สหรัฐร้องจ๊าก! หากรัสเซียระงับส่งยูเรเนียม ไฟฟ้าดับหลายรัฐ หัวรบนิวเคลียร์-เรือดำน้ำเดี้ยงแน่?

0

จากที่เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 Blockdit  World Update โพสต์ข้อความถึงการนำเข้าสินค้าที่สำคัญของสหรัฐจากรัสเซีย ซึ่งเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบเรื่องราวนี้มาก่อน โดยมีข้อมูลที่ชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้เนื้อหาที่ Blockdit  World Update ได้นำมาเผยแพร่ไว้ระบุจากแหล่งที่มาไว้อย่างน่าสนใจที่มีบางส่วนเปิดเผยไว้ว่า “ปี 2020 ข้อมูลจากสมาคมนิวเคลียร์โลกและสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ ระบุว่ารัสเซีย คาซัคสถาน และอุซเบกิสถาน คือผู้ส่งออกแร่ยูเรเนียม 10.3 ล้าน กก. หรือ 50% ขายให้งานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สหรัฐ

โดยเฉพาะบริษัท Rusatom รัฐวิสาหกิจรัสเซียและบริษัทในเครือ ที่อยู่ในสหรัฐ ออสเตรเลีย แคนาดา คาซัคสถาน นามิเบีย แทนซาเนีย ก็เป็นบริษัทลูก Rusatom รัสเซีย ที่ส่งออกแร่ยูเรเนียมให้กับทั้งโลก 36%

รัสเซีย มีศักยภาพมากที่สุดในโลกในการแยกไอโซโทปยูเรเนียมมากถึงราว 50% ของทั้งโลก ที่ต้องใช้ความรู้และเทคนิคซับซ้อนมาก  สหรัฐ จึงต้องนำเข้ายูเรเนียมรัสเซีย 16.5% ในจำนวนนี้ราว 1 ใน 4 สำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ ส่วน 3 ใน 4 ใช้ทางทหาร เช่น หัวรบนิวเคลียร์ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ฯลฯ

กระทรวงพลังงานสหรัฐ ระบุหากรัสเซียระงับส่งออกยูเรเนียมให้สหรัฐ  อาจนำไปสู่สถานการณ์เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ของสหรัฐต้องหยุดทำงาน กระทบถึงไฟฟ้าดับหลายรัฐ

รัสเซีย เป็นอันดับ 2 ในการผลิตยูเรเนียมของโลก และครองอันดับ 1 อย่างเหนือชั้นในด้านการเสริมสมรรถนะและการเปลี่ยนรูปยูเรเนียม และรั้งอันดับ Top 3 ในด้านการผลิตเชื้อเพลิงตัวนี้อย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมาสหรัฐฯ จำเป็นต้องพึ่งพายูเรเนียมเสริมสมรรถนะจากรัสเซียสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นอย่างมาก เพราะสหรัฐได้สูญเสียความสามารถทั้งในด้านการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมและการขุดค้นหาวัตถุดิบตัวนี้สำหรับภาคอุตสาหกรรมไปแล้ว

หากบริษัทในเครือ Rusatom รัสเซีย ขึ้นราคาจำหน่ายแร่ยูเรเนียมเพิ่ม จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนิวเคลียร์ในสหรัฐ และสหภาพยุโรป เพราะปัจจุบัน รัสเซีย จึงเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงประเภทนี้สำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบโดยโซเวียต ที่มีการติดตั้งในสาธารณรัฐเช็ก ฮังการี ฟินแลนด์ บัลแกเรีย โรมาเนีย และสโลวาเกีย

ประเทศสวีเดน ใช้พลังงานนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้า 31% ของประเทศ เมื่อคว่ำบาตรรัสเซีย ก็เกิดปัญหาขาดแคลนแร่ยูเรเนียมราคาถูกที่บริษัท Rusatom รัสเซียครองตลาดโลก ทำให้เครื่องปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดนพังชำรุด เกิดความล้มเหลวของกังหันในเตาปฏิกรณ์ที่ต้องใช้อะไหล่จากรัสเซีย ทำให้ต้องปิดโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวีเดน ขนาด 1,400 เมกะวัตต์ ลงอย่างสมบูรณ์ไปแล้วเรียบร้อย

ระยะต่อไปนี้จะส่งผลให้ราคาไฟฟ้าในในสวีเดนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ว่าแพงแล้ว ต้องแพงขึ้นไปอีก 13% โดยจะขึ้นราคาทางภาคใต้ของสวีเดนก่อน

จากนั้นจะลุกลามขึ้นราคาค่าไฟฟ้าไปพื้นที่อื่นตามลำดับ และขืนยังดันทุรังคว่ำบาตรรัสเซียต่อ ราคาแร่ยูเรเนียม และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่จะนำมาใช้ดำเนินการโรงไฟฟ้าก็จะสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

สวีเดนยามฤดูหนาวจัดอุณหภูมิจะติดลบ การพังชำรุดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของประเทศ ช่วงต้นฤดูหนาวพอดีเป็นสิ่งที่สร้างความวิตกกังวลต่อระบบไฟฟ้าในภาพรวมของชาติอย่างมาก

เพราะต้องแบ่งไฟฟ้าจากภาคอื่นมายังพื้นที่ไม่มีโรงไฟฟ้าเมื่อถึงฤดูหนาวจัด สวีเดนก็เสี่ยงจะประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า จนต้องดับไฟฟ้าในบางเวลาของวัน”