ม็อบโหด จลาจลเดือด! ท้วงรบ.ยุโรปให้นาโต้ ใช้ท่าเรือขนอาวุธส่งยูเครน ขณะรบ.อิตาลีแตกเละ รมต.แห่ชอบปูติน-โปรสหรัฐตีกันวุ่น
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (11 พฤศจิกายน 2565) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ม็อบในยุโรปกำลังระอุ ประท้วงรัฐบาลที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่จากการช่วยเหลือยูเครน โดยบอกว่า ความเดือดร้อนจากค่าครองชีพและพลังงานแพง เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่พอใจ สหภาพแรงงานรวมตัวสลับกันนัดหยุดงานทุกวันมานานหลายเดือนแล้ว มีเป้าหมายเพื่อต่อรองขอค่าจ้างเพิ่มขึ้นให้ทันกับอัตราเงินเฟ้อจนของแพงทั้งแผ่นดิน
การนัดหยุดงาน จึงนำมาซึ่งความชะงักงันและเป็นอัมพาตน็อคระบบเศรษฐกิจให้ดิ่งหัวลงไปอีก ยุโรปจะไม่มีโอกาสที่จะฟื้นตัวโงหัวได้เลยตราบเท่าที่ยังคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย เพราะพลังงานที่แพงจัดคือปัจจัยฉุดกระชากอัตราเงินเฟ้อให้ทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแต่ผู้ค้าพลังงานผูกขาดอย่างสหรัฐฯ จะกำหนดราคา บัดนี้ไม่มีการค้าเสรีสำหรับชาวยุโรปอีกแล้ว
ปัญหาความขัดแย้งของประชาชนภายในชาติยุโรป นำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฝ่ายค้านฝรั่งเศส ที่ครองเสียงข้างมากในสภาก็บล็อคกฎหมายที่รัฐบาลเสนอแล้วชวนประชาชนลงถนนแทน ที่อิตาลี ขาใหญ่ยุโรป ก็ไม่รอดจากมรสุมการเมืองรุมเร้าเช่นกัน เพราะเป็นรัฐบาลผสมที่ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งดันเป็นเพื่อนสนิทกับประธานาธิปดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียที่ส่งวอดก้าราว 20 ขวดมาอวยพรวันเกิดด้วยจนเขาคุยฟุ้งในหมู่เพื่อน
รัฐมนตรีใน ครม.อิตาลี ชื่นชอบถึงขนาดใส่เสื้อที่สกรีนภาพปูตินบนตัวเสื้อ จึงขัดแย้งกับรัฐมนตรีกลาโหมอิตาลีที่เป็นขาใหญ่สมาคมพ่อค้าอาวุธ ความขัดแย้งในรัฐบาลผสม 3 พรรคในอิตาลีทำให้ขาดเสถียรภาพของรัฐบาลที่ติดขัดไปหมด เพราะฝ่ายโปรรัสเซียจะคอยขัดขวางฝ่ายโปรสหรัฐ ในการออกมาตรการจำกัดต่างๆ ต่อรัสเซีย
สภาพรัฐบาลจึงง่อนแง่น กลายเป็นกระตุ้นความไม่พอใจให้ชาวอิตาลีจนสารพัดม็อบลงถนนมาเขย่ารัฐบาลให้เก้าอี้โยกคลอนตลอดเวลาจนไม่เป็นอันทำงานเช่นกัน ส่วนเยอรมนีนั้น รัฐบาลเป็นที่เอือมระอาของประชาชนมาหลายเดือนแล้ว สบช่องให้ฝ่ายค้านโหมกระแสโจมตีการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล และกระตุ้นประชาชนเมืองต่างๆ ให้ลงถนนมาก่อม็อบทุกวันมากขึ้นเรื่อยๆ จนสังคมไม่สงบสุข
แถมต้องใช้สนามบินเก่าตั้งเป็นศูนย์อพยพชาวยูเครนกว่า 1 ล้านคน ค่าใช้จ่ายมหาศาล ท่ามกลางปัญหาการปิดตัวหนีตายของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ส่วนบริษัทพลังงาน Uniper ที่รัฐทุ่มเงินกว่า 12,000 ล้านยูโร ซื้อหุ้นใหญ่มาครอง สุดท้ายก็ไม่รอดขาดทุนสะสมไปแล้ว 40,000 ล้านยูโร ยิ่งรัฐบาลถือหุ้นไว้นานเท่านั้น ก็จะฉุดสถานะการคลังให้ย่ำแย่ลงเท่านั้น ไม่มีการค้าใดที่ทำแล้วขาดทุนหนักตลอดเวลาจะอยู่ได้ สุดท้ายก็ไม่แคล้วต้องปล่อยให้ล้มละลายทิ้งเงินลงทุนรัฐไป
