลโฟเซต ทันที โดยมี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทั้งนี้นายวัชระ กล่าวว่าขอให้นายกฯและรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯยกเลิกการใช้สารพิษดังกล่าว โดยไม่ต้องใช้มติการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ไม่เปิดเผยข้อมูล เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นสาเหตุให้เด็กไทยทุก 1 ใน 2 คน มีโอกาสเกิดมาพร้อมสารปนเปื้อน ซึ่งเรื่องนี้ นายเฉลิมชัย มีบทบาทและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ห้ามการใช้เคมีทางการเกษตร โดยไม่เพิกเฉยต่อข้อมูลและข้อเสนอแนะของหน่วยงานต่างๆ
กระนั้นจากท่าทีนั้นเองของนายวัชระ ที่ทำให้ศิลปินเพลงชื่อดังอย่าง นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวว่า
….มันก็แปลกนะที่อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ ยื่นหนังสือถึงนายกตู่ เรื่องให้ยกเลิกการใช้สารพิษ ที่แปลกคือรัฐมนตรีเกษตร นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ก็เป็นคนประชาธิปัตย์เช่นกัน แต่คนหนึ่งมีอำนาจแบนกลับไม่แบน อีกคนไม่มีอำนาจอยากให้แบน
สงสัยงานนี้ ปชป.ต้องจับเข่าคุยกันเองเเล้วละครับ ว่าจะเอาผลประโยชน์ตนหรือผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก งานนี้มีสิทธิ์สูญพันธุ์ได้ง่ายๆนะครับทำเป็นเล่นไป จะเลือกตั้งผู้ว่ากทม.เร็วๆนี้ ปชป.อาจชวดก็ได้ถ้าอยากแลกก็เชิญ
22 ตุลาคม 2562 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย นายภานุวัฒน์ ตริยางกรูศรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม และรักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน เพื่อพิจารณาห้ามการใช้หรือแบน 3 สารเคมีทางการทางการเกษตร คือ สารพาราควอต สารไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส หรือไม่
มีตัวแทนเกษตรกรหลายกลุ่มที่คัดค้านการแบน 3 สารเคมีนับร้อยคน เดินทางมารอฟังผลการพิจารณา พร้อมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการเพื่อคัดค้านการแบน 3 สารพิษดังกล่าว ทั้งนี้ ผลการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้มีมติแบน 3 สารพิษ
ต่อ นายภานุวัฒน์ อ่านประกาศจากที่ประชุมพิจารณาเรื่องที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้พิจารณาปรับวัตถุอันตรายพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2562
คณะกรรมการพิจารณาข้อมูล ประกอบกับผลดำเนินการของกระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณาข้อมูลวิธีการและสารทางเลือกจัดการวัชพืช สารทดแทน โดยเห็นว่าสามารถบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติได้ หากยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการ ส่วนผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอข้อมูลความเป็นอันตรายและการเฝ้าระวังสารตกค้างเกษตร นอกจากนี้ได้นำข้อเสนอจากส่วนที่เห็นด้วย และไม่เห็นในการยกเลิกใช้
คณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้ลงมติอย่างเปิดเผยยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี ทั้งพาราควอต ครอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต จากผู้เข้าร่วมประชุม 26 คน “พาราควอต” มีผู้ลงคะแนนให้ยกเลิกใช้ 1 ธ.ค.2562 จำนวน 20 คน มีผู้ลงคะแนนให้ยกเลิกใช้ 1 ธ.ค.2564 จำนวน 1 คน และจำกัดการใช้ 5 คน
สำหรับ “คลอร์ไพริฟอส” มีผู้ลงคะแนนให้ยกเลิกใช้จำนวน 22 คน และจำกัดการใช้ 4 คน สุดท้ายคือ “ไกลโฟเซต” มีผู้ลงคะแนนให้ยกเลิก 19 คน และจำกัดการใช้ 7 คน
หลังที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้ปรับ 3 สารเคมีเกษตรจากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2562 ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร ยกร่างประกาศกฎกระทรวงว่าด้วยบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น และเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย
ขณะ อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานชมรมกลุ่มคนรักแม่กลอง จ.ราชบุรี ระบุจะเดินทางไปยื่นคำร้องขอศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ และจะยื่นคำร้องถอดถอนมติ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาข้อมูลไม่รอบด้านและใช้ข้อมูลเท็จในการแบน 3 สารเคมี
คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกว่าผลโหวตจะออกมาแบนทั้ง 3 สารเคมี เพราะตัวแทนเกษตรฯแพ้ กระทรวงสาธารณสุขมีความชัดเจนตั้งแต่แรก อีกทั้งไม่เคยมีใครได้ยินเสียงสะท้อนจากความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยกระทรวงสาธารณสุขนำข้อมูลไม่สมบูรณ์มาพิจารณาแบนสารเคมี และไม่มีร่างหลักการใดๆมารองรับ
ส่วนนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งมาตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายและส่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับฟังข้อมูลจาก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ น.ส.มนัญญา ไม่ได้ฟังความเห็นจาก 4 ภาคส่วนแล้วประชุมโดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเป็นการขัดคำสั่งนายกรัฐมนตรี
22 ตุลาคม 2562 หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติแบนสารเคมีอันตราย 3 ชนิด นายอนุทินโพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ลงในเฟซบุ๊ก “Anutin Chanvirakul” โดยเป็นภาพตนเอง พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสธ. และผู้บริหาร สธ. ที่อยู่ในท่วงท่ากำลังเต้นออกกำลังกาย พร้อมระบุว่า
“นี่คือ เชียร์ลีดเดอร์ของกระทรวงสาธารณสุข และเขียนขอบคุณที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ลงมติแบนการใช้สารพิษ พร้อมเปิดเผยมติที่ประชุมว่า มีผู้เข้าประชุม 26 คน โดย 1.พาราควอต ลงมติแบน 21 เสียง จำกัดการใช้ 5 เสียง 2.คลอร์ไพรีฟอส ลงมติแบน 22 เสียง จำกัดการใช้ 4 เสียง และ 3.ไกลโฟเซต ลงมติแบน 19 เสียง จำกัดการใช้ 7 เสียง”
“ขอกราบขอบพระคุณและน้อมคารวะต่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายเฉพาะผู้ที่ลงมติแบนการใช้สารพิษด้วยจิตสำนึกที่รักและห่วงใยในคุณภาพชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ประวัติศาสตร์จะจารึกวีรกรรมที่ท่านทำ เพื่อแผ่นดินเกิดในวันนี้เยี่ยงวีรบุรุษของชาติ”
5 พฤศจิกายน 2562 นางสาวมนัญญา เปิดเผยถึงกรณีนายเฉลิมชัย แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและหาสารทดแทน 3 สารเคมีกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ให้ได้ข้อสรุปในเดือนนี้ ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน
“ตนยังไม่ทราบและไม่รู้เรื่องนี้ เพราะยังไม่เห็นหนังสือการแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาฯ รวมทั้งไม่ได้รับเชิญให้เป็นคณะทำงานทั้งที่ตนดูแลกรมวิชาการเกษตร อีกทั้งไม่ทราบว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแบน 3 สารหรือไม่ และคณะทำงานชุดนี้จะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร เพราะในส่วนของกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่ตนดูแลได้เตรียมมาตรการไว้ครบหมดแล้ว
ไม่เคยได้รับการบอกกล่าวเรื่องตั้งคณะทำงานศึกษาฯ ไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่เข้าใจในเมื่อ มนัญญา เป็นคนทำเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ทำไมไม่มอบให้เราทำต่อ
อย่ามาบีบบังคับรัฐมนตรี ใครๆก็มาบีบดิฉันไม่ได้ ที่ผ่านมาโดนถล่มทุกวันให้เอาตัวนั้นตัวนี้มาแทน 3 ตัวนี้ พอพูดชี้แจงไปก็จะพูดไปอีกทาง เพื่อหาทางหาช่องกันไปเรื่อย ไม่จบ ขอโทษนะคะ ก็ต้องลองกินดูสิคะว่าตัวไหน สารตัวไหนกินแล้วตายก็เอาตัวนั้นไหม” น.ส.มนัญญา กล่าว
24 พฤศจิกายน 2562 น.ส.มนัญญา เปิดเผยว่าวันที่25พ.ย.จะสั่งการให้กรมวิชาการเกษตร ทำหนังสือชี้แจงโดยด่วนถึงข้อเสนอยืดเวลาบังคับใช้ในการจัดเก็บคืนสารเคมีวัตถุอันตราย ออกไปอีก180วัน หรือ 6 เดือนว่าจริงหรือไม่ โดยอ้างว่ามีสตอกเหลือกว่า2.8หมื่นตัน หลังจากที่มีการประกาศแบน3สาร วันที่1ธ.ค.62
ทั้งนี้ น.ส.มนัญญา กล่าวอีกว่า ไม่รู้จะนำเรื่องยืดเวลา6เดือน เข้าคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่จะประชุมวันที่ 27พ.ย.นี้ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน หรือไม่ จึงต้องเรียกหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรมวิชาการเกษตร มาถึงตนเอง
25 พฤศจิกาย 2562 น.ส.มนัญญา ยืนยันไม่ว่าวันที่ 27 พ.ย.นี้ คณะกรรมการวัตถุอันตราย จะประชุมเพื่อรับรองมติ 22 ต.ค. 2562 หรือ จะมีการกลับมติ ก็จะให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าต่อไป เพราะเป็นการช่วยเหลือสมาชิกในการทำการเกษตรและลดการใช้สารเคมีในระยะยาว เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล
