จากที่กลุ่มโลกหลายขั้ว ซึ่งกลายเป็นฝ่ายอำนาจใหม่ที่นำโดยรัสเซียและจีนได้พันธมิตรชาติอาหรับ โดยเฉพาะชาติตะวันออกกลางที่มีก๊าซ น้ำมันอย่างซาอุฯ และมีรายงานข่าวที่กำลังพูดถึงกันอย่างมากกับการพันธมิตรใหม่
ล่าสุดวันนี้ 14 พฤศจิกายน 2565 Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความจากแหล่งที่มา ซึ่งมีข้อมูลที่สำคัญเป็นอย่างมากว่า “เยเมน เป็นประเทศในตะวันออกกลาง ประชากรราว 30 ล้านคน มีแหล่งทรัพยากรน้ำมันมาก แต่ยากจนเพราะรัฐบาลถูกเชิดโดยสหรัฐฯ สูบทรัพยากรเอาไป ปล่อยให้ชาวเยเมนอดอยาก
ปี 2014 นักรบท้องถิ่นฮูตี ทนไม่ไหวที่ต่างชาติแย่งผลประโยชน์ไปหมด จึงจับอาวุธขึ้นตั้งเป็นกองทัพฮูตี ต่อสู้รัฐบาล ความขัดแย้งลุกลามกองทัพฮูตี ทำรัฐประหารบุกยึดเมืองหลวงกรุงซานาได้สำเร็จ ประกาศปลดประธานาธิบดีอับดับบุห์ มันซูร์ ฮาดี โปรสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง แล้วแต่งตั้ง มุฮัมมัด อะลี อัลฮูษี ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่
ปรากฎว่าพรรคการเมืองฮูตี ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากจึงประกาศจัดตั้งรัฐบาล แต่สหรัฐฯ อ้างว่า “การเลือกตั้งในเยเมนไม่ใช่ประชาธิปไตย” จึงไม่รับรองรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่กลับรับรองพรรคนายฮาดีที่แพ้เลือกตั้งเป็นรัฐบาลแทน สร้างความมึนงงให้ชาวโลกอย่างมาก
สหรัฐฯ ปล่อยข่าวกรองลวงว่ารัฐบาลใหม่จากกองทัพฮูตี เป็นภัยคุกคามต่อซาอุฯ ให้ร่วมกับสหรัฐอาหรับอิมิเรต (UAE) ลุยนักรบฮูตี ไปก่อนได้เลยสหรัฐฯ รับประกันจะมายืนเคียงข้างเสมอไม่ต้องกลัว
ปี 2022 ซาอุฯ และ UAE ไม่พอใจสหรัฐฯ อย่างรุนแรงที่หนีไปยามยาก จึงยุติความสัมพันธ์ยาวนานกับสหรัฐ และชาติตะวันตก แล้วหันไปหารัสเซีย – จีน โดยมีโอมานร่วมเจรจาลับยุติสงครามคืบหน้าอย่างเป็นขั้นตอน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน เดินทางเยือนมอสโก ตามคำเชิญรัสเซีย
ประธานาธิบดีอัลอัสซาด แห่งซีเรีย เดินทางไปฟื้นความสัมพันธ์ในรอบหลายปีกับ UAE และเจรจาอิหร่าน และ จีน รัสเซีย เป็นตัวกลางเชื่อมอิหร่าน กับซาอุฯ สร้างความช็อคให้กับสหรัฐ อิสราเอล และชาติตะวันตก เป็นอย่างมาก ที่สถานการณ์พลิกผันระเบียบโลกเก่าเสื่อม
เม.ย.2022 ประธานาธิบดีฮาดี ผู้นำพลัดถิ่นเยเมน และมกุฎราชกุมาร มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย จัดแถลงข่าวที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุฯ โดยผู้นำพลัดถิ่นเยเมน แถลงขอลาออกจากตำแหน่ง ถ่ายโอนอำนาจอย่างเต็มที่ให้กับสภา 8 คนซึ่งนำโดยราชาด อัล-อาลิมี อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศ เจรจาแก้ปัญหาทางการเมืองขั้นสุดท้ายกับกลุ่มการเมืองฮูตี
เขาระบุว่าต่อไปนี้ประเทศเยเมนกำลังเข้าสู่ ช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยซาอุฯ และ UAE ได้แสดงความยินดีกับการเปลี่ยนแปลงอำนาจคราวนี้ พร้อมประกาศจัดสรรเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเยเมน
ซาอุฯ ยังมอบเงินเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนด้านมนุษยธรรมโดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของชาวเยเมน ทุกฝ่ายประกาศหยุดยิงระหว่างกันหลังจากติดหล่มสงครามกันมายาวนานถึง 8 ปี
ล่าสุดรัฐบาลเยเมน ขอความช่วยเหลือจากซาอุฯ ด้านพลังงานน้ำมันดีเซล กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ และมกุฎราชกุมาร มูฮัมหมัด บิน ซัลมาน นายกรัฐมนตรี ได้ตอบสนองคำขอของรัฐบาลเยเมนทันที
โดยส่งมอบน้ำมันดีเซล 4,000 ตัน (ราว 4 ล้านลิตร) ให้แก่เยเมนเรียบร้อยแล้ว ที่ท่าเรือนัชตูน นับเป็นการช่วยเหลือส่งมอบน้ำมันจากซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรก
นับตั้งแต่การหยุดยิงต่อกันมาหลายเดือน ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต่างคนต่างอยู่ไม่มีการใช้อาวุธโจมตีกันไปมาเหมือนเมื่อก่อน ซาอุฯ พบสัจจะธรรมว่า “พระคุณ ดีกว่าพระเดช” ยิ่งมอบพระคุณมากก็ดีต่อใจของ 2 ฝ่าย
ทำให้ฝ่ายจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว รัสเซีย – จีน ได้สมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่ง และเป็นชาติที่อุดมด้วยน้ำมัน และก๊าซ บรรดาชาติในกลุ่ม OpecPlus ล้วนเชี่ยวชาญด้านพลังงานกันทั้งนั้น เยเมนไม่ต้องลงทุนอะไร รอรับค่าสัมปทานไปพัฒนาคุณภาพชีวิตพลเมือง”