จากสถานการณ์ของตะวันออกกลางที่มีชาติยุโรปอย่างสหรัฐเข้าไปเกี่ยวโยง รวมทั้งอิสราเอลที่มีการโจมตีกันเกิดขึ้นกับกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งอเมริกาได้สนับสนุนบางฝ่าย จนกระทั่งเกิดการตอบโต้ ลอบสังหารและทำลายโรงงานนิวเคลียร์ด้วย
ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Blockdit World Update ได้นำมาเผยแพร่ไว้บางช่วงโดยระบุจากแหล่งที่มาว่า “ในย่านตะวันออกกลางนั้นมี 3 ก๊ก ช่วงชิงอำนาจกัน ก๊กแรกคือ อิสราเอล จอร์แดน โดยการสนับสนุนจากฝ่ายระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวสหรัฐ และชาติยุโรป ก๊กที่ 2 คือ ซาอุดิอาระเบีย และชาติกลุ่มอ่าวอาหรับราชวงศ์ และอิรัก
ก๊กที่ 3 คือ อิหร่าน เลบานอน ซีเรีย และชาติอื่นที่ปกครองโดยระบบสภา และเคยทำสงคราม 6 วันกับอิสราเอล , โดยแต่ละก๊ก จะขัดแย้งกันเองไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน
ในปี 2022 รัสเซีย – จีน ร่วมกันจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว ดึงก๊กที่ 2 และ 3 มาร่วมด้วย ทำให้ก๊กที่ 1 เดียวดาย แม้ว่าสหรัฐฯ จะพยายามเป็นตัวกลางสานสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอล กับก๊กที่ 2 ก็ไม่สำเร็จ ไม่คืบหน้าใดๆ
ก๊กที่ 2 กับ 3 ได้แอบสานสัมพันธ์เงียบๆ มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมจากการเดินทางเยือนระหว่างกัน และข้อตกลงหยุดยิงในสงครามเยเมนมาถึงทุกวันนี้ แม้ชาติตะวันตกจะปั่นข่าวกรองลวงให้หวาดระแวงเปิดศึกรอบใหม่ แต่ 2 ก๊กก็นิ่งเฉยไม่ยอมหลงกล
จึงยังคงเหลือความขัดแย้งก๊กที่ 1 กับ 3 ที่ยังคงอยู่ เพราะก๊กที่ 1 ลูกพี่สหรัฐ ยังไปยึดครองดินแดนซีเรีย ลักลอบขโมยน้ำมันขนใส่รถบรรทุกออกไป และมีการลอบสังหาร โจมตีด้วยลูกยาวกันไปมาระหว่าง 2 ก๊กแทบทุกวัน
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2022 ที่ผ่านมานายสเตฟาน เอ็ดเวิร์ด เทโรเอล ชาวอเมริกัน ลูกจ้างขององค์กร USAID เขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA ภายใต้หน้ากากของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และหมวด เอริค เฉิง กองทัพแคนาดา เขาทั้ง 2 คน ถูกลอบสังหารเสียชีวิตในกรุงแบกแดด อิรัก
สหรัฐฯ อ้างว่ากลุ่มที่สนับสนุนอิหร่านในอิรัก น่าสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารชาวต่างชาติ 2 คนแต่กลับไม่มีหลักฐานใด เป็นแค่ความคิดฝ่ายเดียวเท่านั้น
คืนต่อมากองทัพสหรัฐฯ และหน่วยข่าวกรองมอสสาด อิสราเอล ใช้อากาศยานโดรนติดอาวุธโจมตีขบวนรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเลบานอน ของกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ ในพื้นที่ Al-Bu-Kemal ชายแดนซีเรีย-อิรัก มีรายงานว่ามีนักรบฮิซบุลลอฮ์เสียชีวิตราว 20 รายและรถบรรทุกน้ำมันเสียหาย 21 คัน
จากนั้นไม่นานมีจรวดหรืออากาศโดรนติดอาวุธ ลอบโจมตีพื้นที่โรงงานนิวเคลียร์ลับไดโมนา ทางใต้ของอิสราเอล จนเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ต่อโครงสร้างพื้นฐานใกล้โรงงานแห่งนี้
เมื่อปีที่แล้วอิสราเอลยิงจรวดโจมตีสนามบินซีเรีย ทางซีเรียก็สวนกลับด้วยการยิงจรวดใส่สนามบินเมืองไดโมนา ทางใต้ของอิสราเอลเช่นกัน และเมื่อช่วงก่อนกลางปีนี้อิสราเอลยิงจรวดใส่มาก่อน ซีเรียก็สวนกลับโดยใช้ระบบต่อต้านอากาศยาน S-300 รัสเซีย สอยเครื่องบินรบอิสราเอล ที่ซื้อมาจากสหรัฐฯ ร่วงหัวปักพื้นไป ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีใครยอมกัน
นับแต่บัดนี้ไป ที่ก๊กที่ 1 ใช้อากาศยานโดรนโจมตีขบวนรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเลบานอน ของกองกำลังฮิซบุลลอฮ์ ก๊กที่ 3 แล้วโดนสวนกลับโจมตีใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ประจวบกับอิหร่านชักธงแดงแก้แค้นเหนือมัสยิดสำคัญของชาติ นี่คือ สัญญาณยกแรกเริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อใดอิสราเอล ขยับหมากก่อนทำให้เสียสมดุลในกองกำลังที่ปิดล้อมประเทศตนเอง แม้เพียงกลุ่มใดในก๊กที่ 3 คือ ฮิซบุลลอฮ์ เลบานอน , ฮามาส ปาเลสไตน์ , ซีเรีย , อิหร่าน ทั้งก็กนี้ก็จะรอจังหวะ “กฐินสามัคคี” ร่วมด้วยช่วยกันสลับกันโจมตีวนไปวนมา
นั่นหมายความว่า อิสราเอล มีความเสี่ยงจะถูกรุมโจมตีทุกทิศทางรอบใหม่เริ่มขึ้นแล้ว โดยอิสราเอลเป็นผู้ตัดริบบิ้นเปิดงานเชื้อเชิญแขกด้วยตนเอง กรณีโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ลับไดโมนาของอิสราเอล คือ แขกรายแรกที่ผ่านทะลุประตูบ้านเข้าไปแล้ว”