ขณะนี้ มีความสับสนเรื่องการแบนสารว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯในส่วนหน่วยงานที่ดูแล กำลังเดินหน้าชี้แจงแนวปฏิบัติเพื่อให้มีการจัดเก็บสารเคมี ก็มีข่าวว่ากระทรวงเกษตรฯโดยกรมวิชาการเกษตร ออกมาพูดเรื่องจะเลื่อนการแบนสารเคมีฯ จึงได้มีคำสั่งให้กรมวิชาเกษตรทำหนังสือชี้แจง
นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องที่สับสน คือ กรณี นายสุริยะให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะมีการทบทวนมติเช่นกัน ทำนองว่าอาจมีการเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก 6 เดือน
“รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกมาสื่อสารอาจจะเลื่อนการแบน ต้องเป็นเรื่องที่ท่านต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ ว่ามีเหตุผลอย่างไร จึงต้องเลื่อนจากครั้งแรกที่มีมติแบน มาประชุมครั้งที่สองมีอะไร ถึงมาเลื่อนด้วยคำพูดตนเอง กระทรวงเกษตรฯได้ทำสิ่งรองรับไว้หมดแล้ว” น.ส.มนัญญา กล่าว
ทั้งนี้เมื่อถามว่าจะหารือกับ นายสุริยะ หรือไม่ ถึงท่าทีที่ได้ส่งสัญญาณจะเลื่อนการแบน น.ส.มนัญญา กล่าวว่าคงไม่ต้องคุยกับนายสุริยะ เพราะงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของใคร ก็ต้องให้เกียรติเขาทำงาน ด้วยไม่ชอบก้าวก่ายใคร แต่ทุกคนพยายามเข้ามาก้าวก่ายการทำงานเรา และไม่ชอบให้เข้ามา ซึ่งควรต้องให้สิทธิกันในการทำงานกัน
26 พฤศจิกายน 2562 เครือข่ายเกษตรกรหลายกลุ่ม แต่งชุดดำมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการแบน 3 สารเคมี เนื่องจากผลประชาพิจารณ์ชัดเจน 75% คัดค้านและกรรแบนสารดังกล่าว ส่งผลกระทบ ในวงกว้าง
ทั้งนี้ ในส่วนกลุ่มเครือขายอาสาแม่กลอง เสนอ ให้เวลา นายอนุทิน ถึง 15.00 น.วันนี้ นำข้อมูลสารตกค้าง ผลผลิตทางการเกษตร ที่ จ.ราชบุรี มาแสดงหลักฐานตามที่มีการแถลงไว้ หากไม่สามารถนำหลักฐานดังกล่าวมาแสดง นั่นย่อมหมายความว่าผลการตกค้างในผักและผลไม้เป็นเท็จ
นอกจากนั้น เรียกร้องให้ น.ส.มนัญญา หยุดปฎิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ที่สร้างความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศ จนนำมาสู่การชุมนุมคัดค้านในวันนี้
26 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน กล่าวถึงกรณี 9 องค์กรเกษตรกร แต่งชุดดำยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ คัดค้านแบน 3 สาร โดยให้กลับไปใช้มติเดิม คือกำจัดการใช้สารเคมีวัตถุอันตรายทางเกษตรวันเดียวกันนี้ว่า ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งอะไร และเรื่อง 3 สารเคมีทางการเกษตรก็ยังเป็นไปตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ประชุมไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
ชัดเจนแล้วว่าทั้ง 3 สารจะต้องหยุดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนคณะกรรมการดังกล่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ส่วนที่จะให้ขยายเวลาจากวันที่ 1 ธ.ค.ออกไปมีการพูดคุยกันหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ เพียงแต่กระทรวงสาธารณต้องมีจุดยืนในมติของสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก
เมื่อถามย้ำว่านายสุริยะ เรียกประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาแบน 3 สารเคมีในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ถ้ามีการเปลี่ยนมติจากเดิมสามารถทำได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยออกมาประกาศว่าหากคณะกรรมการฯโหวตสวนแนวทางพรรค รัฐมนตรี 7 คนในส่วนของพรรคจะลาออก
ซึ่งนายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ และเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ หรือ พลังประชารัฐ (พปชร.) แต่เป็นเรื่องของสุขภาพของประชาชน ยืนยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง อย่าเอาการเมืองมาแลกกับชีวิตของประชาชนโหดร้ายเกินไป
ชัดเจนเรื่องนี้ เกี่ยวการเมืองแน่นอนแม้อนุทินแห่งภูมิใจไทย จะบอกว่าไม่เกี่ยว จับสัญญาณจากคำพูดของมนัญญา น้องสาว ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ส่งไปยังสุริยะแห่งพลังประชารัฐ มินับท่าทีของเจ้ากระทรวงเกษตรฯอย่างเฉลิมชัย ค่ายประชาธิปัตย์
นี่คือเรื่องของคนในพรรคร่วมรัฐบาลที่กำลังระอุกรุ่น อันเนื่องจากการแบนสารพิษที่ทำท่าพ่นพิษลุกลามกลายเป็นการเมือง!?! สี่คนสามพรรค และน่าสนใจว่าจะเป็นชนวนร้าวลึก พุ่งเขย่านาวารัฐบาล ให้เรือเหล็กแค่โคลงเคลงหรือพลิกคว่ำ ?!?