ส่วนเบลเยียม ที่ตั้งสำนักงานใหญ่กลุ่มสงคราม NATO ม็อบประชาชนก็ก่อความวุ่นวายหนักเช่นกัน ที่ดุเดือดปานสงครามกลางเมืองยามนี้คือ กรีซ เพราะอัตราเงินเฟ้อถึง 12% มากที่สุดในรอบ 30 ปี มากกว่าช่วงที่กรีซล้มละลาย เมื่อ 10 ปีก่อนเสียอีก บรรดาม็อบชายชุดดำต่างพกระเบิดเพลิงโมโตลอฟจำนวนมากขว้างใส่ตำรวจปราบจราจล ทำให้ฝ่ายตำรวจวิ่งแตกกระจายไม่กล้าเข้าใกล้ ชาวกรีซ มีประวัติศาสตร์หลายครั้ง เมื่อไรที่ม็อบเดือดร้อน พวกเขาจะมีวัฒนธรรมก่อการจราจลอย่างรุนแรงสุดขั้วทำลายทุกสิ่ง
ยิ่งถ้าใช้ความรุนแรงพวกเขาจะโกรธพร้อมจะงัดเอาทุกอย่างมาทำอาวุธต่อสู้ยืดเยื้อประมาณว่า “ไม่เละไม่เลิก”
ยามม็อบชาวกรีซ ลุกฮือจะไม่มีรัฐบาลใดรอดไปได้ ยิ่งมีนโยบายให้กลุ่มสงคราม NATO ใช้ท่าเรือขนอาวุธมาลง แล้วผ่านไปยังโปแลนด์ จะยิ่งกระตุ้นทำให้บรรดาม็อบฮาร์ดคอร์ก่อการจราจลรุนแรงหนักขึ้นไปเรื่อยๆและเมื่อถึงจุดนั้นก็คงสายเกินไป เพราะคงไม่มีใครหยุดพวกเขาได้แล้ว
ที่เปราะบางต่อความรู้สึกชาวยุโรปในเวลานี้คือ การที่ EU จะโอนเงินกู้ค่าอาวุธให้ยูเครนภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้จำนวน 2,000 ล้านยูโร และจาก IMF อีก 2,500 ล้านดอลลาร์ แถม EU ยังรับประกันว่าในปีหน้า 2023 จะให้เงินกู้ยูเครนจำนวน 18,000 ล้านยูโร แต่จะขอจ่ายเงินต้นเดือนละ 1,500 ล้านยูโร จำนวน 12 เดือน สัญญากู้เงินก้อนนี้จะให้ยูเครนผ่อนชำระนาน 35 ปี เพราะของฟรีไม่มีในโลก
ยังไม่รวมเงินกู้เก่ายูเครน พักชำระหนี้ไว้ 2 ปี , เงินกู้ของ EU ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาอีกหลายพันล้านยูโร และเงินกู้ค่าอาวุธจากสหรัฐฯ อีกเกือบ 67,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นถ้าเทียบฐานระยะเวลาที่ยูเครนจะต้องผ่อนชำระ 18,000 ล้านยูโรในเวลา 35 ปี เงินกู้อื่นทุกยอดเงินกู้รวมกัน คำนวนระยะเวลาผ่อนชำระเจ้าหนี้ในขณะนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 200 ปี
ในเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มอีก ซึ่งจากสถานการณ์ยูเครนยามนี้คงเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นชาวยูเครน อีกราว 3 ชั่วอายุคน ก็คงไม่สามารถใช้หนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ที่รัฐบาลนี้ก่อไว้ได้หมด
ที่สำคัญชาวยุโรปทุกคน ที่เป็นเจ้าหนี้ก็จะไม่ได้รับเงินกู้คืนในเวลาอันสั้นยามที่พวกเขากำลังเดือดร้อนเช่นกันจากหนี้สินค้าไฟฟ้า ที่อยู่อาศัย อาหาร ที่พวกเขาไม่มีจ่าย นี่คือชนวนความไม่พอใจอย่างรุนแรงที่รัฐบาลยุโรปจะต้องเผชิญกับอารมณ์โกรธเกรี้ยวยามก่อจราจลของประชาชนตนเอง ยิ่งยุโรปส่งเงินกู้ให้ยูเครนมาก จราจลก็จะใหญ่ขึ้นมากแค่นั้น
