หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 ตำรวจตุรกีเปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนอิสติกลัล บริเวณจัตุรัสทักซิม ใจกลางนครอิสตันบูล ของตุรกี นาทีที่เกิดเหตุระเบิดโจมตีรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ศพ บาดเจ็บ 81 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. ของวันที่ 13 พ.ย. 2565 ตามเวลาท้องถิ่น โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นคนวางระเบิดแต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
โดยนายอาลี เยอร์ลิคายา ผู้ว่าการนครอิสตันบูลระบุว่า ยังไม่ได้สรุปสาเหตุการระเบิดครั้งนี้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด ทางด้านรองประธานาธิบดีฟ๊วต อ็อกเตย์ ของตุรกีออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและเขาตั้งข้อสังเกตว่าการระเบิดครั้งนี้ อาจเชื่อมโยงการก่อการร้าย ซึ่งทางตำรวจกำลังตามหาผู้หญิงสวมชุดสีดำคนหนึ่งที่ปรากฏภาพในคลิปวิดีโอในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุ ขณะที่รัฐมนตรียุติธรรมเปิดเผยการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า มีผู้หญิงรายหนึ่งมานั่งที่ม้านั่งริมถนนเป็นเวลานาน 40 นาที และเพียง 1 นาทีหลังจากนั้นก็ได้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง ขณะที่ล่าสุดทั่วทั้งนครอิสตันบูล มีการวางกำลังเสริมรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดขึ้น ก่อนจะมีเบาะแสบางอย่างเชื่อมโยงไปยังกลุ่มก่อเหตุ ที่คาดการณ์ว่าอาจจะมีสหรัฐฯให้การหนุนหลังอยู่ด้วย
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้รายงานว่า ตุรกี ถล่มศูนย์ฝึกสหรัฐ! ในอิรักและซีเรีย ส่วนรัสเซียช่วยปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศปี 1946 ชาวเคิร์ด พยายามจัดตั้งดินแดนของตัวเองเป็นสาธารณรัฐมาฮาบัด แต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาในอิรักจัดตั้งเขตปกครองตนเองท้องถิ่นเคอร์ดิสถาน ขึ้นกับรัฐบาลกลาง แต่ก็มีชาวเคิร์ดเป็นชนกลุ่มน้อยกระจายตัวอยู่ใน 4 ประเทศ คือ อิรัก ซีเรีย อิหร่าน และตุรกี (ทูร์เคีย) แล้วถูก ถูกหลอกใช้ โดยเฉพาะชาติมหาอำนาจตะวันตกที่ขอให้ชาวเคิร์ดช่วยรบในพื้นที่
สนับสนุนจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ โดยสัญญาว่าจะมายืนเคียงข้างเสมอ ให้ดินแดน อำนาจปกครองตนเอง หรือความคุ้มครองเป็นการตอบแทน ชาวเคิร์ดบางกลุ่มจึงเรียกร้องแยกดินแดนแยกเอกราช รัฐบาลกลาง จึงมองกลุ่มหัวรุนแรงพวกนี้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ จึงปราบปรามอย่างเด็ดขาด มาตลอด
เขตเคอร์ดิสถาน อยู่ทางทิศเหนือของอิรัก มีชายแดนติดต่อกับซีเรีย ตุรกี และอิหร่าน แบ่งเขตปกครองย่อยคือ 3 เขต มีเมืองอัรบีลเป็นเมืองเอก สหรัฐฯ ได้เข้าไปตั้งฐานทัพ โดยฝึกและติดอาวุธให้กับกลุ่มติดอาวุธกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย SDF , YPG กองกำลังของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (Kurdistan Workers’ Party – PKK) น้ำมันที่สหรัฐฯ โขมยไปจากซีเรียนี้ขนข้ามชายแดนไปยังดินแดนเคิร์ด ทำการกลั่นแล้วส่งออกทางเรือไปขายยังตลาดยุโรป และขนกลับบ้าน
ตุรกีขึ้นทะเบียนกลุ่มเคิร์ด PKK เป็นผู้ก่อการร้าย เนื่องจากลอบโจมตีตุรกีมาตลอดราว 4 ทศวรรษ ต่อรองแยกเอกราชดินแดน 40,000 ตร.กม. ออกจาก 4 ประเทศ คือ อิรัก ซีเรีย อิหร่าน และทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีเป็นอิสระ กลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธ YPG ของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ได้ก่อการร้ายวางระเบิดในกรุงอิสตันบูล ตุรกี มีพลเรือนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 80 ราย โดยตำรวจจับมือวางระเบิดหญิงได้พร้อมเครือข่ายสมคบคิดกระทำผิดรวม 52 ราย ผลการสอบสวนผู้ต้องหา มีเกี่ยวโยงการสั่งการ และเส้นทางการเงินกับชาติตะวันตก ทำให้ตุรกี หัวร้อนมาก ที่ถูกหักหลังและลูบคม จึงเปิดปฏิบัติการทางทหาร “กรงเล็บดาบ” ไฟเขียวจากรัสเซีย ปิดระบบต่อต้านอากาศยานบางจุด น่านฟ้าซีเรียที่รัสเซียควบคุมได้ถูกเปิดให้เครื่องบินรบตุรกีเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
วันที่ 20 พ.ย. ตุรกีใช้เครื่องบินกว่า 50 ลำ , โดรน 20 ลำ , ขีปนาวุธ โจมตีหลายระลอกต่อที่มั่นของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ทางตอนเหนือของอิรักและซีเรียโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของสหรัฐฯ สำหรับฝึกกลุ่มติดอาวุธ SDF ของชาวเคิร์ดในจังหวัดฮาซาคาห์ และเมืองอเลปโป ซีเรีย ส่งผลผู้ก่อการร้ายเป็นปุ๋ย 184 ราย กระทรวงกลาโหมตุรกี ระบุว่า “จะโจมตีต่อไปจนกว่าผู้ก่อการร้ายคนสุดท้ายจะถูกทำลาย” ตุรกี ที่เป็นชาติ NATO บอกว่าปฏิบัติการทางทหารของตนถูกสหรัฐฯ ถอดรหัสได้ จึงมีขึ้นก่อนกำหนดการจริง 1 วัน เพื่อดัดหลังพวกผู้ก่อการร้ายให้ตั้งหลักไม่ทัน การโจมตีนี้ไม่เกี่ยวกับชาวเคิร์ดท้องถิ่นส่วนใหญ่ ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มติดอาวุธที่สหรัฐฯ หนุนหลัง เพราะแม้พวกเขาจะเป็นคนสัญชาติใดก็แค่ต้องการทำมาหากินอย่างสงบ ไม่ได้ต่อต้านรัฐบาล
สหรัฐฯ เปิดศึกหลายด้านทั้งไต้หวัน เกาหลี ยูเครน ซีเรีย ฯลฯ และความขัดแย้งรอบใหม่กับตุรกี ที่เป็นชาติ NATO ด้วยกันกำลังเริ่มขึ้น ฐานทัพรัสเซีย ในซีเรีย ที่ปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศไฟเขียวให้ตุรกี กำลังจิบว๊อดก้า เฝ้าดู NATO ตีกันเองอย่างห่วง ๆ อยู่ห่าง ๆ ให้กำลังใจตุรกี สู้มือมืดชักใยผู้ก่อการร้ายต่อไป ชนะแน่นอน
