“ผู้นำต้องรู้ว่าคุยส่วนตัวไม่ควรปูดข้างนอก” เป็นคำพูดของผู้นำจีนที่สอนมารยาทแก่ผํู้นำแคนาดา ที่ตั้งหน้าตั้งตารับใช้วอชิงตันโดยไม่สนใจจริยธรรมใดๆ อดีตสั่งกักตัวซีอีโอหัวเหว่ยตามคำขอสหรัฐ โดยไม่มีหลักฐานเอาผิด กักขังถึง ๓ ปีต้องปล่อยและไม่มีแม้คำขอโทษ
มาประชุมจี-๒๐ นายกรัฐมนตรีทรูโด้แห่งแคนาดา เที่ยวไปทักทายผู้นำประเทศต่างๆ พยายามสร้างภาพก่อนหน้านี้สื่อโซเชียลเคยเผยแพร่ภาพ ผู้นำบราซิลไม่ยอมจับมือด้วยมาก่อนแล้ว มาวันนี้เจอ ปธน.สี จิ้นผิง และเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนฉะผู้นำต่างประเทศแบบต่อหน้า ซึ่งคงเหลืออดต่อพฤติกรรมไร้มารยาทการทูตระหว่างประเทศของคนนี้ ชอบเอาเรื่องคุยเฉพาะภายในไปเที่ยวปูดให้สื่อไปละเลง แน่นอนว่าทรูโด้ยังเถียงว่าประเทศเขานิยมเสรีและเปิดเผย สีเลยเดินหนี
แคนาดากลายเป็นประเทศที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง แสดงจุดยืนความเป็นบริวารของสหรัฐอย่างโจ่งแจ้ง ตั้งแต่ทรูโด้เข้ามากุมบังเหียน หลับหูหลับตาทำตามวอชิงตันอย่างเดียว ไม่สนใจกระแสคัดค้านจากภาคธุรกิจและภาคสังคมของประเทศตนแต่อย่างใด วันนี้ก็ต้องเผชิญปัญหาเงินเฟ้อกระฉูดไม่ต่างจากประเทศยูโรโซนทั้งหลาย ยังทำกร่างกับจีนไม่เลิก ไม่รู้ว่าจีนจะทนคบหาไปได้อีกสักกี่น้ำ
วันที่ ๑๗ พ.ย.๒๕๖๕ สำนักข่าวแชลแนลนิวส์เอเชียและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน แสดงความไม่พอใจและได้ตำหนินายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด้ ผู้นำของแคนาดาในที่ประชุมจี-๒๐ ที่ประเทศอินโดนีเซียว่า “ทุกอย่างที่เราพูดคุยกันเมื่อวานนี้ ได้รั่วไหลลงหนังสือพิมพ์จนหมด นั่นไม่เหมาะสม นั่นไม่ใช่วิธีการที่เราทำ นั่นไม่ใช่วิธีดำเนินการสนทนาที่ถูกต้อง” “หากมีความจริงใจต่อกัน เราก็สามารถสื่อสารกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นผลที่ออกมาจะไม่ง่ายที่จะบอก” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พูดจบพร้อมกับส่ายหน้า ก่อนเดินผละไป
Reuters อธิบายภาพที่ไม่พบบ่อยนักว่าเป็น“การแสดงความรำคาญต่อสาธารณชนที่หาดูได้ยาก”โดย Xi ติดตามรายงานของสื่อเกี่ยวกับเนื้อหาของการพบปะกับทรูโด้ เมื่อวันอังคารทรูโด้เอาไปปูดกับสื่อซึ่งสีมองว่าไม่ครบถ้วนและไม่เหมาะสม
ในระหว่างการประชุมนาน ๑๐ นาที ทรูโดได้แสดงวาทะถึง”ความกังวลอย่างจริงจัง” เกี่ยวกับ “กิจกรรมแทรกแซง”ของจีนในแคนาดา อ้างมีการจารกรรมทางอุตสาหกรรมไปจนถึงการแทรกแซงการเลือกตั้งกลางปี ๒๕๖๒ แหล่งข่าวจากรัฐบาลแคนาดาบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี ชงสื่อแต่ด้านมุมของตัวเอง
จากแหล่งข่าวเดียวกัน พวกเขายังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน เกาหลีเหนือ และการประชุมความหลากหลายทางชีวภาพที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนธันวาคม ซึ่งปักกิ่งและออตตาวาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
สเตฟานี คาร์วิน ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยคาร์ลตันในออตตาวา กล่าวว่า “สีอาจไม่พอใจที่ข่าวการประชุมกับทรูโดของเขารั่วไหลไปยังสื่อของแคนาดา และใช้วิธีการเผชิญหน้ามากขึ้นเพื่อรักษาหน้าในครั้งต่อไปที่เขาพบเห็น นายกรัฐมนตรีแคนาดา”
เธอกล่าวว่า“ท้ายที่สุดแล้ว แคนาดาไม่ใช่ยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา และสีรู้ดีว่าเขาสามารถแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวในที่สาธารณะได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถใช้แคนาดาเป็นตัวอย่างให้กับรัฐอื่นๆรู้ได้โดยไม่มีผลกระทบมากนัก”
นักวิเคราะห์คงลืมผลงานทรูโด้แห่งแคนาดา กักขังซีอีโอหัวเหว่ยตามวาระวอชิงตัน เอาผิดไม่ได้ต้องปล่อยยังไม่ขอโทษสักคำ ทำไมสีจะต้องไว้หน้าคนแบบนี้ด้วย
การพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่าง Xi-Trudeau สั้น ๆ แต่เปิดเผยเน้นย้ำถึงความตึงเครียดระหว่างจีนและแคนาดา ซึ่งดำเนินอยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่การจับกุมเม็ง ว่านชู (Meng Wanzhou) ผู้บริหารของ Huawei Technologiesในปี ๒๐๑๘ และการจับกุมชาวแคนาดาสองคนในเวลาต่อมาของปักกิ่งในข้อหาสอดแนม ทั้งสามได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา
และเมื่อต้นเดือนนี้ แคนาดาสั่งให้บริษัทจีน ๓ แห่งถอนการลงทุนในแร่ธาตุที่สำคัญของแคนาดาตามคำร้องขอจากวอชิงตัน โดยอ้างความมั่นคงของชาติ
ด้วยความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ ทรูโด้จึงถูกกันออกจากการประชุมอย่างเป็นทางการใดๆ กับสี ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ทางการทูตสำหรับนายกรัฐมนตรี ผู้นำจีนใช้เวลาในบาหลีเพื่อพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ในการประชุมแบบปิดประตูซึ่งกินเวลากว่าสามชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ สียังได้พบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลียอย่างเอาใจใส่
ทรูโด้กล่าวกับนักข่าวหลังการโต้ตอบที่ตึงเครียดว่า “ไม่ใช่ทุกการสนทนากับผู้นำจีนจะเป็นเรื่องง่าย แต่เสริมว่าแคนาดาจำเป็นต้องสามารถมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ตรงนั้นเพื่อท้าทายสิทธิมนุษยชนและ คุณค่าที่สำคัญต่อชาวแคนาดา”
จะเห็นได้ว่าคำพูดของผู้นำจีนนั้น “เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา” ของผู้นำเคนาดา และรวมทั้งนักวิเคราะห์แคนาดาด้วย เพราะเขาไม่รู้ตัวเลยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดีนั้นพึงอยู่บนพื้นฐานการเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ท่าทีคุกคามอวดเบ่งและเจ้าเลห์เล่นลิ้น สำหรับชาวตะวันออกแล้วเป็นสิ่งน่ารังเกียจ????