ซาอุฯประกาศอยู่เคียงข้างไทย ลงทุนศูนย์คลังเก็บน้ำมันดันเป็นแหล่งพลังงานเอเชีย มอบทุนนร.-นศ.ให้ทุกปี

0

จากที่นายกฯ เข้าเฝ้าฯ หารือกับมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย พร้อมต่อยอดความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในทุกด้าน โดยซาอุดีฯย้ำพร้อมอยู่เคียงข้างไทยในทุกโอกาสนั้น

ทั้งนี้เมื่อวันที่18 พฤศจิกายน 2565 เวลา 22.40 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าเฝ้าฯ หารือทวิภาคีกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และ ในฐานะแขกพิเศษของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565

โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญบางส่วนว่า

ทั้งสองฝ่ายได้หารือ และติดตามผลการดำเนินการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ และการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่มีศักยภาพระหว่างกัน ดังนี้

ด้านความร่วมมือทวิภาคี การเชิญซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 ในฐานะแขกพิเศษ โดยเห็นถึงการมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นการแสดงถึงความจริงใจของไทยที่จะร่วมส่งเสริมความร่วมมือทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ที่ไทยสามารถเป็นหุ้นส่วนของซาอุดีอาระเบียในภูมิภาคได้

โดยต่างยินดีที่ไทยและซาอุดีฯ มีการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดทำแผนการขับเคลื่อนและส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย – ซาอุดีอาระเบีย

บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดีฯ – ไทย เพื่อเป็นรากฐานในการดำเนินการส่งเสริมความร่วมมือและเป็นกลไกติดตาม ซึ่งผู้นำทั้งสองต่างขอให้นำแผนดังกล่าวไปปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

ด้านเศรษฐกิจ ไทยย้ำความพร้อมที่จะสนับสนุนในด้านความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ (Mega-projects) ต่าง ๆ ในซาอุดีอาระเบีย

รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่ไทยพร้อมร่วมมือในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย (Saudi Vision 2030) ซาอุดีฯ สีเขียวและตะวันออกกลางสีเขียว และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของไทย

ซาอุดีฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนในไทย ซึ่งด้วยวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบียจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทย และภาคเอกชนของไทยในการส่งเสริมการค้า การลงทุนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

โอกาสนี้ ไทยและซาอุดีฯ ยังเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงาน โดยไทยพร้อมร่วมกับซาอุดีฯ ขับเคลื่อนความร่วมมือตามเอกสาร White Paper ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และในด้านแรงงาน ทั้งสองฝ่ายมุ่งกระชับความร่วมมือ โดยซาอุดีฯ มองว่า แรงงานไทยถือเป็นแรงงานที่มีฝีมือติดอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมได้เชิญชวนแรงงานไทยให้ไปทำงานที่ซาอุดีฯ ซึ่งจะมีโอกาสที่ดีสำหรับแรงงานไทยอีกมาก

ด้านสังคม และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ไทยยินดีที่การเดินทางไปมาระหว่างกันมีความสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณฝ่ายซาอุดีฯ สำหรับทุนการศึกษาประจำปีแก่นักเรียนและนักศึกษาของไทย หวังว่าจะมีความร่วมมือกันมากขึ้น

พร้อมได้กล่าวเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา ในสาขาอาหารและโภชนาการ (อาหารฮาลาล) การเกษตร ปิโตรเคมี การก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิต

ขณะที่ Blockdit World Update ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเกี่ยวกับการหารือระหว่างนายกฯไทยกับเจ้าชายซาอุฯไว้บางช่วงที่น่าสนใจว่า

“ที่น่าจับตา คือ ซาอุดิอาระเบีย เป็นชาติมหาอำนาจทางพลังงานในกลุ่ม OpecPlus ผลที่จะเกิดขึ้นจากการมาเยือนของเจ้าชายในครั้งนี้ คือการลงนามความร่วมมือบนเวทีประชุม APEC 2022 ระหว่างไทย- ซาอุดีอาระเบีย ผ่านเอกสาร 3 ฉบับ

ทำเลที่ตั้งประเทศไทยนั้นเยี่ยมยอดทั้งท่าเรือฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ซาอุฯ จึงมีแผนจะมาลงทุนสร้างศูนย์กลางคลังจัดเก็บน้ำมันดันให้ไทยเป็นฐานพลังงานที่สำคัญในอาเซียน และเอเชียตะวันออก

คนไทยยินดีต้อนรับมหามิตร มกุฎราชกุมาร มุฮัมมัด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ และเกษมสำราญในเมืองไทยเมืองแห่งสันติสุข มิตรไมตรี และศิลปวัฒนธรรมเอกลักษณ์ชาติที่มีหนึ่งเดียวในโลก”