จากกรณีหลายประเทศในยุโรปต่างพากันคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ท้ายที่สุดผลกระทบกลับทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำ ประชาชนเดือดร้อน แล้วพากันออกมาประท้วงลุกลามไปทั่วยุโรปนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงเหตุการณ์ประท้วงในสหรัฐว่า
“ถึงคิวประชาชนลุกขึ้นประท้วงรัฐบาลในสหรัฐอเมริกาเพราะข้าวของแพงบ้างแล้ว : พนักงานที่ทำงานในระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกาประมาณ ๔๘,๐๐๐ คน
ออกมาประท้วงรัฐบาลอเมริกาเพราะค่าครองชีพสูง ไม่สามารถจะจ่ายค่าเช่าได้แล้ว ต่อไป จะมีคนประท้วงรัฐบาลอเมริกาไม่ต่างอะไรเลยจากที่ประท้วงกันในยุโรปหลายๆ ประเทศในขณะนี้
ชาตินักล่าอาณานิคมกำลังล่มสลายครับ หลังจากทุ่มเทเอาเงินไปก่อสงคราม สังหารผู้คนและทำลายชาติบ้านเมืองผู้คนในหลายๆ ทวีปมามากแล้ว ได้เวลากรรมสนอง อีกสักพัก นักศึกษามหาวิทยาลัยในรัฐอื่นๆ จะทยอยลุกขึ้นประท้วงรัฐบาลครับ”
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ของอังกฤษ โดยระบุจากแหล่งที่มาไว้มีความน่าสนใจบางช่วงว่า
ส่งผลให้รถไฟใต้ดิน 9 จาก 11 สาย กว่า 81% จอดสงบนิ่งไม่ให้บริการเดินทางกับผู้คนหลายล้านคน ผู้โดยสารในลอนดอนเดือดร้อนมาก จะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ก็บอบช้ำกับเงินในกระเป๋าเกินไป ต้องหันไปยืนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อขึ้นไปอัดแน่นเป็นปลากระป๋องบนรถเมล์เพื่อเดินทางสัญจร ทำให้ปริมาณรถเมล์น้อยเกินไปไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสาร วุ่นวายอลหม่านไปหมด
สหราชอาณาจักร ยังกำลังเผชิญกับคิวการโจมตีระลอกใหม่จากการคว่ำบาตรรัฐบาล นัดหยุดงานของพนักงานขนส่งอื่น แล้วตามด้วยอีกหลายภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่อีกหลายแสนคนจากมหาวิทยาลัยในอังกฤษกว่า 150 แห่ง
ได้วางแผนการณ์โจมตีขย่มเสถียรภาพรัฐบาลให้สั่นคลอนง่อนแง่นครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่จะมาถึง โดยจะมีพยาบาลหยุดงานมาร่วมสบทบอีก 300,000 คน ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร
นายกรัฐมนตรีริชซี ซูนัค ที่อดีตเป็นนักเศรษฐศาสตร์มือดี ก็ยังมืดแปดด้านแก้ไม่ตก จึงยังไม่ได้เสนอวิธีแก้ปัญหาใดๆ อย่างเป็นรูปธรรมให้ชาวอังกฤษพึงพอใจ แต่รัฐบาลยังคงสาละวนกับการเดินตามสหรัฐฯ เพื่อให้กู้เงินและอาวุธทางทหารแก่ยูเครน และตอบโต้กีดกันจีน