จากที่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 สื่อต่างประเทศรายงานถึง นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ได้ปราศรัยต่อผู้นำธุรกิจในสิงคโปร์ในระหว่างการเดินทางมาร่วมประชุมกลุ่มจี20
โดยนายกฯเยอรมนี กล่าวว่า ในวันนี้ สหภาพยุโรป หรือ อียู ควรขยายความร่วมมือกับประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นในขณะที่มีสงครามในยูเครน
ทั้งนี้นายชอลซ์ ยังกล่าวอีกว่า การกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นถือเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์ของเยอรมนีกำลังเปลี่ยนแปลง หวังว่าจะเห็นความคืบหน้าโดยเร็วในการเจรจาทางการค้าระหว่าง อียูกับออสเตรเลีย อินเดีย และอินโดนีเซีย และเปิดกว้างเพื่อการเจรจาทางการค้าอยู่เสมอเพื่อให้บรรลุข้อตกลงกับประเทศอื่น ๆ นอกเหนือไปจากนี้
อย่างไรก็ตาม นายชอลซ์ อยู่ระหว่างการเดินทางเยือนเวียดนามในวันอาทิตย์ และหลังจาก แวะเยือนสิงคโปร์แล้วจะเดินทางต่อไปยังอินโดนีเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี20
โดยการตระเวนเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน และเป็นไปตามแนวทางของเยอรมนีที่จะสร้างความหลากหลายทางการค้าในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นดินแดนที่มีการเติบโต้ทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้กล่าวยกย่องถึงข้อตกลงใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และอาเซียนว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการแก้ไข ‘ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในยุคของเรา’
ในการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดี ไบเดน กล่าวว่าภูมิภาคนี้เป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของฝ่ายบริหารของเขา และวอชิงตันพร้อมที่จะจัดสรรทรัพยากร ไม่ใช่เพียงแค่วาทศิลป์ ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ครอบคลุมรอบด้านฉบับใหม่
“เราจะร่วมกันจัดการกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในยุคของเรา ตั้งแต่สภาพอากาศ ไปจนถึงความมั่นคงด้านสุขภาพ เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่อกฎระเบียบของภูมิภาค” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเปิดการประชุมในกัมพูชาร่วมกับผู้นำของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เราจะสร้างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง มั่นคงและมั่งคั่ง ยืดหยุ่นและปลอดภัย” ไบเดน กล่าว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อาเซียนกำลังมีส่วนร่วมกับบรรดาผู้นำต่างๆ เช่น ประธานาธิบดีไบเดน นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเบซี ของออสเตรเลีย และประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้
