สถานการณ์ล่าสุดในยูเครนคือหนาวเหน็บและมืดมิด ความจริงรัสเซียเพิ่มแรงกดดันต่อยูเครนตั้งแต่วันที่ ๑๐ ตุลาคมที่ผ่านมาหลังเคียฟระเบิดสะพานไครเมีย รัสเซียซัดเคียฟว่าใช้“กลยุทธ์การก่อการร้าย”และพุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย ไม่เว้นการก่อวินาศกรรมในเมืองชายแดนเป็นระยะ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กองทัพรัสเซียจึงเปิดปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อโรงงานพลังงานของยูเครน ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าส่งผลไฟดับทั่วประเทศท่ามกลางความหนาวเหน็บที่แผ่ไปทั่ว ทางการเคียฟกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนอย่างน้อย ๔๐% ถูกทำลายไปแล้ว
ล่าสุดทำให้เซเลนสกี้ออกมาวอนUNขอให้ช่วยอีกรอบ ขณะที่รมว.ต่างประเทศอออกมาแยกเขี้ยวตำหนิสหภาพยุโรปว่า ไม่ยอมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเรียกร้องให้ดำเนินการทันที ดูเหมือนยูเครนจะยิ่งใหญ่คับฟ้าทั้งลูกพี่และพรรคพวก สั่งอียูก็ได้สั่งยูเอนก็ได้บ่งบอกว่าแบ็คอัพของยูเครนใหญ่คับโลกยิ่งกว่าจริงหรือไม่??
วันที่ ๒๔ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์ รายงานว่ามีรายงานกองทัพรัสเซียโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในยูเครนทั่วประเทศ บริษัทยูเครเนอร์โก(Ukrenergo) ผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าแห่งชาติของยูเครนรายงานว่า ไฟฟ้าดับฉุกเฉินได้เกิดขึ้นในทุกภูมิภาค เป็นผลมาจากการโจมตี
นายกเทศมนตรีเคียฟ วิทาลี คลิทช์โก กล่าวว่า มีการระเบิดในหลายพื้นที่ของเมือง และน้ำประปาถูกตัดขาด การขาดแคลนพลังงาน
จากข้อมูลของรัฐบาลทหารของเคียฟ ระบบป้องกันภัยทางอากาศได้พุ่งเข้าใส่อาคารที่พักอาศัย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๓ คน และบาดเจ็บอีก ๖ คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นขีปนาวุธของรัสเซียหรือยิงโดยการป้องกันทางอากาศของยูเครนด้วยระบบNASAMS ของสหรัฐฯ จากสื่อเทเลแกรมรายงานว่าอาคารที่พักอาศัยถูกระบบป้องกันภัยของยูเครนยิงพลาดเป้าหมายเอง
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ทั่วทั้งเขตโอเดสซาไม่มีไฟฟ้าใช้ท่ามกลางการโจมตี นายกเทศมนตรี เมืองคาร์คอฟกล่าวว่า เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ระบบรถไฟใต้ดินเป็นอัมพาตเนื่องจากไฟฟ้าดับ โดยผู้คนถูกอพยพไม่อาจใช้บริการ
ตามรายงานของสื่อยูเครน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครนตอนใต้ในเมืองนิโคเลียฟ (Nikolaev) ถูกบังคับให้ปิดเครื่องปฏิกรณ์ทั้งหมด โรงงานแห่งนี้กลายเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน รองจากเขตซาโปริชเชีย (Zaporozhye) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporozhye ภูมิภาคนี้ได้เข้าร่วมกับรัฐรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้วอันเป็นผลมาจากการลงประชามติ
ทางการท้องถิ่นยังยืนยันการหยุดเดินเครื่องปฏิกรณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คเมลนิตสเกีย(Khmelnytskyi) ทางตะวันตกของยูเครน สรุปว่ามีการหยุดทำงานและไฟฟ้าดับในลวีฟ,นิโคเลียฟ,คเมลนิตสเกีย} ซูมี และสถานที่อื่นๆ (Lviv, Nikolaev, Khmelnytskyi, Sumy)
มอลโดวาที่อยู่ใกล้เคียงก็ประสบกับภาวะขาดแคลนพลังงาน อันเป็นผลมาจากการโจมตีของรัสเซียในยูเครน ระบบพลังงานของประเทศเชื่อมต่อกับยูเครน เกิดเหตุไฟดับในเมืองหลวงคีชีเนาและส่วนอื่นๆ ของประเทศ โดยภูมิภาคที่แตกแยกของทรานส์นิสเตรียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ด้านยูเครน ยิ่งกำลังเสียเปรียบทั้งการศึกและเศรษฐกิจก็ยิ่งอารมณ์เสีย รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิทรี คูเลบา (Dmitry Kuleba) ออกมาเฉ่งอียูซะเลย
เขากล่าวว่า “ความล่าช้าในการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สหภาพยุโรปต้องละทิ้งข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยว และเดินหน้าคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียครั้งใหม่ ต้องคว่ำมอสโกว์ให้หนักเป็นสองเท่าด้วยข้อจำกัดใหม่ที่จะจำกัดอุตสาหกรรมขีปนาวุธด้วย”
เขาเรียกร้องให้สหภาพยุโรปให้ความสำคัญกับการคว่ำบาตรที่ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของรัสเซียในการผลิตขีปนาวุธ ซึ่งมอสโกว์ใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน
หลังจากนี้รัสเซียจะตัดสินใจอย่างไรอาจคาดเดาได้จากคำกล่าวของแกนนำระดับสูงของมอสโกว์ได้
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวว่า “รัสเซียไม่ได้คิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในเคียฟ อันเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางทหาร เขาย้ำว่ามอสโกว์ไม่ได้ตัดการเจรจาสันติภาพกับยูเครน แต่เป้าหมายของรัสเซียสามารถบรรลุได้ด้วยวิธีการต่างๆ และในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรัสเซียจะประสบความสำเร็จในที่สุด”
วาซิลี เนเบนยา(Vasily Nebenzya) ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “รัสเซียจะดำเนินการต่อไปเพื่อบั่นทอนศักยภาพทางทหารของยูเครน จนกว่าเคียฟจะเต็มใจในการเจรจา”
นักการทูตรัสเซียระบุว่า “กองกำลังรัสเซียกำลังพุ่งเป้าไปที่ สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนเพื่อตอบโต้ต่อเหตุที่อาวุธตะวันตกถูกส่งมารบกับรัสเซียท่วมยูเครน รวมทั้งการเรียกร้องให้เคียฟเอาชนะรัสเซียอย่างไร้ความปราณี” “จนถึงตอนนี้ สิ่งที่เราได้ยินจากนายเซเลนสกี้ และพันธมิตรของเขาสามารถตีความได้ว่าไม่ใช่เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อสันติภาพ แต่เป็นภาษาของการคุกคามและการยื่นคำขาดโดยประมาท ผู้สนับสนุนชาวตะวันตกของเคียฟสนับสนุนแต่แนวทางที่ขาดความรับผิดชอบ เนื่องจากพวกเขาสนใจที่จะทำสงครามตัวแทนในดินแดนยูเครนจนถึงชาวยูเครนคนสุดท้าย เพราะทำให้พวกเขาได้รับผลกำไรจำนวนมหาศาล และเป็นการทดสอบอาวุธของนาโต้ด้วย”
“ด้วยวิธีนี้ กลุ่มประเทศตะวันตกกำลังพยายามสร้างอำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์โดยแลกกับชีวิตของชาวยูเครนทั้งหมด”!!!