หลังจากที่ผู้อำนวยการหน่วยงานนิวเคลียร์ของยูเอ็น ส่งเสียงเตือนเข้ม ออกมาเตือนว่าฝ่ายใดก็ตามที่โจมตี “โรงไฟฟ้าซาโปริซเซีย” อยู่ กำลัง “เล่นกับไฟ” และควรหยุดทันที พร้อมประกาศเตรียมส่งทีมไปตรวจสอบความเสียหาย ขณะเดียวกัน “เซเลนสกี” ระบุ รัสเซียโจมตีที่มั่นของทหารยูเครนตลอดแนวรบด้านตะวันออกเกือบ 400 ระลอก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา และมีการสู้รบหนักหน่วงที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคว้นโดเนตสก์
ล่าสุดดูเหมือนว่า กลุ่มยุโรป จะเริ่มใจคอไม่ดี ออกมาตำหนิยูเครนว่า “หยุดความบ้าคลั่งได้แล้ว” ต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่กำลังทำอยู่ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ จะเกิดหายนะใหญ่ได้ โดยในเพจเฟซบุ๊ก World Update ได้รายงานว่า ยุโรป ใจคอไม่ดี! ตำหนิยูเครน “หยุดความบ้าคลั่งได้แล้ว” ต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แคว้นซาโปริซเซีย เป็น 1 ใน 4 แคว้นที่ลงประชามติแยกเอกราชออกจากยูเครน แล้วขอไปเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย และได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ
โดยในแคว้นนี้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเซีย ตั้งอยู่ที่เมืองเอเนียร์กอร์ดาร์ และมีบริษัท Rosatom รัฐวิสาหกิจรัสเซีย บริหารงาน มีเจ้าหน้าที่จากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) สหประชาชาติ (UN) ประจำการคู่กับเจ้าหน้าที่รัสเซีย
แต่ด้วยโรงไฟฟ้าแห่งนี้อยู่ใกล้ชายแดน ทำให้ถูกกองทัพยูเครนยิงจรวด ปืนใหญ่ และปล่อยโดรน มาระเบิดใส่บ่อยครั้ง เสี่ยงเกิดหายนะใหญ่ต่อยุโรป ในอดีตยูเครน เคยทำให้เกิดเหตุกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ทิศเหนือเมืองหลวงกรุงเคียฟ มาแล้ว ทาง IAEA ของ UN ขอร้องห้ามปรามรัฐบาลยูเครน ว่าอย่าสั่งยิงอาวุธใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ เพราะจะเกิดภัยพิบัติใหญ่กับมนุษยชาติ ทางยูเครน ก็หยุดยิงไปพักหนึ่ง
ทางบริษัท Rosatom รัสเซีย จึงหารือกับ IAEA แล้วสั่งปิดโรงไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยไปกว่า 1 เดือน ช่วงนี้หลายวันติดต่อกัน ยูเครนกลับมายิงปืนใหญ่และจรวดใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์รอบใหม่ จนมีระเบิดตกใส่ถังหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์ เกิดน้ำรั่วไหลออกมา และยิงไปใส่โรงเก็บกากนิวเคลียร์ สิ่งนี้มีความเสี่ยงจะเกิดหายนะต่อทวีปยุโรปตะวันออก ลามไปถึงเยอรมนีได้ ถ้าฝุ่นกัมมันตภาพรังสีถูกลมพัดพาไป นาย Alexei Likhachev ผู้อำนวยการทั่วไปของ Rosatom ระบุว่าใช้เวลายาวนานหลายชั่วโมงในการเจรจากับ IAEA เกี่ยวกับสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฯ ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุร้ายได้
ล่าสุดนายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ของสหประชาชาติ ออกมาแถลงประณามการยิงปืนใหญ่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับตำหนิอย่างรุนแรงว่า “หยุดความบ้าคลั่งนี้ได้แล้ว” โดย IAEA ขอร้องให้ยุติการใช้อาวุธโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียทันที ก่อนจะเกิดหายนะ
หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ IAEA ที่ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้านี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก Rusatom เก็บได้จากที่เกิดเหตุระเบิด ก็คือ “ซากลูกปืนใหญ่ และจรวด” ของฝ่ายยูเครน เหตุเพราะเป็นอาวุธที่ผลิตจากชาติตะวันตก ที่ส่งมาให้ยูเครน จึงมีเลข Serial number ติดซากอาวุธ ซากวัสดุ ประเภท วัสดุ ลูกระเบิด ต่างจากที่ผลิตจากรัสเซีย อย่างสิ้นเชิง
ภัยคุกคามร้ายแรงชาวยุโรป ก็คือ อาวุธลูกปืนใหญ่ และจรวด ที่ส่งมาให้ยูเครน แล้วนำไปยิงโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ จนเสี่ยงจะเกิดเหตุฝุ่นกัมมันตภาพรังสี พัดย้อนกลับไปหาชาวยุโรปเสียเอง..อาวุธชาวยุโรปเอง ทำตนเอง รับเคราะห์เองแน่นอน
